"อนุชา" แจงไทม์ไลน์ หลังลต.ยังเหมือนเดิม ลั่น รบ.ยังไม่ต้องเก็บของ นั่งทำงานจนกว่าจะมีครม.ใหม่ ชี้เลือกนายกฯไม่มีเงื่อนเวลา อัดก้าวไกลพูดเกินเหตุ
เมื่อเวลา 13.45 น. วันนี้(1 มิ.ย.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากกรณีที่มีข่าวในส่วนหลายๆท่าน ไม่ว่าจะเป็นทางโฆษกพรรคก้าวไกล เช่น พูดว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ตั้งแต่หลังการเลือกตั้งเป็นต้นมา ยังไม่พูดแสดงความยินดีกับผู้ได้รับการเลือกตั้งต่างๆ หรืออะไรต่างๆ
อันนี้คงต้องชี้แจงว่า นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีกับพรรคการเมืองที่ได้รับความไว้วางใจกับพี่น้องประชาชนไปตั้งแต่สัปดาห์แรกหลังการเลือกตั้งแล้ว โดยหลังการประชุมคณะรัฐมนตรีนัดแรกวันอังคารหลังการเลือกตั้ง นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวแสดงความยินดีไปแล้ว
ฉะนั้นตรงนี้อยากให้เข้าใจตรงกัน และส่วนที่มีการพูดถึงว่า ณ วันนี้เรื่องของสปิริตในการที่นายกรัฐมนตรีหรือรัฐบาลชุดปัจจุบัน ทำไมถึงไม่ดำเนินการในลักษณะที่จะให้ความร่วมมือในการที่จะมีการเปลี่ยนผ่านหลังเลือกตั้งมาแล้ว และทราบว่าพรรคการเมืองใดกำลังจัดตั้งรัฐบาลกันอยู่ ซึ่งตรงนี้ตนได้เคยชี้แจงไปหลายรอบแล้ว ในเรื่อง ไทม์ไลน์ ต่างๆว่า หลังจากการเลือกตั้งจะมีกำหนดระยะเวลาอย่างไรบ้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง จะมีการรับรองภายใน 60 วันหลังการเลือกตั้ง และหลังจากที่มีการรับรองแล้ว จะมีการเปิดสมัยประชุมสภาฯเพื่อเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร และเมื่อได้ประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ก็จะมีการเลือกนายกรัฐมนตรี
เมื่อนายกรัฐมนตรีมีการจัดตั้งคณะรัฐมนตรีและถวายสัตย์ ปฏิญาณแล้ว รัฐบาลชุดนี้ก็จะหยุดปฏิบัติหน้าที่และพร้อมให้ทางรัฐบาลใหม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ต่อ ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นประมาณต้นเดือนสิงหาคม ตรงนี้อยากชี้แจงทำความเข้าใจกับพี่น้องประชาชนว่า ไทม์ไลน์ ต่างๆยังไม่มีการเปลี่ยนแปลง ทุกอย่างยังเป็นลักษณะนี้อยู่ และ ปัจจุบัน หากพรรคการเมืองที่กำลังรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล ทางรัฐบาลเองไม่ได้ลักษณะห้ามปรามหากจะเดินสายไปพบกับหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ ซึ่งเราก็เห็นอยู่ทั้งสภาพอุตสาหกรรม สภาหอการค้าไทยต่างๆ
อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับภาคราชการ ต้องบอกว่า ในส่วนของข้าราชการเองก็มีเสียงสะท้อน พูดคุยกลับมาทางรัฐบาลเหมือนกันว่า ในลักษณะเช่นนี้อาจจะเหมาะสมหรือไม่อย่างไร เพราะปัจจุบันรัฐบาลที่กำลังดำเนินงาน ยังคงทำหน้าที่อย่างเต็มที่อยู่แล้ว โดยมีการประชุมกับหน่วยงานราชการ และคณะรัฐมนตรีต่างๆ จึงอยากให้ประชาชนและพรรคการเมืองโดยเฉพาะอย่างยิ่งพรรคการเมืองที่กำลังฟอร์มจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ได้เข้าใจบทบาทหน้าที่ของรัฐบาลในปัจจุบันและบทบาทหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีในปัจจุบันด้วยว่ายังคงทำหน้าที่อยู่ และในส่วนของ ไทม์ไลน์ต่างๆ สิ่งแรกรอคณะกรรมการการเลือกตั้ง ประกาศเรื่องการรับรองผู้สมัคร ส.ส. ตามไทม์ไลน์ที่พูดถึงจะมีการเรียกประชุมสภาผู้แทนราษฎรได้เมื่อมีการรับรอง ส.ส. ได้ครบ 95% หรือประมาณ 475 คน ซึ่งถือเป็นครรลองที่รัฐบาลชุดนี้ได้ประกาศมาตลอดระยะเวลา จึงอยากให้พรรคการเมืองที่กำลังจัดตั้งรัฐบาลอยู่ ได้เข้าใจรวมถึงพี่น้องประชาชนเพื่อเข้าใจตรงกันในเรื่องของ ไทม์ไลน์ และการปฏิบัติหน้าที่ของรัฐบาลในชุดปัจจุบันด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า ถ้าสมมุติยังตั้งรัฐบาลไม่ได้ ไทม์ไลน์จะเลยเดือนสิงหาคมก็มีความเป็นไปได้ใช่หรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่าการรับรองส.ส.ต้องอยู่ภายใน 60 วันตรงนั้นชัดเจน หลังจากนั้นจะมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกำหนดไว้หลังจากมีการเรียกประชุมแล้ว เมื่อมีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว การที่จะเลือกนายกรัฐมนตรี ไม่ได้กำหนดระยะเวลาไว้ ฉะนั้นตรงนี้รัฐบาลทำหน้าที่ต่อไป ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของนโยบายอนาคตอาจจะเกิดอะไรขึ้นมาก็ตาม เราคงดำเนินการในลักษณะที่กกต.กำหนดไว้อยู่แล้วว่า 1. จะไม่ใช้ในส่วนของงบประมาณที่ยังไม่ได้อนุมัติจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง 2. การจะดำเนินนโยบายอะไรต่างๆคงต้องรอรัฐบาลชุดใหม่เข้ามา ซึ่งที่ผ่านมาตลอดระยะเวลาเกือบ 3-4 สัปดาห์ได้ดำเนินการอย่างเคร่งครัดในเรื่องนี้ อย่างเช่นเรื่องการลดค่าไฟ เราได้มีการดำเนินการส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่องการโยกย้ายบุคลากรต่างๆก็ได้ส่งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่ออนุมัติกลับมา
เมื่อถามว่า แสดงว่าการที่ออกมาพูดว่านายกรัฐมนตรีไม่เก็บข้าวเก็บของตรงนี้ถือว่าเกินเลยไปหรือไม่ นายอนุชา กล่าวว่า การที่ออกมาพูดว่ารัฐบาลไม่โชว์สปิริตและไม่มีการมอบหมายหรือไม่มีการดำเนินการในลักษณะเหมือนเตรียมเก็บของเพื่อที่จะออกจากทำเนียบรัฐบาลอะไรต่างๆ คิดว่าเป็นการพูดที่เกินกว่าเหตุ ตอนนี้ในส่วนของการจัดตั้งรัฐบาลทุกคนก็กำลังให้กำลังใจอยู่ อยากให้พรรคการเมืองที่ได้มีการรวบรวมเสียงของผู้ที่ประชาชนให้การเลือกตั้งมา เราอยากให้ดำเนินการให้เสร็จเรียบร้อยและเป็นไปด้วยความเรียบร้อย นายกรัฐมนตรีกล่าวอยู่ เสมอว่า ตอนนี้ท่านจะไม่ไปก้าวล่วงและจะให้พรรคการเมืองที่ได้รับเสียงจากพี่น้องประชาชนได้เดินหน้าอย่างเต็มที่ เพียงแต่ให้ระมัดระวังเรื่องของระเบียบต่างๆเท่านั้นเอง ซึ่งท่านได้ให้ข้อสังเกต เช่น การเรียกข้าราชการหรืออะไรต่างๆเท่านั้นเอง
เมื่อย้ำถามว่า แสดงว่า ยังไม่มีการเก็บของจนกว่าจะได้รัฐบาลใหม่ใช่หรือไม่ นายอนุชากล่าวว่า รัฐบาลชุดนี้ยังไงจะทำหน้าที่จนกว่าจะมีคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ และอยากให้เข้าใจ ไทม์ไลน์ ตรงกันไม่ใช่ วันที่มีการเลือกนายกรัฐมนตรีแล้วตรงนั้นก็ถือว่ายังไม่เสร็จสิ้นต้องให้มีการฟอร์มคณะรัฐมนตรีเข้าเฝ้าถวายสัตย์ปฏิญาณก่อน นั่นถึงจะเรียกว่า เป็นการยุติของรัฐบาลชุดปัจจุบัน ฉะนั้น ไม่มีเหตุผล อะไร ที่เราจะต้องเก็บเข้าเก็บของโชว์สปิริตในการที่จะไม่มาทำงาน เวลานี้เราต้องเข้ามาทำหน้าที่ แม้กระทั่งตามกระทรวงต่างๆรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ยังต้องเข้ามาทำงานทำเนียบรัฐบาลตามปกติ
เมื่อถามว่า กรณีที่ไม่มีไทม์ไลน์เรื่องการเลือกนายกรัฐมนตรี เขาจะว่าเราไม่ได้เพราะเลือกกันไม่ได้เองใช่หรือไม่ ตรงนี้จะทำความเข้าใจอย่างไร นายอนุชากล่าวว่า ในเรื่องการที่มีการเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร เลือกรองประธานสภาฯ คนที่ 1 คนที่ 2 แล้ว หลังจากนั้นจะเป็นหน้าที่ของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ที่จะรวบรวมเสียงหรือมีการพูดคุยกันอาจจะผ่านพรรคร่วมที่แสดงเจตจำนงจัดตั้งรัฐบาลเพื่อที่จะเสนอชื่อ ซึ่งหากตรงนั้นไม่สามารถดำเนินการได้ รัฐบาลชุดนี้ก็ยังทำหน้าที่ต่อไป โดยไม่มีกำหนดเวลาว่าจะต้องเสร็จสิ้นภายในเวลาเมื่อไหร่ หากยังหาไม่ได้ รัฐบาลชุดนี้ก็คงต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ อันนี้เป็นเรื่องของระเบียบกฎหมายที่กำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว