นายกฯไทย หารือ นายกฯ ศรีลังกา ย้ำความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิด บนพื้นฐานร่วมทางศาสนาและวัฒนธรรม พร้อมผลักดันความร่วมมือ โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจและการพัฒนาในด้านต่างๆ ที่เป็นประโยชน์
วันนี้ (31 พ.ค.) เวลา 10.00 น. ณ ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นายทิเนศ คุณวรรเทนะ (H.E. Mr. Dinesh Gunawardena) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา เข้าพบหารือ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสเยือนประเทศไทย เพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา วันสำคัญสากลของโลก ครั้งที่ 18 โดยภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับนายกรัฐมนตรีศรีลังกา ในโอกาสเยือนไทยเพื่อเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ซึ่งไทยและศรีลังการ่วมกันจัดมาอย่างสม่ำเสมอ สะท้อนถึงความสัมพันธ์อันใกล้ชิดระหว่างไทยกับศรีลังกา โดยเฉพาะความสัมพันธ์ทางพุทธศาสนาที่เชื่อมโยงทั้งสองประเทศมายาวนานกว่า 700 ปี โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียินดีที่เศรษฐกิจศรีลังกาฟื้นตัวสู่สภาวะปกติ และหากศรีลังกาประสงค์ให้ไทยช่วยเหลือเพิ่มเติมประการใด สามารถแจ้งความประสงค์แก่ฝ่ายไทยได้ นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณรัฐบาลศรีลังกาที่อนุมัติการนำช้างพลายศักดิ์สุรินทร์ซึ่งเป็นช้างที่รัฐบาลไทยมอบให้รัฐบาลศรีลังกากลับมารักษาที่ไทย
นายกรัฐมนตรีศรีลังกาขอบคุณนายกรัฐมนตรีที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น ยินดีที่ได้เดินทางมาเข้าร่วมพิธีเฉลิมฉลองวันวิสาขบูชา ซึ่งมีความสำคัญยิ่งต่อทั้งสองประเทศ รวมถึงเป็นจุดเชื่อมโยงความร่วมมือระหว่างสองประเทศมายาวนาน อย่างไรก็ดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ทั้งสองฝ่ายจะเพิ่มพูนความสัมพันธ์และความร่วมมือระหว่างกันในสาขาอื่นๆ ที่มีศักยภาพ โดยเฉพาะด้านการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ตลอดจนผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกันมากขึ้นในทุกระดับ ทั้งในระดับสูงและระดับประชาชน ทั้งการเดินทางมาท่องเที่ยวและการศึกษา โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีศรีลังกาขอบคุณความช่วยเหลือจากประเทศไทยในช่วงที่ศรีลังกาประสบกับวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมทั้งชื่นชมในศักยภาพทางเศรษฐกิจของไทย ซึ่งศรีลังกาต้องการเพิ่มความร่วมมือและเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีจากไทย โดยเฉพาะในด้านความมั่นคงทางอาหาร
โอกาสนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือเกี่ยวกับประเด็นความร่วมมือที่สำคัญร่วมกัน ได้แก่
ด้านเศรษฐกิจ ทั้งสองฝ่ายยินดีต่อความคืบหน้าในการเจรจาความตกลงการค้าเสรีไทย-ศรีลังกา พร้อมหวังว่า ทั้งสองฝ่ายจะบรรลุข้อสรุปร่วมกันได้ในช่วงต้นปี 2567 ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการยกระดับความร่วมมือ และเพิ่มมูลค่าการค้าระหว่างกัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีศรีลังกาขอให้ฝ่ายไทยสนับสนุนนักธุรกิจไทยให้เข้าไปลงทุนในศรีลังกามากขึ้นในโครงการสำคัญต่าง ๆ ซึ่งขณะนี้มีภาคเอกชนไทยส่วนหนึ่งให้ความสนใจเข้าไปลงทุนในโครงการ Port City of Colombo ของศรีลังกาแล้ว โดยนายกรัฐมนตรีเชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญของภาคเอกชนไทยในด้านบริการ การท่องเที่ยว และการค้าปลีก จะเป็นประโยชน์ต่อโครงการของศรีลังกา
ด้านการพัฒนา นายกรัฐมนตรียินดีให้การสนับสนุนศรีลังกาเป็นหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาในสาขาต่างๆ ที่เป็นประโยชน์ ตลอดจนเพิ่มความร่วมมือกับศรีลังกาในสาขาที่ไทยมีศักยภาพ โดยเฉพาะสาธารณสุข การบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยว การเกษตร การพัฒนาสตรีและเด็ก รวมถึงการส่งเสริมการพัฒนาตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง พลังงานทดแทน และ Bio-Circular-Green (BCG) Economy ซึ่งฝ่ายศรีลังกาต้องการเรียนรู้แนวปฏิบัติที่ดีและองค์ความรู้จากไทยในด้านต่างๆ เพื่อนำไปพัฒนาประเทศ
ในตอนท้าย ทั้งสองฝ่ายเห็นพ้องกันว่า ไทยและศรีลังกาควรกระชับความร่วมมือกันอย่างรอบด้าน เพื่อรับมือกับความท้าทายทางด้านเศรษฐกิจ และความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณศรีลังกาที่พร้อมให้การสนับสนุนไทยในการสมัครเป็นเจ้าภาพจัดงาน Expo 2028 - Phuket และยินดีที่ได้ทราบว่า ประธานาธิบดีศรีลังกามีความตั้งใจจะเข้าร่วมการประชุม BIMSTEC Summit ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในช่วงปลายปีนี้