สบช่อง! ท้องถิ่นขอแบ่งเค้ก กระทรวงท่องเที่ยวฯ ปีละกว่า "หมื่นล้านบาท" รายได้จากกองถ่ายทำภาพยนตร์ ทั้งไทย-ต่างประเทศ อ้างเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ อปท. หลังจากการถ่ายภาพยนตร์ในพื้นที่แล้วเสร็จ ดันเป็น "เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ" รายการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวในท้องถิ่น
วันนี้ (30 พ.ค.2566) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า เมื่อเร็ว ๆ นี้ กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) เวียนหนังสือถึง ผู้ว่าราชการจังหวัด ทุกจังหวัด แจ้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ทั่วประเทศ
ในฐานะเป็นหน่วยงาน ในการจัดทำบริการสาธารณะและกิจกรรมสาธารณะในระดับพื้นที่และมีอำนาจหน้าที่ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม
"ให้ศึกษาแนวทางในการจัดทำงบประมาณของ อปท. กรณีเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังจากการถ่ายภาพยนตร์ในพื้นที่"
โดยให้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม จากสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัด ทุกจังหวัด และ กองกิจการภาพยนตร์และวีดิทัศน์ต่างประเทศ กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (กก.)
หนังสือดังกล่าว เห็นว่า เนื่องจากการถ่ายทำภาพยนตร์ของต่างประเทศ มีเพียงเฉพาะบางพื้นที่เท่านั้น หาก อปท.ใด มีความจำเป็น ที่จะขอรับการสนับสนุนงบประมาณ เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หลังจากการถ่ายภาพยนตร์ในพื้นที่
ให้ศึกษาแนวทางเพื่อ ขอรับการสนับสนุนเป็น "เงินอุดหนุนเฉพาะกิจ" ในรายการส่งเสริมภาคการท่องเที่ยว รายการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว เป็นเงินอุดหนุนเฉพาะกิจ เฉพาะโครงสร้างพื้นฐาน
หนังสือดังกล่าว เห็นว่า แม้ กก. จะเป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบเกี่ยวกับการขออนุญาต สำหรับการถ่ายทำภาพยนตร์ ทั้งการถ่ายทำภาพยนตร์ไทยและภาพยนตร์ของต่างประเทศในประเทศไทย
"แต่หากมีการถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่รับผิดชอบของ อปท.ใด หน่วยงานที่อนุญาตให้ถ่ายทำภาพยนตร์ ควรเชิญ อปท. นั้นเข้ามามีส่วนร่วมในการพิจารณา ให้ความเห็นชอบก่อนดำเนินการ"
เนื่องจากการดำเนินการดังกล่าว อาจกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ขนบธรรมเนียมและจารีตประเพณีอันดีงามชองท้องถิ่นนั้น ๆ ได้
ทั้งนี้ เพื่อ อปท.จะไดํไปสร้างความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ให้ร่วมกันเป็นเจ้าบ้านที่ดี เพื่อให้การถ่ายทำภาพยนตร์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย
สร้างความประทับใจผู้สร้างภาพยนตร์ และคณะถ่ายทำให้อยากเข้ามาท่องเที่ยวหรือถ่ายทำภาพยนตร์ในพื้นที่อีกครั้ง อันจะก่อให้เกิดการจ้างงาน การกระจายรายได้ และกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น
ในช่วงที่ผ่านมารัฐบาลได้มีมาตรการส่งเสริมการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างชาติในประเทศไทย โดยการให้สิทธิประโยชน์ในรูปแบบ Cash Rebate 20% ของเงินทุนที่นำมาใช้จ่ายในประเทศ
ทำให้ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564- 30 มีนาคม 2565 มีภาพยนตร์ต่างประเทศเข้ามาถ่ายทำในประเทศไทย 196 เรื่อง สร้างรายได้กว่า 6,384 ล้านบาท
ซึ่งเป็นรายได้ทางตรงจากกองถ่ายภาพยนตร์ ยังไม่นับรวมมูลค่าจากการท่องเที่ยวที่จะตามมาหลังภาพยนตร์ดังกล่าวได้ถูกเผยแพร่
แต่กลับไม่พบว่า มีงประมาณเพื่อฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหลังจากการถ่ายภาพยนตร์ในพื้นที่.