ถึงคิว! งบกลางเกือบ “พันล้านบาท” รัฐบาลรักษาการ จัดสรรไม่ได้ เหตุติดกฎหมายเลือกตั้ง เผย จำเป็นต้องใช้จ่ายเงินเดือน/สวัสดิการ บุคลากร “รพ.สต.” มากกว่า 1 หมื่นคน ที่ถ่ายโอนภารกิจไปยัง 49 อบจ. ปี 2566 เผย รัฐบาลรักษาการ สั่ง สถ.แจ้ง 49 อบจ. ให้ใช้สารพัดงบ ทั้งงบที่ได้รับจัดสรรก่อนหน้า งบเหลือจ่าย หรือ เงินรายได้เงินสะสมของ “ท้องถิ่น” คงเหลือมาจ่ายสมทบไปก่อน
วันนี้ (24 พ.ค.) มีรายงานจากกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยถึงความคืบหน้า กรณี กรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น (สถ.) ได้รับความเห็นจากสำนักงบประมาณ (สงป.) ต่อ “งบกลาง” รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อจัดสรรให้แก่องค์กรบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) 49 จังหวัด ที่รับโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา นวมินทราชินี (สอน.) และโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
“งบใช้จ่ายเป็นเงินเดือน สวัสดิการ (ค่าเช่าบ้าน ค่าเล่าเรียนบุตร และค่าใช้จ่ายอื่น) ของบุคลากรที่ถ่ายโอน วงเงิน 991,435,800 บาท”
ได้รับแจ้งจาก สงป.ว่า กรณี “งบกลาง” รัฐบาลไม่สามารถดำเนินการได้จากกฎหมายเลือกตั้ง แต่ นายกรัฐมนตรี เห็นชอบให้ อบจ. พิจารณาใช้จ่ายจากงบฯ 2566 รายการที่ได้รับจัดสรรก่อน หรือพิจารณาใช้จ่ายจากรายการที่ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้ว
และให้ใช้งบประมาณเหลือจ่าย และ/หรือรายการที่หมดความจำเป็น และ/หรือรายการ ที่คาดว่า จะไม่สามารถดำเนินการได้ทันภายในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
รวมถึงพิจารณานำเงินรายได้ หรือเงินสะสมคงเหลือมาสมทบ หากดำเนินการแล้วมีงบประมาณไม่เพียงพอ ก็ให้ขอรับการจัดสรรงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นอีกครั้ง
ล่าสุด สถ. ได้ออกแนวทางปฏิบัติการใช้จ่ายเงิน ถึง 49 ผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีได้รับการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไป สำหรับสนับสนุนบุคลากรถ่ายโอนไม่เพียงพอ
โดย อบจ. สามารถดำเนินการโอนงบประมาณรายการที่ไม่จำเป็นต้องใช้ หรือมีความจำเป็นน้อยกว่า ไปตั้งจ่ายเพิ่มเป็นค่าตอบแทนให้แก่บุคลากรดังกล่าว โดยการดำเนินการสามารถแยกพิจารณาได้ ดังนี้
1. ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. 2562 กรณี มีเงินจัดสรรเหลือจ่ายจากการดำเนินงานบรรลุวัตถุประสงค์หรือจากการจัดซื้อ จัดจ้างแล้ว
หัวหน้าหน่วย รับงบประมาณอาจโอนเงินจัดสรรหรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรรดังกล่าวไปใช้จ่ายเป็น รายจ่ายใดๆ ภายใต้แผนงาน ผลผลิตหรือโครงการเดียวกันได้ โดยไม่ต้องขออนุมัติจากสำนักงบประมาณ
กรณี อบจ.ได้รับการจัดสรรงบประมาณเงินอุดหนุนทั่วไป สำหรับสนับสนุนการโอนบุคลากร โดยพิจารณา “โอนเปลี่ยนแปลง” ไปใช้จ่ายในรายการดังกล่าวที่มีความจำเปีน หรือไม่เพียงพอก่อน
และหากใช้จ่ายยังไม่เพียงพอ ก็สามารถโอนเปลี่ยนแปลง รายการเงินอุดหนุนเฉพาะกิจที่เหลือจ่ายได้
2. ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยวิธีการงบประมาณขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ. 2563 กรณี การโอนเงินงบประมาณรายจ่ายใน "งบลงทุน" โดยการโอนเพิ่ม โอนลด ไปตั้งจ่ายรายการใหม่
หากงบประมาณยังไม่เพียงพอ หรือไม่สามารถโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณได้ ให้ อบจ. พิจารณาจ่ายเงินจากงบประมาณ โอนงบประมาณรายการที่เหลือจ่าย หรือมีความจำเป็นน้อยกว่าไปตั้งจ่ายเพิ่ม
หรือหาก งบประมาณยังไม่เพียงพอ สามารถนำเงินสะสมเพื่อไปจ่าย เป็นเงินค่าตอบแทนให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานได้ โดยต้องได้รับอนุมัติจากผู้บริหารท้องถิ่น
ส่วนกรณี หาก อบจ.ได้รับการจัดสรรงบถ่ายโอนที่ไม่เพียงพอ ในส่วนของ “ค่าตอบแทนทางการแพทย์และฝ่ายสนับสมุนอื่นๆ ซึ่งมิใช่ข้าราชการ ลูกจ้าง หรือ พนักงานจ้าง” ให้นำหลักเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุขมาใช้บังคับโดยอนุโลม
รวมถึงการจ่ายค่าตอบแทนเบี้ยเลี้ยงเหมาจ่ายให้แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในหน่วยงานที่ถ่ายโอนฯ โดยต้องดำเนินการ ตามระเบียบกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น
เมือเร็วๆ นี้ สถ.ได้มีหนังสือถึงสำนักงบประมาณ เพื่อขออนุมัติงบประมาณดังกล่าว เพื่อจ่ายเป็นเงินเดือน สวัสดิการ บุคลากรที่ถ่ายโอนที่ได้รับการจัดสรรไม่เพียงพอ จำนวน รพ.สต. 3,263 แห่ง ใน 49 จังหวัด จำนวนบุคลากร 11,839 คน งบประมาณทั้งสิ้น 991,434,800 บาท