“ก้าวไกล” เริ่มหารือจัดตั้งรัฐบาลวันนี้ “พิจารณ์” แง้ม พยายามโน้มน้าว ส.ว.ร่วมโหวตนายกฯ บอก ส.ส.หลายคนรู้จัก ส.ว. ดี หวัง “ปชป.-ภท.” ร่วมโหวต “พิธา” แม้ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ดักทาง หากไม่เคารพเสียงประชาชน คงไม่มีอะไรต้องคุยกัน
วันนี้ (16 พ.ค.) ที่พรรคก้าวไกล นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล เปิดเผยถึงผลการเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการที่พรรคก้าวไกล ได้คะแนนอย่างล้นหลามในพื้นที่ กทม. โดยกล่าวว่า ต้องขอบคุณคะแนนเสียงจากประชาชน เมื่อเทียบกับปี 2562 เก้าอี้ ส.ส.เพิ่มขึ้นมาประมาณเท่าตัว และในหลายเขตชนะขาด
นายพิจารณ์ กล่าวว่า คณะทำงานของ กทม. พรรคก้าวไกล กำลังหารือกับ สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่าจะเสนอขอให้รวมคะแนนใหม่ เนื่องจากพบว่าคะแนนในเขตเลือกตั้งที่ 20 ซึ่ง กกต. ได้ประกาศ ไม่ตรงกับผลคะแนนที่พรรคได้รวบรวม ซึ่งวันนี้จะทบทวนเป็นครั้งสุดท้าย ให้ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน และดำเนินเสนอ กกต.ให้รวมคะแนนใหม่
สำหรับปัจจัยที่ทำให้กระแสก้าวไกลกวาดที่นั่งได้ทั่ว กทม. นายพิจารณ์ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ พรรคก้าวไกลตั้งเป้าไว้ที่ 15 เขต ก่อน กกต. แบ่งเขตใหม่ จึงเกิดความได้เปรียบเสียเปรียบอยู่บ้าง แต่ก็ยังเชื่อว่า มีความเป็นไปได้ อย่างไรก็ตาม เมื่อประชาชนให้ความสนใจ ครั้งนี้จะพิสูจน์และทำให้เห็นว่านายพิธาในฐานะนายกที่อายุน้อยที่สุดในรอบ 70 ปีจะบริหารประเทศ และสร้างผลงานมาแทนคำขอบคุณ
นายพิจารณ์ ยังเผยถึงแนวทางของพรรคว่า หากมี ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อคนใด ได้รับตำแหน่งในฝ่ายบริหาร ส.ส.คนดังกล่าวควรจะลาออกเพื่อขยับลำดับบัญชีรายชื่อขึ้นมา แต่สำหรับบุคลากรที่เป็นแกนนำสำคัญ เช่น หัวหน้าพรรค รองหัวหน้าพรรคฝ่ายนโยบาย เลขาธิการพรรค อาจจะจำเป็นต้องดำรงตำแหน่ง ส.ส.ต่อไป
สำหรับการหารือจัดตั้งรัฐบาลนั้น นายพิจารณ์ เผยว่า วันนี้จะเริ่มมีการพูดคุยกันกับแต่ละพรรคถึงแนวทางในรายละเอียด หลังจากการแถลงข่าวของนายพิธา เมื่อวานนี้ ภายในพรรคก็มีการประชุม จัดเตรียมข้อมูลเพื่อนำไปหารือกับพรรคต่างๆ
ส่วนจะต้องมีการพูดคุยกับ ส.ว. เรื่องการโหวตนายกรัฐมนตรีหรือไม่ นายพิจารณ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้พูดคุยเป็นการภายในในเรื่องของทิศทางการโหวตนายกของ ส.ว. ซึ่งบุคลากรในพรรคก้าวไกลหลายคนก็มีความรู้จักมักคุ้นกับ ส.ว. บางท่านอยู่ผ่านการทำงานในรัฐสภา แต่ละท่านก็คงพยายามจะพูดคุยกันเป็นการส่วนตัว
ส่วนกรณี นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย โพสต์ทวิตเตอร์เรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคภูมิใจไทย โหวตนายกฯ ตามเสียงของประชาชน นายพิจารณ์ กล่าวว่า ในช่วงหาเสียงบางพรรคการเมือง เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะยกมือให้กับแคนดิเดตจากพรรคที่ได้คะแนนเสียงเป็นอันดับ 1 ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือไม่ ต้องฝากพี่น้องสื่อมวลชนไปสอบถามดูอีกครั้ง ว่า จะทำตามคำที่พูดไว้หรือไม่ และจะเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย และพลิกโฉมการเมืองไทย ถ้าพรรคการเมืองต่างๆ ยอมรับเสียงของประชาชนและร่วมกันปิดสวิตช์ ส.ว.
ได้พูดคุยแบบเป็นทางการกับพรรคประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยหรือไม่ เรื่องการยกมือโหวตนายกฯ แม้จะไม่ได้ร่วมรัฐบาล นายพิจารณ์ ตอบว่า ถ้าแต่ละพรรคมีจุดยืนที่ไม่เคารพเสียงประชาชน ก็ไม่จำเป็นต้องคุยอะไรกันมาก