xs
xsm
sm
md
lg

"มหาโจรชูวิทย์" งัดมุกวิ่งทรมานสังขารเรียกแสง ขณะที่กรรมไล่ล่า “ภูมิใจไทย” ยื่นฟ้องเรียก 100 ล้าน **"พี่ศรี"โดนอีกแล้ว หนุ่มใหญ่ตบเลือดกลบปาก หลังเข้าให้ถ้อยคำที่ กกต. ลั่นเรียกค่าทำขวัญ 1 ล้าน ไม่มียอมความ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

**"มหาโจรชูวิทย์" งัดมุกวิ่งทรมานสังขารเรียกแสง ขณะที่กรรมไล่ล่า “ภูมิใจไทย” ยื่นฟ้องเรียก 100 ล้าน

เพราะได้รับความสนใจจากสังคมน้อยลงไปทุกวัน หรือ แทบจะอับแสงจนมืดมนด้วยคนรู้ทัน “แฉไป ไถไป” คนที่ยอมรับตัวเองว่า “ชั่ว” และเป็น “มหาโจร” อย่าง ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ จึงพยายามคิดหา “ อีเวนต์” ใหม่ มาเรียกร้องความสนใจของมหาชนโดยบอกว่า ตัวเองจะออกวิ่ง “วิ่งต่อต้านกัญชาเสรี” เพื่อสั่งสอนพรรคการเมือง นักการเมือง และจะวิ่งไปเรื่อยๆ ประดิษฐ์ถ้อยคำชวนให้รู้สึกถึงความเป็นคนดี “วิ่งพื่อชีวิตที่ดีกว่า วิ่งสู้ฟัดกับความไม่ยุติธรรม” หลังจากโอดครวญ ตนเองกำลังถูกกลุ้มรุมทำร้ายจากผู้เสียประโยชน์ เพราะรณรงค์ต่อต้านกัญชา

อภิโธ่ อภิถัง มหาโจรชูวิทย์ คิดอะไรอยู่? ไม่ต้องบอกก็รู้ มามุกนี้ใช้แผนทรมานสังขาร ก็เพื่อจะเรียกแสง เรียกคะแนนสงสารก็หนึ่งล่ะ อีกหนึ่งนั้นก็เพื่อกลบเกลื่อนให้สังคมมองข้ามประเด็น “ยกที่ดิน” ให้เป็นสมบัติสาธารณะที่ตัวเองใช้เป็นเงื่อนไขลดโทษต่อศาล สมัยถูกตัดสินคดี “รื้อบาร์เบียร์” ก่อนจะโกหก “ไม่เคยยก” เพราะกำลังเอาไปใช้ประโยชน์ให้ตัวเองและครอบครัวผุดโครงการ “มิกซ์ยูส” มูลค่ามหาศาลแทนสวน

อย่างว่า มหาโจร ก็คือ มหาโจร คิดจะบิดพลิ้วบิดเบือนแม้กระทั่งคำให้การต่อศาลก็ทำได้อยู่แล้ว วิ่งทรมานสังขารครั้งนี้ จะมีคนสนใจติดตามหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ งานนี้ ชูวิทย์ จะวิ่งก็วิ่งไป ทำไปเลยเต็มที่ แต่จะวิ่งหนีกรรมจากการกระทำของตัวยาก

“ชูวิทย์” ทำอะไรจึงมีกรรม? วิญญูชนย่อมตอบคำถามนี้ได้ไม่ยาก ย้อนดูอดีตมาจนถึงปัจจุบัน มหาโจรชูวิทย์ กระทำอะไรมาบ้างเกรงว่าใบรายการ คงยาวเป็นหางว่าว ทั้งกิจการ อาบอบนวด เรื่อยมาจนรับงาน รับเงินจาก ธุรกิจเทา –เจ้าสัว มาใส่ร้ายป้ายสีคนกลุ่มหนึ่ง ทั้งป่วนคนนั้น ขู่คุกคามคนนี้ สารพัดที่ชูวิทย์ เคลื่อนไหวสร้างความลำบากให้ผู้อื่นแสนสาหัส ด้วยคำโกหก บิดเบือน จนสังคมเอือมระอา

ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
เจอคนที่เขาพอ “อโหสิ” ให้ได้ก็ดีไป อย่างมากทำบุญกรวดน้ำคว่ำขัน แผ่เมตตาให้เพราะไม่อยาก “ถือคนบ้า” ก็มีบ้างแต่ไม่ใช่สำหรับ “ภูมิใจไทย” ยิ่งใกล้เลือกตั้ง ยิ่งต้องรักษาสิทธิ์ของพรรค ซึ่งกำลังแข่งขันอยู่กับพรรคอื่นๆ และหาเสียงกับประชาชน ถึงแม้จะไม่อยากให้ค่า ให้ราคาจอมแถแค่ไหนก็ตาม

เมื่อวานนี้ (11พ.ค.) จึงได้เห็นพรรคเคลื่อนไหว โดยให้ น.ส.ณัฐชนิกานต์ เกตุคำขวา และ พิชัย เอี่ยมอ่อน ทนายความรับมอบอำนาจจาก “ศุภชัย ใจสมุทร” ผู้บริหารพรรคภูมิใจไทย เดินทางไปศาล ยื่นฟ้องมหาโจรชูวิทย์ ในความผิดฐานละเมิด เรียกค่าเสียหายจำนวน 100 ล้านบาท บนพื้นฐานการคำนวณจากค่าใช้จ่ายของ ส.ส.แบบเขต จำนวน 100 คนๆ ละ 1.9 ล้านบาท แล้วตัดให้เหลือประมาณ 100 ล้านบาท พร้อมทั้งขอให้ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวด้วย

จากเหตุการณ์ที่ “มหาโจรชูวิทย์” ไปป่วนประชิดเวทีปราศรัย และข่มขู่คุกคามพรรคภูมิใจไทย ที่บริเวณลานกีฬา ตรงข้ามแฟลตดินแดงเมื่อวันก่อนนู้น จึงได้ขอให้มีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนมีคำพิพากษา โดยห้ามมหาโจรชูวิทย์ ไปข่มขู่คุกคาม หรือเข้าใกล้เวทีปราศรัยใหญ่ของพรรคภูมิใจไทย ที่บริเวณห้างโชว์ดีซี พระราม 9 ในวันศุกร์ที่ 12 พ.ค.นี้ เวลาตั้งแต่ 13.00 น.-19.00 น. โดย ศาลนัดไต่สวนฉุกเฉิน

เหตุผลที่ต้องฟ้องครั้งนี้เพราะพรรคภูมิใจไทยเกรงว่า จะเกิดเหตุการณ์ความวุ่นวายแบบเดิมขึ้นอีก จึงต้องมายื่นขอให้ศาลคุ้มครองชั่วคราว ลักษณะที่ห้ามไม่ให้ “ชูวิทย์” เข้ามาในพื้นที่ปราศรัยดังกล่าวของพรรค และขอความคุ้มครองชั่วคราวไปจนกว่าจะถึงวันเลือกตั้งส.ส.

อย่างไรก็ตามพรรคไม่ได้จำกัดสิทธิต่างๆ ตามรัฐธรรมนูญของ ชูวิทย์ เพียงแต่ว่าอย่ามากล่าวหา คุกคามพรรคภูมิใจไทย ซึ่งต้องการให้เกิดความสงบเรียบร้อยในวันที่มีการปราศรัยใหญ่ ช่วงโค้งสุดท้ายที่มีความสำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส.

ทั้งนี้ การฟ้องวันนี้แตกต่างจากการฟ้องต่อศาลแพ่งครั้งก่อน ที่ศาลมีคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว ห้ามไม่ให้ชูวิทย์พูดเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวกับกัญชา

ภายหลังยื่นฟ้องเสร็จแล้ว ศาลได้รับคำฟ้องไว้เป็นคดีดำ พ.2176/2566 และ นัดพิจารณาคดีวันที่ 3 ก.ค.66 เวลา 13.30 น.

ศุภชัย ใจสมุทร
งานนี้เรียกว่า แค่น้ำจิ้ม เรื่องของกรรมไล่ล่ามหาโจรชูวิทย์ เชื่อว่ายังมีอีกหลายกรรมหลายวาระ ไหนจะกรณี “ยกที่ดิน” ที่ป.ป.ช.จะไต่สวน ซึ่ง "สนธิ ลิ้มทองกุล" ประกาศแล้วว่า จะขอพิสูจน์ความจริงให้สิ้นสงสัย "ไปสุดซอย" แน่!!

ไหนจะคดีความนู่นนี่นั่น เสร็จจากวิ่งบนถนน “มหาโจรชูวิทย์”คงต้องวิ่งขึ้นวิ่งลงศาล ตามกระบวนการยุติธรรมอีกหลายยกเป็นแน่ ดีไม่ดีได้วิ่งรอกขึ้นศาลจนสิ้นอายุขัย ก็เป็นได้

ถึงวันนี้จะมานั่งนึกเสียใจตัวเอง “แก่จนจะลงโลงอยู่แล้ว” บาปกรรมอันใด จึงได้ทุกข์ทรมานเช่นนี้ คงต้องโทษว่าใครที่ไหนไม่ได้ นอกจากตัวของตัวเองทำตัวเอง …จริงมั้ยมหาโจรชูวิทย์!

**"พี่ศรี"โดนอีกแล้ว หนุ่มใหญ่ตบเลือดกลบปาก หลังเข้าให้ถ้อยคำที่ กกต. ลั่นเรียกค่าทำขวัญ 1 ล้าน ไม่มียอมความ

คงจำกันได้ ปลายปีที่แล้ว “พี่ศรี” ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย นักร้องคนดัง ถูก “ลุงศักดิ์” วีรวิชญ์ รุ่งเรืองศิริผล นักเคลื่อนไหวทางการเมือง “สายเสื้อแดง” จัดชุดใหญ่ บุกเข้าไปชกหน้า เตะชายโครง “พี่ศรี” ที่กำลังจะเข้ายื่นร้องเรียนเอาผิดกรณี เดี่ยว 13 ของ “โน้ส” อุดม แต้พานิช ว่าหนุนการชุมนุมหรือไม่ ...เหตุเกิดที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง

ครั้งนั้น “ลุงศักดิ์” บอกว่าทิ้งงานตั้งใจมาตบสั่งสอน ที่ “ศรีสุวรรณ” ร้องเรียนมั่วไปเรื่อย และอยากแสดงจุดยืนให้เห็นว่า คำว่า ประชาธิปไตยทุกคนต้องยอมรับความเห็นต่าง...หลังเกิดเหตุ “ลุงศักดิ์” ยังได้ไลฟ์สดผ่านยูทูบของตนเอง พร้อมรับสายโทรศัพท์ของแฟนๆที่โทรมาให้กำลังใจ รวมทั้งข้อความทางไลน์อีกหลายร้อยข้อความ

“วันที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ปม 8 ปี พล.อ.ประยุทธ์ ผมจะออกไปม็อบ แต่นายศรีสุวรรณ ประกาศว่าใครออกไปม็อบ จะถูกจับให้หมด ผมจึงเกลียด นายศรีสุวรรณ จนทนไม่ได้”

ศรีสุวรรณ จรรยา
ภาพของ “ศรีสุวรรณ” จึงถูกมองว่าเป็นนักร้อง “สายลุงตู่” เช่นเดียวกับ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” ก็ถูกมองว่าเป็นนักร้อง “สายลุงป้อม” เพราะเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐด้วย

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (11พ.ค.) “พี่ศรี” โดนอีกแล้ว คราวนี้เป็นที่ สำนักงานกกต. โดย “พี่ศรี”ไปให้ปากคำต่อ สำนักงานกกต. หลังจากที่ได้ร้องเรียน ขอให้ตรวจสอบพรรคเพื่อไทย (พท.) หาเสียงแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท และเตรียมยื่นเรื่องให้ตรวจสอบ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล กรณีถือหุ้นสื่อมวลชน “ไอทีวี”

ขณะที่ “พี่ศรี” กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน โดยไม่รู้ตัวว่า “ทศพล ธนานนท์โสภณกุล” อดีตอาจารย์มหาวิทยาลัยเอกชน ที่แต่งตัวดี ใส่เสื้อขาว ผูกเนคไท มาดักรอเช็กบิลอยู่ก่อนแล้ว... กระทั่ง “พี่ศรี”ให้สัมภาษณ์เสร็จ บรรดานักข่าว ช่างภาพ ก็เตรียมไปสัมภาษณ์ “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” นักร้องดังเบอร์ต้นๆ ที่จะมายยื่นข้อมูลเพิ่มเติมต่อกกต. ในเรื่อง “พิธา” ถือหุ้นสื่อ ซึ่งข้อมูลรอบนี้ จะเอาให้ผู้สมัครส.ส.ก้าวไกล โมฆะไปทั้งพรรค

พอนักข่าวหันหลังจากพี่ศรี ไปหาเรืองไกร ทางด้าน“ทศพล” ก็ปรี่เข้าไปตบหน้า “พี่ศรี” พร้อมว่ากล่าวด้วยถ้อยคำหยาบคาย แสดงความไม่พอใจ ที่มาให้ร้ายผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย และพรรคก้าวไกล ร้องเรียนพร่ำเพรื่อ ถือเป็นการขัดขวางการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยที่กำลังจะเกิดขึ้น เหตุการณ์วุ่นวาย ทำเอาตำรวจนครบาล และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยภายในอาคาร ก็รีบมาแยกทั้ง 2 ฝ่ายออกจากกัน

“ศรีสุวรรณ” บอก จำไม่ได้ว่าเป็นการตบหรือการชก แต่เมื่อเปิดหน้ากากอนามัยออก ก็พบที่ริมฝีปากล่างด้านขวา มีเลือดไหลออกมา ถึงไม่มากมาย แต่ก็เห็นชัดปากแตก คงกินน้ำพริกไม่ได้ไปหลายวัน

ทศพล ธนานนท์โสภณกุล
หลังให้ปากคำ ยื่นคำร้องต่อกกต.เสร็จ “พี่ศรี” ก็ไปแจ้งความที่ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อดำเนินคดีกับ “ทศพล ธนานนท์โสภณกุล” ข้อหาทำร้ายร่างกาย พร้อมประกาศจะดำเนินการตามกฎหมายให้ถึงที่สุด เบื้องต้นจะตั้งค่าเสียหายไว้ที่ 1 ล้านบาท งานนี้ไม่มีคำว่าเจรจาต่อรอง หรือยอมรับคำขอโทษใดๆ ทั้งสิ้น

นักร้องคนดัง บอกว่าแม้จะโดนทำร้ายร่างกายเป็นครั้งที่สอง แต่ก็จะไม่หยุดการร้องเรียน มีแต่จะร้องมากยิ่งขึ้น แม้ว่าผู้ก่อเหตุจะมองว่า เรื่องทำร้ายร่างกายแบบนี้ โทษเล็กน้อย นั่นแสดงให้เห็นเจตนาในการทำผิดกฎหมาย ซึ่งจะต้องถูกลงโทษในอัตราสูง และถือว่าเป็นต้นแบบทีไม่ดี ต่อการใช้สิทธิของประชาชน ในการร้องเรียนตามรัฐธรรมนูญ ที่ให้การรับรอง และคุ้มครองไว้ ...ไม่ควรที่จะส่งเสริม สนับสนุน หรือให้ท้าย จนเกิดการเอาอย่าง

หลังเกิดเหตุครั้งนี้ “พี่ศรี” บอกว่าคงต้องเตรียมทีมงานรักษาความปลอดภัยให้พร้อม และเข้มงวดขึ้น เวลาจะไปร้องเรียนตามสถานที่ต่างๆ

ขณะที่ “ทศพล ธนานนท์โสภณกุล” ผู้ก่อเหตุ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ ควบคุมตัวไปให้ปากคำที่ สน.ทุ่งสองห้อง เช่นกัน โดยยืนยัน พร้อมสู้คดี มองว่าไม่ได้เป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ ที่ทำไปนั้นแค่เป็นการสั่งสอน เพราะตบทีเดียวเท่านั้น

นี่และการเมืองช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ที่มักมีการจับจ้องว่าใครทำผิดกฎหมายเลือกตั้งกันบ้าง ทั้งความผิดส่วนบุคคล ความผิดที่พรรคการเมืองต้องร่วมรับผิดชอบ ...ถึงวันนี้ มีเรื่องร้องยุบพรรคการเมืองหลายพรรค ที่กกต.รับไว้พิจารณานับสิบคดี ... จึงเป็นที่มาของอารมณ์เครียดของกองเชียร์พรรคการเมืองที่ตนเองชื่นชอบ สนับสนุน และก่อเหตุโดยไม่สนใจถึงผลของการกระทำที่ตามมา


กำลังโหลดความคิดเห็น