“ธีระชัย” ชี้ แจกเงินดิจิทัลคนละ 1 หมื่น ใช้งบฯ 5.5 แสนล้านต่อปี กระตุ้นบริโภค ได้ผลรอบเดียว ไม่ยั่งยืน ไม่สร้างทักษะเพิ่มความสามารถแข่งขัน ซ้ำแจกดะไม่แยกแยะรวยจน ใช้เงินสุรุ่ยสุร่าย สร้างภาระหนี้ให้ลูกหลาน ไม่ถามร้านค้าในชุมชน พร้อมรับเงินดิจิทัลหรือไม่
เมื่อวันที่ 6 เม.ย. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ที่ปรึกษาคณะกรรมการนโยบายพรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเฟซบุ๊ก Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล แจกเงินดิจิทัล แสดงความเห็นส่วนตัวต่อนโยบายของพรรคเพื่อไทย ในการกระตู้นเศรษฐกิจในชุมชน โดยการแจกเงินในรูปแบบดิจิทัลแก่คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป คนละ 10,000 บาท เป็นเวลา 6 เดือน ซึ่งจะใช้งบประมาณปีละ 550,000 ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายภายในรัศมี 4 กิโลเมตร จากบ้านตามที่อยู่ในบัตรประชาขน โดยร้านค้าจะได้เงินเป็นเหรียญดิจิทัลแล้วนำไปแลกเป็นเงินอีกครั้ง โดยนายธีระชัยได้ให้ข้อคิด ดังนี้
1. การใช้งบประมาณ 550,000 ล้านบาท แบบนี้ เข้าข่ายเป็นการใช้งบประมาณเพื่อกระตุ้นการอุปโภคบริโภค ซึ่งไม่ยั่งยืน จะได้ผลรอบเดียว จะไม่ได้สร้างทักษะการทำงาน จะไม่ได้เพิ่มความสามารถในการแข่งขัน จะไม่ได้ทำให้ประชาชนยืนบนขาตนเองมั่นคงมากขึ้น หรือไม่?
2. การเพิ่มหนี้สาธารณะเพื่อแจกเงินให้คนที่มีอายุ 16 ปีขึ้นไป ซึ่งมีราว 55 ล้านคน โดยไม่คำนึงว่ามีฐานะดีอยู่แล้วหรือไม่ ช่วยตัวเองได้อยู่แล้วหรือไม่ มีเงินออมและทรัพย์สินมากอยู่แล้วหรือใหม่ เข้าข่ายเป็นการใช้เงินแบบสุรุ่ยสุร่าย เพิ่มภาระหนี้ให้แก่ลูกหลาน หรือไม่?
3. ร้านค้าที่ได้เงินมาเป็นเหรียญดิจิทัล แล้วค่อยเอาไปแลกเงินจริงในภายหลัง ร้านค้าจะพบว่า การรับเงินดิจิทัลในระบบบล็อกเชนนั้น ธุรกรรมการขายสินค้าทุกรายการที่รับด้วยเงินในระบบนี้ จะเปิดโล่งต่อทางการ ตัวเลขรายได้สามารถไปปรากฏต่อกรมสรรพากรทันที ไม่ต้องรอปิดบัญชีสิ้นปี ไม่ต้องรอยื่นแบบชำระภาษีประจำปี ตัวเลขยอดขายไปรออยู่ที่กรมสรรพากรในวินาทีที่ร้านค้ารับชำระเงิน
ควรลองถามเจ้าของร้านค้ารายย่อยที่อยู่ในรัศมี 4 กม.ก่อนหรือไม่ เพื่อยืนยันว่า เขาพร้อมจะใช้ระบบการชำระเงินที่เปิดโล่งให้กรมสรรพากรเข้ามาดูรายการได้ทุกวัน?