“กนก” ชำแหละปัญหาสิ่งแวดล้อม แนะตั้งฤดูตรวจจับฝุ่น PM 2.5 จริงจัง เฝ้าระวังไฟป่า ยัน “ชาติไทยพัฒนา” ทำได้ เสนอนโยบาย “คาร์บอนเครดิต” เปลี่ยนเป็นเงินในกระเป๋าประชาชน ย้ำ ทุกอย่างจะเห็นผลเมื่อมีนายกฯ ชื่อ “วราวุธ”
นายกนก วงษ์ตระหง่าน เลขานุการคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์ฝุ่น PM 2.5 และปัญหามลพิษทางอากาศ ว่า ต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหา ฝุ่นมาจากไหนให้แก้ตรงนั้น เช่น สาเหตุเนื่องมาจากไฟป่า ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนามองว่าในวันนี้ เรามีเทคโนโลยีด้านดาวเทียมที่สามารถติดตามจุดที่เกิดไฟป่าได้ หากพบว่า มีจุดไหนเกิดบ่อยครั้ง ก็สามารถแจ้งเตือน ให้ความรู้กับประชาชน และนำเสนอแนวทางเปลี่ยนการเผาเป็นคาร์บอนเครดิตเป็นเงินคืนให้กับประชาชน ซี่งตนได้คำนวณเบื้องต้นว่าประชาชนอาจได้เงินจากนโยบายเปลี่ยนจากไฟป่าเป็นคาร์บอนเครดิตนี้ จำนวน 10,000-20,000 บาทต่อปี
“เราต้องออกกฎหมายกำหนดค่ามาตรฐานการปล่อยฝุ่น PM 2.5 จากภาคส่วนต่างๆ โดยหากเกินค่ามาตรฐานจะต้องจัดการอย่างเด็ดขาด ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาเราบอกว่าอาจจะกำหนดฤดูฝุ่นตั้งแต่เดือนธันวาคมถึงกุมภาพันธ์ ที่เราจะตรวจจับเด็ดขาด และเตรียมพร้อมช่วยเหลือประชาชน เช่น มีหน่วยฉุกเฉินก็ทำทันที ต้องมีการปรับพฤติกรรม Work from Home ได้ ทุกอย่างต้องลงไปสู่การปฏิบัติหมด” นายกนก กล่าว
นายกนก กล่าวว่า เนื่องจากปัญหาสิ่งแวดล้อมเกี่ยวข้องกับประชาชนโดยตรง ควรจะกระจายอำนาจให้หน่วยงานท้องถิ่นรับผิดชอบ นอกจากนี้ ยังต้องให้ความสำคัญกับการศึกษา โดยต้องมีการบูรณาการไปสู่การเรียนรู้ของนักเรียนในโรงเรียนต่างๆ เพื่อให้เกิดความเข้าใจ จนเป็นนิสัยและนำปรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการดูแลสิ่งแวดล้อม ส่วนปัญหาขยะที่ถูกพูดถึงมากในปัจจุบัน พรรคชาติไทยพัฒนา มีความเห็นว่าคนที่สร้างขยะ โรงงานสร้างบรรจุภัณฑ์ จะต้องเป็นคนจ่ายเงินกำจัดขยะนั้นๆ ที่สำคัญต้องคิดควบคู่ไปว่าจะทำอย่างไรให้เกิดประโยชน์ได้
“เราจะต้องฝึกคนไทยให้เรียนรู้ว่าให้ใช้ซ้ำได้ ใช้ใหม่ได้ ลดการใช้ได้ ยกตัวอย่างง่ายๆ อาบน้ำ มีน้ำเสียเกิดขึ้น ระหว่างที่ถูสบู่ ปิดน้ำได้หรือไม่ สิ่งเหล่านี้เป็นอุปนิสัยที่ต้องมีการเรียนรู้และฝึกขึ้นมาได้” นายกนก กล่าว
สำหรับปัญหาภาพใหญ่อย่างภาวะโลกร้อน นายกนก กล่าวว่า ตนกังวลมากว่าคนจนจะลำบากมากกว่าคนรวย คนรวยก็รอดไป เพราะโครงสร้างสังคมที่เหลื่อมล้ำและไม่เป็นธรรม เพราะฉะนั้น พรรคชาติไทยพัฒนา จะตั้งศูนย์เอเชีย-แปซิฟิกคาร์บอนเครดิต นำเอาเทคโลโลยีต่างๆ มาบูรณาการ วัดปริมาณมาตรฐานคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดขึ้น เชื่อว่าหาดสำเร็จจะทำให้ประเทศไทยก้าวไปเป็นผู้นำประเทศในเอเชียในการแก้ไขปัญหาภาวะโลกร้อน
“สิ่งแวดล้อมไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของประเทศ พรรคชาติไทยพัฒนาคิดไปถึงการที่จะทำให้ประชาชนมีรายได้โดยใช้พื้นที่สีเขียวลดลง นำไปปลูกป่า ผลักดันตลาดคาร์บอนเครดิต เราต้องทำให้ป่ามีรายได้ให้กับประชาชน”
นายกนก ยังได้ตั้งคำถามถึงนักการเมือง ว่า วันนี้เราจะเลือกประชาชนหรือผลประโยชน์ ดังนั้นการเลือกตั้งที่กำลังมาถึง เราต้องเลือกคนที่ตั้งใจและจริงใจในการแก้ปัญหา หากประเทศไทยมีนายกรัฐมนตรีชื่อ นายวราวุธ ศิลปอาชา จะมีการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างจริงจัง ซึ่งพรรคชาติไทยพัฒนาจริงจังกับการแก้ปัญหานี้ และถือเรื่องสิ่งแวดล้อมเป็นแกนของพรรค โดยเน้นการปฏิบัติจริง ซึ่งเป็นหัวใจของความสำเร็จในการแก้ปัญหา มองว่านโยบายเป็นสิ่งที่พูดได้ หาเสียงได้ แต่จะปฏิบัติได้ต้องมีองค์ประกอบอื่นด้วย