“บิ๊กตู่” สะดุดพรมก่อนขึ้นเวทีสวมเสื้อ-เปิดตัวทีมเศรษฐกิจพรรค รทสช. เปรียบตัวเองเป็นผู้บริหารคณะพระเอก ประชาชนเป็นหุ้นส่วนบริหารประเทศ ออกตัวไม่อยากหาเสียงเหมือนใคร ขอโทษมีภาพอารมณ์เสีย-หงุดหงิด บอกสัญชาตญาณความเป็นมนุษย์มีสูง
เมื่อเวลา 13.45 น. วันที่ 23 มี.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลัง นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) แนะนำทีมเศรษฐกิจจของพรรค รทสช.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เสร็จสิ้นแล้ว ได้เชิญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) สวมเสื้อให้ทีมเศรษฐกิจและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.โดยระหว่างเดินขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ได้ก้าวเท้าสะดุดพรมจนเสียหลักขณะขึ้นบนเวที
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้สวมเสื้อพรรคให้ทีมเศรษฐกิจ ประกอบด้วย 1. นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน 2. นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ 3. ม.ล.ชโยทิต กฤดากร ผู้แทนการค้าไทย เป็นหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ 4. นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรค รทสช. 5. นายจักร บุญหลง กรรมการอิสระ และกรรมการตรวจสอบ บริษัท โกลว์ พลังงาน จำกัด (มหาชน) อดีตเอกอัครราชทูตหลายประเทศ 6. นายชวิน อรรถกระวีสุนทร กรรมการบริหาร และผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท ดีเวล็อปเม้นต์คอร์ปอเรชั่น จำกัด 7. นายวิท วรรณไกรโรจน์ อาจารย์ประจำภาควิชาพาณิชยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ 8. นายวินท์ สุธีรชัย สมาชิกพรรค รทสช. และอดีต ส.ส.พรรคก้าวไกล ทั้งนี้ ทีมเศรษฐกิจได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคในวันเดียวกันนี้เรียบร้อยแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับทีมที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจทำหน้าที่คอยดูแลให้คำแนะนำ ด้านนโยบายเศรษฐกิจสำคัญที่เกี่ยวข้องกับปากท้องของประชาชนทุกด้าน นำโดย นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี เป็นที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจมหภาค นโยบายการคลัง, นายสุพัฒนพงษ์ ดูแลการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือน, นายจุติ ดูแลกลุ่มคนเปราะบางและผู้สูงวัย, นายอนุชา นาคาศัย รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ดูแลนโยบายภาคเกษตร และ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ดูแลนโยบายด้านแรงงาน อีกทั้งมี พล.ต.นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฏวัฒนะ ที่จะมาดูแลด้านคุณภาพชีวิตและสุขภาพของคนไทย ซึ่งได้สมัครเป็นสมาชิกพรรคและได้สวมเสื้อพรรคในวันเดียวกันนี้ด้วย
จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ขอบคุณทุกท่านที่ให้เกียรติมาในวันนี้มาร่วมงานการแถลงข่าวทีมเศรษฐกิจ ซึ่งจริงๆ แล้วมีอีกเยอะที่จะมาร่วมงาน วันนี้เรื่องแรกขอแสดงความยินดีกับทุกคนที่ให้เกียรติพรรค รทสช.ในการเดินหน้าประเทศของเราในระยะต่อไป ซึ่งจะเห็นได้ว่ามีทั้งคนรุ่นเก่า คนรุ่นแก่ รุ่นกลาง และรุ่นเด็ก ซึ่งมีหลายช่วงวัยในการพัฒนาประเทศ เพราะประเทศนี้ไม่ใช่ของคนไทยคนหนึ่งประเทศไทยไม่ใช่สถานประกอบการธุรกิจประเทศไทยประชาชนมีส่วนร่วม ถือเป็นหุ้นส่วน สิ่งที่เราต้องทำต่อไป คือ ทำอย่างไรให้ทุกคนมีความสุข พึงพอใจพร้อมกันกับการพัฒนาประเทศและจัดหารายได้ ซึ่งจำเป็นต้องใช้บุคลากรที่มีคุณภาพหลายส่วน ทั้งนี้ วันนี้ก็เห็นแล้วว่าหลายคนมีประสบการณ์ยอดเยี่ยมในการทำงานที่ผ่านมา แต่สิ่งที่ตนไว้วางใจกับทุกท่านในวันนี้ คือ ทุกท่านได้ทำงานกับตนมาตลอด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรัฐบาลที่ผ่านมา ยิ่งช่วงรักษาการก็ได้ทำงานกับตน ยืนยันว่า พรรคของเราจะเป็นพรรคที่ต้องการทำให้ประเทศชาติดีที่สุด หลายคนต้องคำนึงว่าที่ผ่านมาในช่วงก่อนหน้าที่ตนจะเข้ามาดูแลในเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา ก่อนหน้านั้นเกิดอะไร กรุณาทบทวน ดูอย่าลืมเกิดอะไรขึ้น แล้วอย่าให้เกิดขึ้นอีกในช่วง 8 ปีที่ผ่านมา เราพยายามทำต่อเนื่อง โดยแก้ปัญหาดูแลประชาชนทุกคนที่มีส่วนได้ส่วนเสีย ถ้าในเชิงธุรกิจประชาชนคือหุ้นส่วนของประเทศ เสียงของประชาชนคือหุ้นของประเทศ ทำอย่างไรจะให้เดินไปข้างหน้า และไม่ทอดทิ้งทั้งระดับบน ระดับกลาง และระดับล่าง
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ซึ่งทั้งหมดที่พูดมาเราได้ทำมาหมดแล้ว เราจะสานต่อในวันข้างหน้า เราจะต้องสืบสานต่อให้ได้สิ่งสำคัญ คือ ความร่วมมือร่วมใจของคนไทยทุกคน รักชาติ บ้านเมืองต้องมาช่วยกัน ตนไม่สามารถทำคนเดียวได้ หรือแต่ละท่านก็ทำคนเดียวไม่ได้ ฉะนั้นสำหรับประเทศชาติไม่มีพระเอก มีแต่คณะพระเอกเข้าใจหรือไม่เข้าใจคำว่าคณะพระเอกหรือไม่ คือ ทุกคนเป็นพระเอกหมด ซึ่งตนมีหน้าที่บริหารพระเอกเหล่านี้ เพราะมีประสบการณ์มากพอสมควร ในช่วงเวลาที่ผ่านมาแต่ไม่ง่ายนัก แต่ก็ไม่ยากเกินไปที่จะร่วมกันทำได้สิ่งแรกสำคัญที่สุดขอความไว้วางใจ ขอแค่นี้ถ้าเราไว้วางใจซึ่งกันและกันว่าจะเดินหน้าร่วมกันอย่างไรนั่นคืออนาคต และนี่คือ สิ่งที่ทุกท่านจะได้แสดงศักยภาพของท่านในการขับเคลื่อนประเทศ ตนไม่อยากหาเสียงแบบที่เขาหากันมากนัก เพราะตนเป็นคนแบบนี้อยู่ในการบริหารราชการทั้งในส่วนของกองทัพและส่วนตรงนี้อย่าระแวงตน ฉะนั้น สิ่งสำคัญที่สุดคือเราต้องคำนึงถึงความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคม และสุขภาพ ทุกอย่างอยู่ในก้อนเดียวกันในการพัฒนาประเทศไปข้างหน้า ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่สุดต้องดูว่าประเทศไทยมีคนจำนวนเท่าใด รายได้และการประกอบอาชีพจะแก้ปัญหาอย่างไรประเทศเรามี 77 จังหวัด 30 จังหวัดที่อยู่ท้ายๆ จีดีพีต่ำ ดังนั้นจะทำอย่างไรให้คนในพื้นที่เหล่านั้นมีรายได้สูงขึ้นอย่างน้อยที่ตั้งไว้ 30,000 บาท และอยากให้ขึ้นอย่างน้อย 1 แสนบาท ให้ได้โดยเร็วที่สุด และก้าวต่อไป 2-3 แสนบาท ในวันข้างหน้าจังหวัดที่ดีอยู่แล้ว ก็ขึ้นไป ฉะนั้น สิ่งเหล่านี้คืออนาคตของพวกเรา ไม่อยากให้มองในแง่ของฮีโร่อย่างเดียว แต่ทั้งหมดต้องขับเครื่องด้วยทีมเศรษฐกิจแบบนี้ที่มีประสบการณ์มีความรอบรู้ และมีความระมัดระวังอย่างที่สุด แต่ต้องปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยที่มีผลกระทบต่อประชาชน
“ผมไม่สามารถจะหาเสียงแบบที่เขาพูด เพราะวันนี้สิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นคือประเทศไทยอยู่ตรงนี้ ได้ตามที่เราทำมาสถานะทางการเงิน การคลัง เราทำได้ดีการต่างประเทศเราทำได้ดี ทุกประเทศยอมรับฉะนั้นสิ่งเหล่านี้คืออนาคตของพวกเราทุกคน ไม่อยากให้มองในแง่รายบุคคล และจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยก้าวข้ามไปให้ได้ พร้อมกับรับประโยชน์กับสิ่งใหม่ วันนี้ดีใจที่สื่อมากันเยอะและได้ยิ้มออกหน่อย เพราะเราไม่ใช่ศัตรูกัน เมื่อใส่เสื้อตัวนี้ต้องพูดว่าผมรู้สึกลำบากใจเหมือนกันเพราะพูดอย่างนี้มาหลายปี ถ้าติดคำว่านายกฯไปก็ขอโทษไม่ได้เจตนาอยู่ด้วยกันมาหลายปีแล้วก็รู้ว่าท่านก็ทำหน้าที่ของท่าน ผมก็ทำหน้าที่ของผมบางเวลาผมก็เครียดหงุดหงิดหน่อย ก็ต้องให้อภัยกัน ผมไม่เคยติดค้างกับใคร ไม่เคยโกรธหรือเกลียดใคร แต่ความเป็นมนุษย์สัญชาตญาณของผมมีสูง ถ้าเรารักกัน ท่านไม่รังเกียจผมอยู่แล้วจะเอาภาพโมโหผมออกไป เวลาผมโมโห ผมก็หายผมไม่เคยโกรธ เกลียดใคร เพราะท่านคือสื่อ คือเสียงของประชาชน ฉะนั้นเราต้องรับฟังและถ่ายทอดในสิ่งดีงามต่อไป วันนี้ก้าวมาค่อนทางแล้ว เราจะเดินเส้นทางนี้ไปถึงจุด ที่ประเทศไทยต้องการ ประชาชนต้องการ ฉะนั้น เราต้องเดินอย่างมียุทธศาสตร์ ซึ่งยุทธศาสตร์สำคัญถ้าไม่มียุทธศาสตร์จะเกิดได้หรือไม่ ถ้าไม่เดินตามยุทธศาสตร์ ทำไม่ได้ มันก็จะกลายเป็นวงรอบเปิดงาน ปิดงาน เปิดงาน ใช้งบประมาณไปเรื่อยๆกว่าจะได้ขึ้นมารออยู่นานกว่าจะเรียก ผมขึ้นมาต้องขอบคุณทุกคน ขอบคุณหัวหน้าพรรค ขอบคุณผู้หลักผู้ใหญ่ทุกคน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า วันนี้เป็นวันแห่งความหน้ายินดีของพรรค และคิดว่าประชาชนคงฝากความหวังไว้กับตนได้ ตนยืนยันจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดในการบริหารบ้านเมือง และจะนำพาบุคคลเหล่านี้และอื่นๆ ที่อยู่ช่วยเราร่วมกันพัฒนาบ้านเมืองไปสู่วันข้างหน้าที่ สดใสที่มีอนาคตกว้างไกลไปกว่านี้อีกวันนี้ถือว่าพอสมควรแล้วในสถานการณ์เช่นนี้อย่าลืมก่อน 8 ปีอย่าลืม 8
8 ปีเกิดอะไรขึ้น สิ่งสำคัญตนขออย่างเดียวความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ไม่เช่นนั้น ไม่ว่าใครก็ทำไม่ได้ อย่าลืมว่าที่ผ่านมาเราประคองมาถึงขนาดนี้แล้ว โดยกฎหมายกระบวนการยุติธรรมก็จำเป็นต้องมีอยู่ ดังนั้นเราจะต้องเคารพซึ่งกันและกัน ไม่ใช่ว่าอิสระทั้งหมด โดยไม่ใช้กฎหมาย แต่คำว่าประชาธิปไตย มีขีดจำกัดอยู่ตามหน้าที่ความรับผิดชอบ ซึ่งต้องเคารพกฎหมายดูอย่างต่างประเทศเขาแรงไหม และตนจะทำอย่างนั้นได้ไหม เพราะนี่คือคนไทยด้วยกัน ฉะนั้นทำอย่างไรให้เขาเข้าใจ ซึ่งไม่ต้องรักตนหรอก ขอให้รักประเทศชาติ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์จะต้องดำรงอยู่คู่คนไทยตลอดไปชั่วกาลนาน.
ทั้งนี้ พลเอก ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ถ้าเปรียบเทียบยานยนต์ปัจจุบันกับคนบนเวที มันเหมือนกับว่าพี่ยืนอยู่วันนี้เหมือนกับมีทั้งรถสันดาป และรถไฮบริด และรถไฟฟ้า วันนี้อนาคตของประเทศเราอยู่ที่พวกคนเหล่านี้ ทั้งสิ้นและไม่ใช่แค่นี้ ทั้งประเทศคือกลไกสำคัญของพวกเราที่ต้องร่วมมือกัน และสามารถไปได้ทุกที่เพราะประเทศไทยเราพร้อมทุกอย่างอยู่แล้ว