xs
xsm
sm
md
lg

พปชร.นำว่าที่ผู้สมัคร กทม.เร่งขับเคลื่อนแผนเพิ่มพลังทุนเพิ่มพลัง ศก.ผุดกองทุนธุรกิจเพื่อสังคม

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“อ.แหม่ม” นำทีมว่าที่ผู้สมัคร กทม.พปชร. เร่งขับเคลื่อนแผน “เพิ่มพลังทุน เพิ่มพลัง ศก.” ชู ผุดกองทุนธุรกิจเพื่อสังคมลดพึ่งงบรัฐเสริมแกร่งฐานราก

วันนี้ (23 มี.ค.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) จัดสัมมนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นระหว่างว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กทม. ตัวแทนชุมชน นักวิชาการสายเศรษฐศาสตร์ และผู้ประกอบการ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนนโยบาย พปชร. ภายใต้หัวข้อ “เพิ่มพลังทุน เพิ่มพลังเศรษฐกิจ” นำโดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วย นางนฤมล รัตนาภิบาล, นายศันสนะ สุริยะโยธิน และ นายกิตติภูมิ นีละไพจิตร์ ตัวแทนว่าที่ผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) กทม. พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)

โดย ศ.ดร.นฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก พปชร. กล่าวว่า ผู้สมัคร กทม.ของพรรคพลังประชารัฐได้ให้ความสำคัญกับเรื่องเศรษฐกิจปากท้องของชาว กทม จึงได้มาพูดคุยกันว่า จะใช้วิธีการใดที่จะไม่เกิดเป็นภาระต่อภาษีของประชาชน และมุ่งเน้นให้ประชาชนกินดีอยู่ดีอย่างยั่งยืนมากขึ้น โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งเป็นปัญหาสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก เราต้องหาแหล่งเงินเพื่อพัฒนาประเทศ

“เราจึงได้ข้อสรุปว่าจะใช้ศักยภาพของตลาดทุนทั้งในและต่างประเทศด้วยการส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกองทุนที่จะมาพัฒนาธุรกิจเพื่อสังคม หรือ Social Enterprise (SE) ที่มีพระราชบัญญัติรองรับอยู่แล้ว นำมาพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก โดยกลไกของตลาดทุนจะเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนามากขึ้น แทนที่เราจะเก็บภาษีคนรวยมาช่วยคนจน เราก็ให้คนที่มีเงินเหลือใส่เงินผ่านกองทุนแล้วใช้กลไกกำกับดูแลให้ SE ลงไปทำงานในพื้นที่ก็จะพัฒนาอย่างต่อเนื่อง”

ทั้งนี้ การดำเนินงานดังกล่าวเป็นแนวทางที่หลายประเทศได้นำไปใช้แล้วเปิดให้ทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วมการแก้ไขปัญหาก็จะยั่งยืน ดังนั้น กองทุนดังกล่าวก็จะทำให้เกิดการจ้างงานเพิ่มในท้องถิ่น เกิดขึ้นโดยเฉพาะเด็กจบใหม่ก็จะเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ หรือ ธุรกิจสตาร์ทอัป โดยใช้แหล่งเงินจากส่วนนี้ทำให้เกิดการพัฒนาในท้องถิ่น กระจายความเจริญสู่ต่างจังหวัด ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ กทม.แต่พรรคพลังประชารัฐ จะใช่กลไกนี้ทั่วประเทศ

ด้าน นางนฤมล รัตนาภิบาล ว่าที่ผู้สมัคร กทม.พรรค พปชร. กล่าวว่า เราจะขับเคลื่อนธุรกิจเพื่อสังคมโดยการลดการพึ่งพางบประมาณประเทศ ซึ่งจะเน้นของการแสวงหารายได้ ด้วยการระดมทุน ผ่านกองทุน SE ด้วย การร่วมมือกับเอกชน และตลาดทุน ในการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมธุรกิจเพื่อสังคมตาม พ.ร.บ.ส่งเสริมวิสาหกิจเพื่อสังคม การพัฒนาและส่งเสริมอาชีพประชาชน เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาความยากจน ซึ่งกองทุนสนับสนุนเงินเพื่อการประกอบอาชีพ สร้างรายได้ที่มั่นคง เพื่อเพิ่มจำนวนนักธุรกิจในชนที่มีคุณภาพ โดยกองจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนให้เหิดประสิทธิผลมากกว่าการใช่กองทุนรูปแบบที่ไม่ตอบโจทย์การช่วยเหลืออย่างแท้จริง

นายศันสนะ สุริยะโยธิน ว่าที่ผู้สมัคร กทม.พรรค พปชร. กล่าวถึงข้อ “การเพิ่มพลังสร้าง” ชูจุดเด่นสร้างจุดขายให้กับนวัตกรรม ในการสร้างโอกาสใหม่ สร้างอาชีพชุมชน ด้วยสินค้า “Made in Bangkok” สู่สากล การมีส่วนร่วมของสมาชิกในชุมชนช่วยกันพัฒนาชุมชนของตัวเอง นี่คือ สำคัญในการพัฒนาฐานรากในพื้นที่ชุมชนโดยไม่ได้พึ่งพากองทุนของประเทศ พรรคพลังประชารัฐ ตั้งเป้าหมายว่าจะต้องเพิ่มรายได้ และลดรายจ่ายให้กับประชาชน ซึ่งกองทุน SE ทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้ง่าย เพื่อให้ทุกคนเติบโตและลดความเหลื่อมล้ำให้เกิดความเท่าเทียม

ด้าน นายภูวกร ปรางภรพิทักษ์ ว่าที่ผู้สมัคร พปชร. กล่าวถึงหัวข้อ “เพิ่มพลังเสริม” เพื่อเพิ่มทักษะและความรู้ในการสร้างอาชีพและฝึกทักษะวิชาชีพ รวมถึงเรื่องเทคโนโลยี การทำตลาดออนไลน์ และการบริการผ่านเทคโนโลยี ซึ่งพรรคพลังประชารัฐจะมีศูนย์การเรียน การสอน ทุกเขต ทุกพื้นที่ โดยเราจะสอนตั้งแต่ขั้นต้น ทำอย่างไร โดยนักวิชาการ และผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็นการทำสินค้า การรีแบรนด์ ให้เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่จากการพัฒนาผลิตภัณฑ์เดิมที่มีอยู่แล้วให้ดีขึ้น รวมไปถึงการค้าขายในโลกโซเชียล ไม่ว่าจะเป็นการโพสต์ การถ่ายรูป ครอบคลุมทุกรูปแบบ

ด้าน นายกิติภูมิ นีละไพจิตร์ กล่าวถึงแนวทางการบริหารจัดการพื้นที่ค้าขายจากบริบทจริง การเสนอแนวทางพัฒนาตลาดใหม่ จัดการพื้นที่ ส่งเสริมอัตลักษณ์แต่ละท้องถิ่น การขยายแนวทางการขาย และส่งเสริมผู้ประกอบการ

ทั้งนี้ การจัดสัมมนาดังกล่าวเป็นการระดมความเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ จากตัวแทนชุมชน นักวิชาการสายเศรษฐศาสตร์ และผู้ประกอบการ เพื่อนำไปสู่การขับเคลื่อนและจัดทำเป็นนโยบายด้านกองทุนเพื่อการพัฒนาสังคมอย่างยั่งยืนของพรรค ให้สอดคล้องกับบริบทและสังคมในพื้นที่ต่างๆ ของกรุงเทพฯ เช่น การพัฒนาเศรษฐกิจฐานราก ลดการพึ่งพางบประมาณของประเทศ โดยเปิดโอกาสให้ทุกภาคส่วนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ เพื่อนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจที่ดี สังคมสงบสุข และมีสุขอย่างยั่งยืนควบคู่กับการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนกรุงเทพฯ ให้ดียิ่งขึ้น


กำลังโหลดความคิดเห็น