เลขาฯ นายกฯ สั่งเร่งติดตามความคืบหน้าเงินเยียวยาจำนำข้าวเปลือกชาวนาพิจิตร 470 ครอบครัว หลังยืดเยื้อมา 17 ปี “เสธ.หิ” แจงขั้นตอนติดขัด อคส.แจ้งยังต้องขอข้อมูลจากจังหวัดพิจิตรเพิ่มชนิดข้าวและความชื้นมา เพื่อเอามาเทียบเคียง
วันนี้ (22 มี.ค.) นายพีระพันธุ์ สารีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการอำนวยความเป็นธรรมและเร่งรัดการปฏิบัติราชการ ได้สั่งการให้ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ พร้อมคณะ เร่งติดตามความคืบหน้ากรณีเกษตรกรจังหวัดพิจิตร จำนวน 470 ครอบครัว ที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาเงินค่าจำนำข้าวเปลือก จำนวนเงินกว่า 58 ล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพื่อเกษตรกรปีการผลิต พ.ศ. 2548/2549 ในสมัยรัฐบาลในอดีต ทำให้ทราบว่ายังมีปัญหาติดขัดเกษตรกรยังไม่ได้รับเงินเยียวยาถึงปัจจุบันนี้
ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ เปิดเผยว่า หลังจากมีการประชุมเพื่อเร่งรัดให้เร่งดำเนินการจ่ายเงินชดเชยไปเมื่อวันที่ 7 มีนาคม นายพีระพันธุ์ ได้สั่งการให้ตนติดตามความคืบหน้าในเรื่องดังกล่าว จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เบื้องต้นได้สอบถามไปยัง นายไชยา สมถวิล ปลัดจังหวัดพิจิตร ได้แจ้งว่า ทางจังหวัดพิจิตรได้ส่งเอกสารข้อมูลของเกษตรกรที่ร่วมโครงการรับจำนำข้าวเมื่อปี 2548/2549 ไปให้ทาง อคส.แล้ว และรอการพิจารณา หลังจากนั้น ได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.สุรพงศ์ เปล่งขำ รอง ผอ.องค์การคลังสินค้า (อคส.) ทราบว่า ทางจังหวัดพิจิตรส่งเอกสารมาให้แล้ว อคส.ได้ทำการเช็กข้อมูลเดิมทางจังหวัดพิจิตรไม่ได้ส่งข้อมูลในเรื่องของชนิดข้าว และความชื้นมาให้ ทำให้ลงมติในการเทียบเคียงไม่ได้ ซึ่งทาง อคส.จะทำหนังสือถึงจังหวัดพิจิตรเพื่อขอข้อมูลเพิ่ม
ดร.หิมาลัย กล่าวต่อว่า กรณีชาวนาจังหวัดพิจิตร 470 ครอบครัว ที่ยังไม่ได้รับเงินค่าจำนำข้าวเปลือกจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือกเพื่อเกษตรกรปีการผลิต พ.ศ. 2548/2549 ยาวนานมา 17 ปีแล้ว ปัจจุบันก็ยังไม่ได้รับเงินชดเชย ติดปัญหาที่ระบบราชการ ตนก็จะติดตามเรื่องนี้ต่อไปจนกว่าชาวนาจะได้รับเงินชดเชยตามที่นายพีระพันธุ์ได้เร่งรัดมา