“จิรพงษ์” ส.ส.นนทบุรี พท. จวก “สันติ” เลขาฯ พปชร. โจมตี “สมศักดิ์-สุริยะ” หลังย้ายซบเพื่อไทย ชี้ควรให้เกียรติอดีตแกนนำพรรค เตือนอย่ากวนน้ำให้ขุ่น ห่วงถูกปลดพ้นเลขาฯพรรค ไม่ทำตามนโยบายก้าวข้ามความขัดแย้งของ ”บิ๊กป้อม”
วันนี้ (19 มี.ค.66) นายจิรพงษ์ ทรงวัชราภรณ์ ส.ส.นนทบุรี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ออกมาให้สัมภาษณ์โจมตีนายสมศักดิ์ เทพสุทิน และนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ หลังย้ายมาร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยว่า การออกมาให้สัมภาษณ์พาดพิงถึงอดีตแกนนำพรรค ควรให้เกียรติ และเคารพการตัดสินใจ ที่เป็นสิทธิส่วนตัว ไม่ควรนำไปสู่ความขัดแย้ง เพราะทั้ง นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ ก็ได้มีการลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ เรียบร้อยแล้ว ซึ่งบรรยากาศ ก็เป็นไปด้วยดี และ พล.อ.ประวิตร ก็สัมภาษณ์สื่อมวลชนอย่างให้เกียรติในทิศทางที่ดี
“นายสันติ ไม่ควรกวนน้ำให้ขุ่น ควรช่วยกันสร้างบรรยากาศทางการเมืองให้สร้างสรรค์ เพราะ ท่านสมศักดิ์ ก็ตั้งโต๊ะแถลงข่าวถึงสาเหตุการย้ายพรรคไปแล้วว่า การเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค ทำให้การขับเคลื่อนโครงการต่างๆทำได้ไม่เต็มที่ ซึ่งจากที่ผมติดตาม ก็เห็นชัดเจนว่า หลายโครงการยังสะดุดอยู่ อาจมีการขัดแข้งขัดขาแย่งผลงาน เช่น การปลดล็อกพืชกระท่อม ที่ยังไม่สามารถแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์จากพืชกระท่อมได้ เนื่องจากติดระเบียบ อย.ที่กำกับดูแลโดยกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเรื่องนิคมอุตสาหกรรมราชทัณฑ์ เรื่องส่งเสริมวัวชน ที่ยังขับเคลื่อนได้ล่าช้าอยู่ ทั้งที่ล้วนเป็นโครงการที่เป็นประโยชน์กับประชาชน” นายจิรพงษ์ กล่าว
นายจิรพงษ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา นายสมศักดิ์ ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีมาแล้วหลายสมัย ในหลายรัฐบาล จึงได้มีโอกาสทำงานร่วมกับทั้งรัฐบาลผสม และรัฐบาลพรรคเดียว ซึ่งก็ได้เห็นข้อแตกต่างอย่างชัดเจน ในการขับเคลื่อนนโยบายต่างๆ โดยถือว่า เป็นผู้บริหารที่มีประสบการณ์สูง จึงไม่แปลกที่เลือกมาทำงานกับพรรคเพื่อไทย เพื่อต้องการช่วยเหลือพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะเกษตรกร ดังนั้น การย้ายมาพรรคเพื่อไทย ไม่ได้ผิดอะไร เพราะออกมาอย่างถูกต้อง ไม่มีการรักษาการเก้าอี้รมต.ด้วย รวมถึงขณะที่อยู่พรรคพลังประชารัฐ ก็ได้ทำงานอย่างเต็มที่ จนมีผลงานอย่างชัดเจน ไม่เคยเอาเปรียบพรรคตามที่ถูกกล่าวหา
นายจิรพงษ์ กล่าวต่อว่า นายสันติ ควรยอมรับความเห็นต่างทางการเมือง ไม่ควรออกมากล่าวหาเรื่องต้องการตำแหน่ง ทั้งที่นายสมศักดิ์ และนายสุริยะ ตั้งใจทำงานเพื่อประเทศ ซึ่งไม่ว่าจะอยู่ตำแหน่งไหน ก็มีความตั้งใจสูง แต่ตนเข้าใจว่า การที่พุ่งเป้ามาที่นายสมศักดิ์ เพราะนายสันติ อาจจะกังวลพื้นที่ภาคเหนือที่ตนเองรับผิดชอบ จะสู้ไม่ได้ใช่หรือไม่ ถึงออกอาการแบบนี้ เพราะนิด้าโพลล่าสุด พรรคเพื่อไทย ก็นำขาด ทั้งแคนดิเดตนายกฯ ส.ส.เขต ส.ส.บัญชีรายชื่อ จึงไม่แปลกที่นายสมศักดิ์ จะถูกโจมตี เพราะเป็นตัวจริงในพื้นที่ภาคเหนือนั่นเอง
“ผมเริ่มเป็นห่วง นายสันติ จะถูกปลดจากเลขาฯพรรค ที่ไม่จดจำนโยบายของหัวหน้าพรรค ในการก้าวข้ามความขัดแย้ง แต่ก็เข้าใจได้ว่า อาจจะหลงลืม เพราะขนาดจบด็อกเตอร์ ยังจำชื่อคณะ และชื่อเต็มสถาบันไม่ได้เลย” นายจิรพงษ์ กล่าว.