xs
xsm
sm
md
lg

“เศรษฐา” พร้อมลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ “สนธยา” ลั่นกวาด ส.ส.ยกเมืองชลฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



“เศรษฐา” มองฝ่ายบริหาร-นิติบัญญัติ ควรแยกจากกัน แต่พร้อมลง ส.ส.บัญชีรายชื่อ โยน กก.บห.เคาะ “สนธยา” ลั่นกวาด ส.ส.ยกเมืองชลฯ เย้ยบ้านใหม่ถนัดแต่นิทาน-เรื่องเล่า โว พท.มี ปชช.เป็นเสื้อเกราะ ไม่หวั่นกระสุนการเมือง “ชลน่าน” ดักคอ “บิ๊กตู่” ประชุม ครม.นัดทิ้งทวน 21 มี.ค. 66 ถึง 4 โมงเย็น ก่อนประกาศยุบสภา

วันนี้ (18 มี.ค.) ที่ร้าน WHEELER BED&BIKE อ.เมือง จ.ชลบุรี แกนนำพรรคเพื่อไทย นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย, นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย และ นายสนธยา คุณปลื้ม แกนนำชลบุรี พร้อมด้วยว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ชลบุรี พรรคเพื่อไทย ร่วมพูดคุยรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะจากตัวแทนผู้ประกอบการในพื้นที่

โดย นายสนธยา ให้สัมภาษณ์ถึงความมั่นใจกวาด ส.ส.แลนด์สไลด์ในพื้นที่ชลบุรี ว่า สิ่งที่ทำให้เรากล้าประกาศแลนด์สไลด์ คือผลงานที่ผ่านมา ทีมชลบุรี และของพรรคเพื่อไทย ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทย พรรคพลังประชาชน รวมถึงพรรคเพื่อไทย ที่จับต้องได้ประกอบกับการขับเคลื่อนนโยบายที่พึ่งประกาศไป และว่าที่ผู้สมัคร ทำให้มั่นใจว่าจะยกจังหวัด

เมื่อถามถึงกรณีมีบ้านใหม่ (กลุ่มของ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน และแกนนำชลบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ) เกิดขึ้นใน จ.ชลบุรี ถือว่าเป็นคู่แข่งที่น่ากลัวหรือไม่ นายสนธยา กล่าวว่า คู่แข่งก็คือคู่แข่ง แต่การเลือกตั้งอยู่ที่ประชาชน ซึ่งต้องดูหลายอย่างประกอบ ไม่ใช่แค่หัวโขน นิทาน เรื่องเล่า แต่ดูความจริงใจ ย้ำว่ามั่นใจสนามนี้ เราสู้เต็มที่

เมื่อถามว่า การแข่งขันใน จ.ชลบุรี กังวลจะถูกตาอยู่ คือ พรรคก้าวไกล คว้าเก้าอี้ ส.ส.ได้เหมือนการเลือกตั้งปี 62 หรือไม่ นายสนธยา กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นตอนปี 62 เกิดจากการยุบพรรคไทยรักษาชาติ แต่การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่กลัว จะเป็นอีกแบบ

เมื่อถามว่า ขณะนี้เริ่มมีการใช้อำนาจเงิน ความรุนแรง หรือกระสุนการเมืองในการหาเสียงเลือกตั้งแล้วหรือไม่ นายสนธยา กล่าวว่า วันนี้มีการใช้อำนาจรัฐบางอย่างมาข่มขู่ ทำให้เกิดความแตกแยก แต่ พรรคเพื่อไทย หัวใจคือประชาชน ไม่มีแบ่งแยกฝั่ง แบ่งแยกฝ่าย

“ทีมชลบุรีถือว่าประชาชนคือศูนย์กลาง เราใส่เสื้อเกราะ เราไม่กลัว (กระสุนการเมือง) เสื้อเกราะของเราคือประชาชน” นายสนธยา ระบุ

นายเศรษฐา กล่าวถึงการลงพื้นที่พบประชาชนเป็นสัปดาห์ที่ 2 ว่า ยังไม่ชิน เพราะเป็นก้าวใหม่ของชีวิต ถือเป็นน้องใหม่

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ที่ถูกจับตาในสนามการเมืองมากขึ้น และ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของสถานบริการชื่อดัง เริ่มขู่ว่าจะขุดคุ้ย นายเศรษฐา กล่าวว่า แต่ละคนก็มีหน้าที่แตกต่างกันไป ตนมาตรงนี้ก็มั่นใจว่ามาทำเพื่อประชาชน หากบอกว่าไม่กลัวเลยก็ไม่เชิง แต่เราก็เต็มที่ และมั่นใจว่า เจตนารมณ์ของเราบริสุทธิ์

เมื่อถามต่อว่า ตัดสินใจจะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ด้วยหรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับทางพรรค ซึ่งอีกไม่นานน่าจะมีความชัดเจน แต่ไม่อยากพูดถึงขนาดนั้น เพราะจะเป็นการกดดันกรรมการบริหารพรรค ขอให้แล้วแต่กรรมการบริหารพรรค วันนี้ขอทำหน้าที่ที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยให้ดีที่สุดก่อน

เมื่อถามย้ำว่า มีความพร้อมหรือไม่ หากพรรคเพื่อไทยให้ลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ นายเศรษฐา กล่าวว่า “พร้อมครับ”

เมื่อถามว่า คิดว่าการเป็น ส.ส.ควบคู่กับตำแหน่งอื่น จะทำงานได้ดีกว่าเป็นตำแหน่งเดียวทางการเมืองหรือไม่ (กรณีที่นานเศรษฐา เคยระบุว่า สนใจรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีเพียงตำแหน่งเดียว เพราะสามารถทำงานให้เกิดการเปลี่ยนแปลงได้) นายเศรษฐา กล่าวว่า ตนมีความเชื่อว่าฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายบริหาร ควรจะแยกออกจากกัน เมื่อคุณอยู่ในฝ่ายบริหารแล้ว ต้องมีความรับผิดชอบในระบบรัฐสภาด้วย

ส่วนกรณีที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และ รมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ระบุว่า จากรายชื่อว่าที่แคนดิเดตนายกฯของแต่ละพรรคที่ออกมา ไม่มีใครเหมาะสมเท่ากับ นายอนุทิน เอง เพราะคนเก่าก็อยู่มา 8 ปีแล้ว ส่วนคนใหม่ๆก็ไม่มีประสบการณ์ นายเศรษฐา กล่าวว่า นายอนุทิน เป็นนักการเมืองอาวุโส คร่ำหวอดอยู่ในวงการมานาน ถือเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จในเวทีการเมืองคนหนึ่ง เมื่อท่านพูดอะไรก็ต้องรับฟัง และคิดว่าพรรคเพื่อไทย เราใช้นโยบายนำมาโดยตลอด และเราทำงานเป็นทีม รวมทั้งมีบุคคลที่มีคุณภาพคับแก้วอยู่เต็มไปหมด ก็อยู่ที่ประชาชนจะพิจารณา

“ผมไม่อยากพูดว่า ตัวเองมีประสบการณ์หรือไม่มีประสบการณ์ ขอให้ไปถามคุณอนุทินเองดีกว่า” นายเศรษฐา ระบุ

ช่วงนี้ นพ.ชลน่าน ที่ร่วมให้สัมภาษณ์อยู่ด้วยกล่าวเสริมว่า หากพูดถึงประสบการณ์การเป็นนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน เอง ก็ถือว่ายังไม่มีประสบการณ์เช่นกัน

เมื่อถามว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ควรประกาศวันยุบสภาให้ชัดเจนหรือไม่ว่าเป็นเมื่อใด นพ.ชลน่าน กล่าวว่า จริงๆ เขาเตรียมที่จะประกาศยุบสภาแล้ว เท่าที่ตนทราบมา ขณะนี้พระราชกฤษฎีกามีแล้ว เพียงแต่รอลงนามรับสนอง และประกาศในพระราชกิจจานุเบกษาเท่านั้น เวลาที่เหลืออยู่ คือ วันที่ 20-22 มี.ค.66 แต่ก็มีหลายกระแสข่าวบอกว่า เป็นวันที่ 20 มี.ค. 66 แต่ตนฟังจากรัฐมนตรีที่ใกล้ชิดบอกว่า จะมีการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 21 มี.ค. 66 และคาดว่าจะประชุมจนถึงเวลา 16.00 น. ก่อนประกาศราชกฤษฎีกายุบสภาในวันที่ 21 มี.ค. หรือวันที่ 22 มี.ค.

“เราก็ไม่ได้กังวลว่า เขาจะประกาศยุบสภาหรือไม่ เพราะรู้อยู่แล้วว่าจะต้องมีการเลือกตั้งแน่นอน ซึ่งวันเลือกตั้งก็น่าจะเป็นวันที่ 14 พ.ค. 66” นพ.ชลน่าน ระบุ






กำลังโหลดความคิดเห็น