วันนี้ (10 มี.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่รัฐสภา พล.ท.อัศวิน รัชฎานนท์ รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้มารายงานตัวต่อสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เพื่อเข้ารับตำแหน่ง ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทนที่ น.ส.ภคอร จันทรคณา รองหัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ตามประกาศสภาผู้แทนราษฎร ลงวันที่ 7 มีนาคม พ.ศ. 2566 เรื่อง ให้ผู้มีชื่ออยู่ในลำดับถัดไปในบัญชีรายชื่อของพรรคการเมือง เลื่อนขึ้นมาเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแทนตำแหน่งที่ว่าง ต่อมา ภายหลังจากที่ พล.ท.อัศวิน ได้รายงานตัวตามขั้นตอนของทางสำนักฯ เลขาธิการ ส.ส. แล้ว ซึ่งก่อนมาเป็น ส.ส. พล.ท.อัศวิน รัชฎานนท์ ฐานะที่ปรึกษาประธาน กมธ.ทหาร สภาผู้แทนราษฏร ได้ร่วมเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก พ.ศ.... เพื่อแก้ไขมาตรา 11 ที่บัญญัติว่า ทหารผ่านศึก ครอบครัวทหารผ่านศึก หรือทหารนอกประจำการที่จะได้รับ การสงเคราะห์หรือถูกงดการสงเคราะห์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการในข้อบังคับสภาทหารผ่านศึก เพราะถือเป็นบทบัญญัติที่ไม่ยืดหยุ่นต่อสถานการณ์ทางเศรษฐกิจปัจจุบัน รวมทั้ง กลายเป็นเครื่องมือที่บีบบังคับให้ทหารต้องเลือกพรรคใดพรรคหนึ่งเพื่อให้อดีตเจ้านายขึ้นสู่อำนาจด้วย
โดย พล.ท. อัศวิน ระบุว่า การที่ตนได้รับแต่งตั้งเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ ทั้งๆ ที่ปิดสมัยประชุมไปแล้วนั้น เนื่องจากเป็นไปตามกฎหมายบัญญัติรัฐธรรมนูญแล้ว ที่สำคัญก็คือ ตนต้องการให้เสียงของทหารผ่านศึกที่เสี่ยงเป็นเสี่ยงตาย เพื่อให้นายพลได้รับความสุขสบายนั้น ได้รับการพิจารณาจากสภาผู้แทนราษฎร เพราะที่ผ่านมา ถึงแม้ตนจะมียศเป็นพลโท แต่ก็รู้ดีว่า ต้องแลกกับหยาดเหงื่อเลือดเนื้อของทหารผ่านศึกทุกๆ ท่าน ตนถือว่า เป็นหน้าที่สำคัญที่จะต้องตอบแทนบรรดาทหารผ่านศึก ซึ่งควรจะได้รับสิทธิบางประการ เพื่อทำให้ทหารผ่านศึกดำรงชีวิตได้อย่างมีศักดิ์ศรี โดยไม่ต้องไปดิ้นรนหาเงินส่วนใดๆมาเพื่อดำรงชีพ โดยทางพรรคไทยศรีวิไลย์ได้เสนอ ร่างแก้ไขพระราชบัญญัติองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญ คือ ขณะนี้ ทหารผ่านศึกนอกประจำการดังกล่าวซึ่งปัจจุบันมีจำนวนทั้งสิ้น 267,000 คน ได้พ้นหน้าที่จากการรับใช้ประเทศชาติแล้วมีความเป็นอยู่ที่ยากจนข้นแค้นและยากลำบาก บางนายเสียชีวิตข้างถนนไม่มีเงินทำศพ แม้จะได้รับการสงเคราะห์ในด้านอื่น ๆ จากองค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึกษาก็ตาม แต่ก็ยังไม่มีความเหมาะสมสอดคล้องกับค่าครองชีพในสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนั้น จึงสมควรกำหนดให้มีสิทธิได้รับการสงเคราะห์เงินเลี้ยงชีพรายเดือน เงินช่วยเหลือเป็นค่าครองชีพพิเศษ เงินช่วยค่าครองชีพเพื่อผดุงเกียรติเป็นรายเดือน รวมถึงสิทธิประโยชน์อื่นใด ในอัตราที่คำนึงถึงความจำเป็นและความเหมาะสมสอดคล้องกับค่าครองชีพตามสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อความเป็นธรรมและผดุงเกียรติแก่ทหารผ่านศึกนอกประจำการผู้ซึ่งเคยปฏิบัติหน้าที่การสงครามหรือในการรบหรือป้องกันหรือปราบปรามการกระทำอันเป็นภัยต่อความมั่นคงหรือความปลอดภัยแห่งราชอาณาจักรไม่ว่าในหรือภายนอกราชอาณาจักร โดยขณะนี้ ร่าง พ.ร.บ.นี้ เข้าข่ายเป็น พ.ร.บ.ที่เกี่ยวกับการเงิน ตามมาตรา 133-134 ของรัฐธรรมนูญฯ และมีการดำเนินการรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา 77 ของรัฐธรรมนูญฯ โดยมีทหารทั้ง 3 เหล่าทัพจำนวน 73,014 นาย ซึ่งมาจากทุกระดับชั้นยศ ได้แสดงความเห็น โดยส่วนใหญ่เห็นว่า ควรสนับสนุนให้ทหารผ่านศึกทุกนายได้รับเงินผดุงเกียรติเป็นรายเดือน รวมทั้ง เป็นการแบ่งเบาภาระอีกหลายปัญหาของทหารผ่านศึก เช่น ค่ารักษาพยาบาล หนี้ที่กู้มาเพื่อชื่อที่อยู่อาศัย หรือ การจ่ายค่าเล่าเรียนให้บุตรหลาน และปัญหาจิปาถะอื่นๆ ซึ่งยังมีปัญหาอยู่ทุกวันนี้ ดังนั้น ตนจึงหวังว่า พรรคการเมืองอื่นๆ จะมึความเห็นที่สอดคล้องกัน ในการดูแลทหารผ่านศึกซึ่งถือว่า เป็นบุคคลที่เสียสละให้กับประเทศชาติและสร้างประโยชน์ให้กับประชาชนมาตลอดด้วย
“ผมถือเป็นนายทหาร ได้รับสิทธิประโยชน์ต่างๆ มากมาย ทั้งกระบี่ เครื่องราชอิสริยาภรณ์ เงินบำนาญจำนวนมาก รวมทั้ง เกียรติยศต่างๆ มากมาย แต่สุดท้าย ผมกลับไม่มีความสุข เพราะเนื่องจากว่า ทหารผ่านศึกหลายนาย ได้มายื่นกฎหมายเพื่อขอให้มีเงินผดุงเกียรติ ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา โดยผมมองว่า คนเหล่านั้นหลายคน อาจจะเคยเป็นเพื่อนร่วมงานตามสายงานการบังคับบัญชา หรือเคยเป็นเพื่อนร่วมรบกันในสนามรบต่างๆ ซึ่งผมเห็นว่า คนเหล่านี้ควรได้รับสวัสดิการตามฐานานุรูป ซึ่งทาง นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ได้มีการเสนอร่าง พ.ร.บ.องค์การสงเคราะห์ทหารผ่านศึก (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และได้มีการสำรวจความคิดเห็นไปบ้างแล้ว แต่ทั้งนี้ ก็รู้ดีว่า ร่าง พ.ร.บ. ดังกล่าว เกี่ยวข้องกับการเงิน ดังนั้น ผมจึงขอร้องให้นายกรัฐมนตรีคนต่อไปหลังจากการเลือกตั้ง ช่วยผลักดันร่างกฎหมายฉบับดังกล่าว โดยขอให้พิจารณาอย่างรอบด้าน และขอให้เซ็นรับรองร่าง พ.ร.บ. ด้วย ซึ่งทางพรรคไทยศรีวิไลย์ เอง ก็คาดหวังว่า จากการได้ดำเนินการเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้น จนกระทั่งมีการสำรวจความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นเรื่องที่สำคัญที่จะทำให้พี่ๆ ทหารผ่านศึก และประชาชนทั่วไป จะตัดสินใจเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ โดยจะขอให้เลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ ให้ได้ถึง 50 ที่นั่ง เพื่อที่จะได้กำหนดนโยบายต่างๆ รวมทั้ง เป็นเครื่องมือที่มีน้ำหนัก ในการดันกฎหมายเงินผดุงเกียรติทหารผ่านศึกด้วย เพราะกรรมการบริหารพรรคและแกนนำพรรคฯ ทุกท่าน ก็ได้ประกาศอย่างหนักแน่นว่า หากไม่เอาเรื่องนี้เป็นนโยบายรัฐบาล พรรคไทยศรีวิไลย์ก็จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลอย่างแน่นอน แต่หากประชาชนเลือกพรรคไทยศรีวิไลย์ จนได้นายกรัฐมนตรีที่ชื่อ มงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ แล้ว ผมรับรองว่า เงินผดุงเกียรติของทหารผ่านศึก จะได้รับการพิจารณา จนสามารถจ่ายเงินได้อย่างรวดเร็วแน่นอน” พล.ท.อัศวิน กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ประวัติของ พล.ท.อัศวิน รัชฎานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคไทยศรีวิไลย์นั้น เกิดเมื่อวันที่ 11 ตุลาคม 2492 อายุ 74 ปี ประวัติการศึกษา ชั้นมัธยมศึกตอนต้น ร.ร.สมุทรปราการ เป็นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 9 (ตท.9) และนักเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้ารุ่นที่ 20 โดยสำเร็จการศึกษาวิทยาศาสตรบัณฑิต โรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า และการฝึกอบรมหลักสูตรโรงเรียนเสนาธิการทหารบก ปี 2524 ชุดที่ 60 ส่วนประวัติการทำงานสำคัญ ได้แก่ ผู้บังคับกองร้อยทหารปืนใหญ่กลางกระสุนวิถีโค้งขนาด 155 มม. ป.พล.3 รองผู้บังคับการทหารปืนใหญ่ที่ 3 จ.นครราชสีมา หัวหน้ากองยุทธการและการข่าว กองบัญชาการช่วยรบที่ 2 จ.นครราชสีมา เสนาธิการกองทัพน้อยที่ 2 รองแม่ทัพน้อยที่ 2 และที่ปรึกษากองทัพบก ก่อนที่จะเกษียณอายุราชการ ต่อมา ดำรงตำแหน่ง ประธาน กกต.จังหวัดนครราชสีมาและได้มาเป็น ส.ส.บัญชีรายชื่อ แทน น.ส.ภคอร จันทรคณา เมื่อวันที่ 3 มีนาคม ที่ผ่านมา