xs
xsm
sm
md
lg

‘ไทยศรีวิไลย์’ นั่งสกายแลปบุกหาชาวนครพนม ส่ง 2 ว่าที่ผู้สมัครฯ ลงชิงชัย ‘มงคลกิตติ์’ชู โครงการรับประกันชีวิต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



วันนี้(3 มี.ค.)ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมงคลกิตติ์  สุขสินธารานนท์  หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมด้วย นางสาวภคอร จันทรคณา ส.ส.บัญชีรายชื่อและรองหัวหน้าพรรค, นางสาวกนิษฐรินทร์ พัชรภักดีโชติ กุ้งพลอย หรือ ติ๊ก บิ๊กบราเทอร์ ว่าที่ ผู้สมัคร ส.ส. เขต 2 จ. อ่างทอง ,พลโท อัศวิน รัชฎานนท์-นายวิวัฒน์  เจริญพาณิชย์ศิริ  รองหัวหน้าพรรค ,นายศยุน ชัยปัญญา เลขาธิการพรรค,นายสรกฤช  จันทรคณา  โฆษกพรรค,นางสาวอรศศิพัชร์ มามีเกตุรัตน์  โฆษกประจำหัวหน้าพรรค, นางสาวอริญรดา สาระชัย นายทะเบียนพรรค,นางสาวณัฐปภัสร์  วรธันย์ผาสุข รองโฆษกพรรค ,นางสาวกฤษยากร สรชัย ผู้ช่วยเหรัญญิกพรรค,นายอนุรักษ์  อมรเมตตาจิตต์  ผู้ช่วยเลขาธิการพรรค,นายอดิศร สังข์จันทร์ , นายอนวรรช ศรีคำเงิน กรรมการบริหารพรรค พลโท ดร.กฤตภาส คงคาพิสุทธ์ ประธานยุทธศาสตร์ด้านพลังงานพรรค ,น.ส. สุขสุนันท์ กีรติดวงจันทร์  ผู้ประสานงานจังหวัดและ น.ส.ชนิมณฑ์ สืบอ้าย เจ้าหน้าที่พรรค ร่วมลงพื้นที่ จ.นครพนม โดยนายมงคลกิตติ์ และคณะ ได้สักการะพระธาตุนคร  โดยมีความเชื่อว่า ผู้ที่ไปนมัสการพระธาตุแห่งนี้จะได้รับอานิสงส์ เสริมบุญบารมี และมีอำนาจวาสนาเป็นเจ้าคนนายคน ต่อมา ได้ไปสักการะขอพร พญาศรีสัตตนาคราช ซึ่งถือเป็นแลนด์มาร์คของชาว จ.นครพนม ที่มีชื่อเสียง โดยมีประชาชนคนไทยและชาวต่างประเทศจำนวนมาก ต่างมาแวะเวียนสักการะขอพรกันอย่างไม่ขาดสาย โดยนายมงคลกิตติ์ และคณะ ได้ขอพรให้พรรคไทยศรีวิไลย์ประสบความสำเร็จในการเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เพื่อที่จะได้นำนโยบายต่างๆ ของพรรคฯ มาช่วยเหลือประชาชนต่อไป  
           จากนั้น นายมงคลกิตติ์และคณะ ได้นั่งรถสองล้อเล็กหรือรถสกายแลป แห่ไปรอบๆ เขตเทศบาลเมืองนครพนม เพื่อทักทายประชาชนภายในเขตเทศบาลฯ ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้า และประชาชนที่สัญจรไปมา ต่างทักทายและให้กำลังใจนายมงคลกิตติ์ และพรรคไทยศรีวิไลย์เป็นจำนวนมาก หลังจากนั้น ได้เดินทางไปยัง วัดญาติฝุ่น ต.หนองญาติ อ.เมือง เพื่อเข้าร่วมประชุมคัดเลือกตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ใน จ. นครพนม  โดยผลการประชุมปรากฏว่า นายวิวัฒน์  สรรพโส ได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคไทยศรีวิไลย์ประจำจังหวัดนครพนม รวมทั้ง ยังได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนมของพรรค 2 คน จาก 4 เขตเลือกตั้ง คือ นายวิวัฒน์  สรรพโส เขต 2 (อ.เมือง อ.ท่าอุเทน อ.โพนสวรรค์)  และ นางกานต์ฐิรัช  ราชวงศ์ เขต 4 (อ.เมือง อ.นาแก อ.วังยาง, อ.ปลาปาก)                                     
                            
                              โดยนายมงคลกิตติ์ ได้กล่าวภายหลังจากที่ได้ตัวแทนพรรคฯ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม กับสมาชิกพรรคและประชาชนที่มาร่วมประชุมว่า การที่พรรคไทยศรีวิไลย์ มาประชุมคัดเลือกตัวแทนประจำจังหวัดภายในวัด เนื่องจากว่า วัดเป็นสถานที่เอนกประสงค์ของคนไทยตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งถือเป็นจุดนัดพบที่สำคัญในการทำกิจกรรมต่างๆ อีกทั้ง สิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งก็คือ ใครที่มาวัดแล้ว จะต้องพูดแต่ความจริง ดังนั้น สิ่งที่ตนจะพูดถึงนโยบายต่างๆ ยืนยันว่าทำได้จริง และอำนวยประโยชน์ให้กับประชาชนทุกกลุ่ม เช่น เบี้ยผู้สูงอายุ 5,000 บาท ซึ่งมีบางพรรคการเมืองได้ลอกเลียนแบบพรรคไทยศรีวิไลย์ไปอย่างหน้าตาเฉย การนำผลประโยชน์จากการออกใบอนุญาตให้เปิดบ่อนการพนันทั้งออฟไลน์และออนไลน์ รวมทั้ง ผลประโยชน์ที่รั่วไหลจากการพนันตามที่ประชาชนเห็นของกลางที่มีมูลค่าสูงๆ นั้น จะนำมาแปลงเป็นสวัสดิการ โดยเฉพาะ โครงการรับประกันชีวิตทุกชีวิตที่เกิดเป็นคนไทย ถ้าเสียชีวิตทุกเหตุการณ์ ทุกกรณี ทุกโรคจะได้รับเงิน 500,000 บาท โดยที่ผ่านมาจะสังเกตว่าช่วงโควิด คนถือบัตรสวัสดิการหรือบัตรคนจน 20 ล้านคน เวลาตายไม่มีเงินค่าโลงศพ  ไม่มีเงินค่าปลงศพ หรือแม้กระทั่งไม่มีเงินค่าน้ำมันในการเผาศพ ซึ่งถือว่าน่าอนาถใจมาก และนโยบายนี้จะใช้เงินประมาณปีละ 250,000 ล้านบาท ซึ่งที่ผ่านมา เวลาที่เสียชีวิตมักจะมีค่าใช้จ่ายเป็นจำนวนมาก บางคนไม่มีเงินทำศพ ก็ต้องอาศัยไว้วานบรรดานักการเมืองให้มาติดพวงหรีดหรือช่วยออกเงิน ซึ่งพรรคไทยศรีวิไลย์ไม่ต้องการให้เกิดภาพที่ประชาชนต้องติดบุญคุณแบบนี้อีก รวมทั้ง เพื่อเป็นการรองรับเหตุที่ไม่คาดฝันในอนาคต เพราะบางรายถือเป็นเสาหลักของครอบครัว 

ซึ่งถ้าล้มไปแล้ว กว่าจะหาคนที่จะมารับบทเป็นเสาหลักของครอบครัวก็จะต้องใช้เวลานาน ส่วนนโยบายอัดฉีดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ 150,000 บาทต่อทุกครัวเรือน ต้องย้ำว่า ไม่ใช่เป็นการให้เปล่า ซึ่งจะต้องมีการชำระหนี้เดือนละ 3,125 บาท โดยต้องมีคนค้ำประกันทั้งหมด 3 คน และมีการทำประกันปีละ 50 บาท 4 ปีก็ 200 บาท เพื่อรองรับกรณีการเสียชีวิต ซึ่งเงินจำนวนนี้สามารถนำไปใช้เพื่อไปซื้อหาอุปกรณ์ในการประกอบอาชีพ ไปหมุนเวียนธุรกิจของตัวเองและครอบครัว ไปปรับโครงสร้างหนี้ หรือสามารถปลดเปลื้องหนี้ที่เจ้าหนี้เป็นกองทุนที่รัฐบาลควบคุมกำกับได้ทันที่ ซึ่งเปรียบเสมือนการให้เบ็ดและให้เหยื่อไป ส่วนจะหาปลาวิธีไหนก็ตามแต่วิธีการของแต่ละคน รวมทั้ง การเพิ่มค่าตอบแทนให้กับอาสาสมัครที่ทำประโยชน์ให้กับชุมชน เช่น อาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) จากอัตราปัจจุบันเดือนละ 1,000 บาท เป็นเดือนละ 3,000 บาท อาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน เดือนละ 3,000 บาท และนโยบายที่เป็นจุดสนใจของประชาชน โดยเฉพาะครอบครัวของทหารผ่านศึก คือ เงินผดุงเกียรติเดือนละ 3,000 บาท และถ้าทหารผ่านศึกรายใดมีสวัสดิการอยู่ก่อนแล้ว ก็จะเป็นการเพิ่มเติมให้อีกด้วย รวมทั้ง การลดค่าภาษีน้ำมัน 10 บาท การลดค่าไฟฟ้า เหลือเพียง 4 บาทต่อหน่วย ซึ่งจะทำให้ค่าครองชีพต่ำ  จะส่งผลให้ต้นในการผลิตพืชผลทางการเกษตรต่ำลง จะทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นด้วย








กำลังโหลดความคิดเห็น