xs
xsm
sm
md
lg

“ชวน” รับ ปชป.ไม่เหมือนเดิม กรีดสมาชิกสำนึกบุญคุณพรรค ชู “จุรินทร์” เก่ง แปลกใจผลโพล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ปธ.สภา ยอมรับ ภาพลักษณ์-ชื่อเสียง “ปชป.” ไม่เหมือนเดิม กระตุกต่อมสมาชิกต้องสำนึกบุญคุณที่พรรคเคยให้ ยัน “จุรินทร์” เป็นคนเก่ง แต่แปลกใจโพลรั้งท้ายตลอด แต่ช่วงหลังเขยิบดีขึ้น เผย หลังยุบสภาเดินหน้าช่วยหาเสียงเต็มที่

วันนี้ (8 มี.ค.) นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากอดีตสมาชิกพรรคที่ออกมาเปิดเผยปัญหาซื้อเสียงภายในพรรค ว่า อะไรก็ตามที่เป็นเรื่องลบ ย่อมกระทบต่อพรรคแน่นอน แต่ตนย้ำเสมอว่า สมาชิกต้องระลึกถึงบุญคุณพรรคเช่นกัน ขอยืนยันว่า การแต่งตั้งกรรมการบริหารพรรค รวมถึงตำแหน่งรัฐมนตรีของพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีการซื้อเสียง เพราะพรรคจะมีลักษณะที่ว่าคนที่จะมาเป็นรัฐมนตรีไม่ต้องเสียเงิน แต่สำหรับพรรคอื่นนั้นตนไม่ทราบ ดังนั้น คนที่อยู่ในพรรคต้องมีความรู้สึกผูกพันกับสิ่งที่พรรคให้ คุณธรรมหนึ่งของคนในพรรค คือ ต้องระลึกว่าเราได้อะไรไปจากพรรค และเสียอะไรให้พรรคบ้าง ยกตัวอย่างตนก็ไม่ได้ร่ำรวยอะไร ได้มาเป็นหัวหน้าพรรคโดยใช้เวลาพิสูจน์ 22 ปี จนสมาชิกพรรคยอมรับว่าตนเป็นหัวหน้าพรรคได้ และเมื่อชนะเลือกตั้งตนก็เป็นนายกรัฐมนตรี โดยไม่เสียเงินแม้แต่บาทเดียว ตนจึงบอกว่าบุญคุณเหล่านี้ใช้ทั้งชีวิต ก็ใช้ไม่หมด รวมถึงบุญคุณที่ได้จากชาวบ้านด้วย ดังนั้น ในช่วงปลายสมัยนี้จะใช้โอกาสเดินทางไปขอบคุณ คนที่ยังมีชีวิตอยู่ ที่เคยช่วยเหลือตนมาตลอด แม้บางอย่างตนจะตอบแทนเขาไม่ได้แต่ก็ตอบแทนบุญคุณเขาด้วยความซื่อตรง สุจริต

“ยกตัวอย่างตอนผมเป็น รมว.กลาโหม 3 ปี วันที่ผมพ้นตำแหน่ง ผมมีงบราชการลับอยู่ 7.5 ล้านบาท ท่านปลัดมาให้ผมเซ็น แต่ผมบอกขอยกคืนให้กระทรวงทั้งหมด ซึ่งปลัดบอกว่าเป็นเงินของท่าน ผมบอกว่าผมรู้ แต่ผมมาจากผู้แทนราษฎรไม่ได้มาจากกลาโหม ดังนั้น จึงขอตอบแทนชาวบ้านไม่ว่าต่อหน้า หรือลับหลัง ด้วยการขอคืนงบราชการลับทั้งหมด ให้กับหน่วยงานต่างๆ ซึ่งปัจจุจบันยังมีบางหน่วยยังเขียนจดหมายมาขอบคุณ และรายงานการใช้จ่ายงบเหล่านั้น ผมขอเรียนว่าตลอดชีวิต เราชดใช้บุญคุณประชาชน มีสิ่งเดียวที่ทำให้คือ ความซื่อตรงไม่ว่าต่อหน้าและลับหลัง คนในพรรคประชาธิปัตย์ ต้องมีจิตเช่นนี้” นายชวน กล่าว

นายชวน ยอมรับว่า ขณะนี้ภาพพจน์และความมีชื่อเสียงของพรรคประชาธิปัตย์ไม่เหมือนเดิม เพราะมีหลายคนออกไปจากพรรค แต่คนประเภทอย่างตนไม่มีทางไปไหน ต้องช่วยกันไม่ว่าจะได้ซักกี่คน ก็จะต้องช่วยให้สุดความสามารถ ถ้าพรรคโดดเด่นเสียงดี ตนก็ไม่กังวล แต่เมื่อสภาพเป็นเช่นนี้ตนก็ต้องมาช่วยหัวหน้าพรรค เพราะตนเป็นผู้หนึ่งที่เลือกนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ มาเป็นหัวหน้าพรรค โดยได้ย้ำกับสมาชิกหลายคนว่า ถ้าเราอยากเปลี่ยนหัวหน้าพรรค ก็ให้โอกาสเขาทำงานให้ครบ 4 ปี ถึงวันนั้นถ้าอยากเปลี่ยนก็ค่อยว่ากัน แต่อย่าไปทำอะไรในระหว่างนั้น โดยส่วนตัวถือว่านายจุรินทร์ เป็นคนที่มีความสามารถคนหนึ่ง ไม่เช่นนั้น นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และตน คงไม่หนุนให้มาเป็นหัวหน้าพรรค แต่ก็แปลกใจเวลาหยั่งเสียง มักจะอยู่ลำดับรั้งท้ายทุกที แต่ช่วงนี้เริ่มขยับดีขึ้นมา แต่เมื่อถึงจุดนี้ก็ต้องพยายามช่วยพรรค เท่าที่เป็นไปได้ และเมื่อตนเสร็จภารกิจโดยสิ้นเชิง หลังจากมีการยุบสภา ตนจะไปช่วยพรรคอย่างเต็มที่


กำลังโหลดความคิดเห็น