อดีต ส.ส.สุราษฎร์ เผย คนสนิท “ชวน” ต่อสายเคลียร์ ยังรัก-นับถือกันเหมือนเดิม ยันไม่ได้รับเงิน 200 ล้าน แลกกวาด ส.ส. ชี้ ปชป.แตก แบ่งฝ่าย หลัง “อภิสิทธิ์” ออก ไม่ขอวิจารณ์ประชาธิปัตย์จะรอดในสนามเลือกตั้งหรือไม่
เมื่อวันที่ (3 มี.ค.) นายชุมพล กาญจนะ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ที่ย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ขณะนี้เป็นปรึกษานายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงปัญหาภายในพรรค ปชป.ก่อนย้ายออกมา โดยยอมรับว่า ในพรรค ปชป.มีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ต่างคนต่างอยู่ คนมาใหม่ไม่กี่วัน ก็มาเป็นใหญ่ อย่างที่รู้ๆ กัน ซึ่งยังห่วงใย และฟังมาจากลูกสาวที่อยู่ในพรรค และที่ผ่านมา เคยสนทนาเรื่องในพรรคด้วยความห่วงใยกับ นายชวน หลีกภัย อดีตหัวหน้าพรรค ปชป.และส่วนตัวจะเลิกเล่นการเมือง เพราะเบื่อหน่าย ไม่คิดย้ายพรรคไหน นายชวน ก็บอกให้อดทน และเมื่อคุยกันเรื่องการเมือง ว่า การเมืองไปไกลมาก มีการทาบทามติดต่อหลายพรรคหลายฝ่าย มีการให้เงินให้ทองกันเท่านั้นเท่านี้ และบังเอิญหลังจากนั้นตอนตนป่วยนายชวนไปเยี่ยม และพูดกันถึงเรื่องนี้อีก นายชวน ก็ไปพูดต่อว่าการเมืองเป็นเช่นนี้ เหมือนนำ 2 เรื่อง มาเป็นเรื่องเดียวกัน จึงเข้าใจผิดว่าได้เงินมา
“ยืนยันว่า ไม่ได้รับเงินแน่นอน อยู่ในพรรค ปชป.ก็มีแต่ให้ ไม่เคยได้อะไรจากพรรคแม้แต่น้อย พวกที่เป็นรัฐบาลอยู่ ถือว่ากินบุญจากพวกผมด้วย เพราะเมื่อการเลือกตั้งปี 2562 นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นหัวหน้าพรรค ผมก็ช่วยอย่างเต็มที่ แต่เชื่อว่า นายชวน ไม่มีเจตนาว่าผม แต่เอา 2 เรื่องมารวมกัน พูดเป็นเรื่องเดียวกัน” นายชุมพล กล่าว
นายชุมพล กล่าวต่อว่า ส่วนตัวยังไม่มีโอกาสพูดคุยหรือโทร.หานายชวน แต่เมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) นายชวน ฝากให้คนสนิทโทร.มาหาตน บอกว่า ยังรักกันนับถือกันเหมือนเดิม ท่านไม่มีเจตนาเช่นนั้น และเข้าใจเหมือนเดิม ส่วนตัวไม่ได้กลัวว่านายชวนคิดเช่นนั้น แต่กลัวคนอื่นเข้าใจไปในทางที่ไม่ดี หรือรับเงิน เพราะเป็นเรื่องบาปกรรม ขอย้ำว่า ยังนับถือนายชวนเหมือนพ่อ เหมือนพี่ ที่อยู่กันมาหลายสิบปี
นายชุมพล กล่าวอีกว่า ไม่มีตัวเลข 200 ล้านบาท แลกกับหากกวาด ส.ส. ได้ทั้งจังหวัด มีแต่ช่วยกัน เพราะลูกสาวตนมาอยู่ที่พรรค รทสช. ส่วนตนไม่เคยมีประวัติเช่นนั้น นายกรัฐมนตรีชวนมาเป็นที่ปรึกษา มาช่วยบ้านเมือง ไม่ใช่ช่วยตัวเอง ไม่มีให้เงิน ค่าเดินทางกับค่าตั๋ว ตนยังจ่ายเอง และตนเห็นว่า นายกรัฐมนตรีเป็นคนซื่อสัตย์ เป็นคนดี ดังนั้น ใครเป็นผู้นำซื่อสัตย์ ตนก็จะไปอยู่ตรงนั้น
เมื่อถามถึงปัญหาในพรรค ปชป.ตั้งแต่ นายอภิสิทธิ์ ออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรคไป มีความขัดแย้งแตกแยก มีการแบ่งกลุ่ม ในพรรคเกิดขึ้น นายชุมพล กล่าวยอมรับว่า เป็นความจริงที่ผู้ใหญ่ในพรรคก็มองเช่นนั้น ว่า นายอภิสิทธิ์ ตัดสินใจไวไป ไม่ได้ปรึกษาหารือกัน แต่ก็เข้าใจในการตัดสินใจ หลังจากนั้น ในพรรคมีการแตกแยกมากจริง นายชวน ก็รู้ดี และเชื่อว่า พยายามแล้ว ซึ่งนายชวนมีหลักการ คือ อย่างไรก็ต้องให้ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ อยู่เป็นหัวหน้าพรรค จนครบวาระ
นายชุมพล ยังกล่าวว่า ในพรรค ปชป.ขนานนามว่า ตนเป็นนักประนีประนอม มีเพื่อนมาก เป็นประธาน ส.ส.ของพรรค ไม่มีความขัดแย้ง เพราะประสานให้เรียบร้อย แต่วันนี้ไปไกลมาก ต่างคนต่างอยู่ พรรคดี แต่คนในฝ่ายบริหาร แก่งแย่งกัน
ส่วน ปชป.จะไปไหวหรือไม่ในสนามเลือกตั้งครั้งนี้ นายชุมพล กล่าวว่า ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ เพราะการเมืองต้องระวังเป็นโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง คนที่เคยรักกัน บางทีอาจพูดจาผิดพลาดกระทบกระทั่งกัน แต่เชื่อว่า ตนอ่านไม่ผิด คือ นายชวน ยังรัก นับถือตนเหมือนเคย