วันนี้ (5 มี.ค.) ศ.ดร.กนก วงษ์ตระหง่าน เลขานุการคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ ว่า การเลือกตั้งใกล้เข้ามาทุกขณะ เพราะ กกต.เคาะเขตเลือกตั้งทั้ง 400 เขต เรียบร้อยแล้ว เรียกว่า การยุบสภา อาจเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา ความพร้อมของพรรคการเมือง ก็เดินเครื่องกันเต็มที่ พรรคชาติไทยพัฒนา ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม และชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องชาวประมง เราวางแนวกันไว้แล้วว่า สภาสมัยหน้า กฎหมายหนึ่งที่ต้องผลักดัน คือ ร่าง พ.ร.บ.การประมง ที่ผ่านสภาไปในวาระแรกแล้ว ประมงพื้นบ้านกับประมงพาณิชย์ ต้องอยู่ร่วมกันให้ได้ การจัดการกับเรือประมงในน่านน้ำของไทย ไม่ว่าจะเป็นจำนวน ขนาด เครื่องมือในการจับปลา จะต้องหาข้อยุติร่วมกัน นอกจากนี้ ต้องมีการเจรจาในเชิงรุกเกี่ยวกับสิทธิการทำประมง การเจรจาเราต้องเอาอะไรไปแลก เจรจา FTA ประเทศไทยของเราจะต้องออกไปจับปลาในน่านน้ำสากลได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย รัฐบาลจะต้องเจรจา เช่น มาเลเซีย พม่า ศรีรังกา เป็นต้น และที่สำคัญ คือ การฟื้นฟูระบบนิเวศทางทะเล โดยเฉพาะอย่างยิ่งประมงชายฝั่ง ให้มีความอุดมสมบูรณ์และยั่งยืน ไม่มองชาวประมงเป็นศัตรู แต่ช่วยกันทำให้ประมงพื้นบ้านมีรายได้ที่มั่นคงด้วย
“ผมคิดว่าสิ่งสำคัญ คือ งานวิจัย เพิ่มรายได้จากทรัพยากรธรรมชาติ เช่น หญ้าทะเล สาหร่ายทะเล เก็บคาร์บอนได้มากกว่าต้นไม้ ช่วยดูดซับก๊าซเรือนกระจกได้มากกว่าป่าทั่วไปถึง 4 เท่า ต้องให้ประมงพื้นบ้านมีสิทธิได้ประโยชน์นี้ ด้วยการให้เขาเป็นคนดูแลหญ้าทะเลตามแนวชายฝั่งทุกพรรคต้องร่วมกันคิด ผลักดันโดยไม่คิดถึงประโยชน์ ไม่ว่าจะเป็นของพรรค หรือของพวก แต่เอาปัญหาประชาชนเป็นที่ตั้ง ร่วมแรงร่วมใจผลักดันแบบไม่มีฝัก ไม่มีฝ่าย” ศ.ดร.กนก กล่าว
ศ.ดร.กนก กล่าวด้วยว่า ปัญหาภาวะโลกร้อนกำลังรุนแรงมากขึ้นทุกขณะ ปัจจุบันน้ำทะเลสูงขึ้น และน้ำทะเลเป็นกรด อุณหภูมิในน้ำทะเลสูงขึ้น ส่งผลกระทบต่อปริมาณปลาของเรา จนทำให้ชาวประมงต้องออกไปหากินไกลขึ้น และที่สำคัญ คือ จะมีพายุมากขึ้นในประเทศไทย พรรคชาติไทยพัฒนา ยืนยันว่า เราจริงใจและตั้งใจแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อมไม่ใช่เรื่องไกลตัว แต่เป็นเรื่องที่ใกล้ตัวทุกคน สิ่งแวดล้อมคืออนาคตของโลก และของประเทศไทย สิ่งแวดล้อมไม่ใช่ทางเลือก แต่เป็นทางรอดของประเทศไทย เพราะฉะนั้นเรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการแก้ไขประมงอย่างถูกวิธีและยั่งยืน คือธงที่พรรคชาติพัฒนาจะปักอย่างมั่นคง หากมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล
