“กนก วงษ์ตระหง่าน” วอนพรรคการเมือง ดันร่าง กม.ประมง จนมีผลบังคับใช้ เผย ประมงชายฝั่งทนทุกข์จากกฎเหล็กลิดรอนสิทธิการทำประมงพื้นบ้าน จมปลักกับความยากจนมายาวนาน หวัง รบ.ใหม่กำหนดนโยบาย สมดุล รักษาทรัพยากรธรรมชาติ ไม่ละเลยความมั่นคงในชีวิตชาวประมง
นายกนก วงษ์ตระหง่าน อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ เลขานุการคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึง ร่าง พ.ร.บ.การประมง พ.ศ...ที่เพิ่งผ่านวาระที่ 1 ของสภา ไปเมื่อวันที่ 23 ก.พ.ที่ผ่านมา ว่า ยังมีความไม่แน่นอนว่าสุดท้ายแล้วกฎหมายนี้จะได้ไปต่อหรือไม่ เพราะต้องรอการยืนยันจากรัฐบาลชุดหน้า ภายใน 60 วัน นับจากวันที่มีรัฐพิธีเรียกประชุมรัฐสภา โดยหวังว่าไม่ว่าใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาล ขอให้ผลักดันต่อ เพื่อให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว เนื่องจากชาวประมงทนทุกข์มานานหลายปีแล้ว นับตั้งแต่มีการออกพระราชกำหนดการประมง ปี 2558 มีเนื้อหากำกับควบคุมชาวประมงอย่างเข้มงวด เกินสัดส่วน จนกลายเป็นการลิดรอนสิทธิการทำประมงพื้นบ้าน ทำให้ชาวประมงจำนวนมากต้องสูญเสียอาชีพ ไม่สามารถทำกินต่อได้
นายกนก กล่าวว่า ประเทศไทยมีชาวประมงชายฝั่งทั้งด้านทะเลอันดามันและอ่าวไทยประมาณ 1 ล้านคน ส่วนใหญ่ของชาวประมงชายฝั่งยากจนมีรายได้ไม่พอกับการยังชีพ และยังต้องเผชิญกับช่วงเวลาปิดอ่าวปีละ 3 เดือน เพื่อให้สัตว์น้ำวางไข่และเติบโต พวกเขาทำได้เพียงการตกปลา จับปู หาหอยด้วยเครื่องมือที่กรมประมงควบคุม ชีวิตที่ต้องปากกัดตีนถีบ ทำให้ชาวประมงจำนวนหนึ่งเลือกเดินทางที่ผิด ใช้เครื่องมือผิดไปจากข้อกำหนดของกรมประมง ถูกจับปรับ นี่คือ โจทย์ทางนโยบายต่อพรรคการเมืองและรัฐบาลในอนาคต ที่จะต้องคิดและตัดสินใจ เพื่อรักษาทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลไว้ให้คนไทยในอนาคต และในเวลาเดียวกันจัดสรรทรัพยากรธรรมชาตินี้ให้กับคนไทยในปัจจุบันอย่างเป็นธรรมและคุ้มค่า เราไม่ต้องการคำตอบเพียงนโยบายหาเสียง แต่เราต้องการการปฏิบัติและบังคับใช้กฎหมายที่จะช่วยให้ชาวประมงชายฝั่งอยู่รอดและมีชีวิตที่มั่นคงอย่างน้อยในฐานะที่เป็นคนไทย
“ผมขอเรียกร้องความเป็นธรรมและสิทธิความเป็นคนไทยแทนชาวประมงชายฝั่ง ว่า ช่วงเปิดอ่าวชาวประมงชายฝั่งยังต้องสู้กับเรือประมงพาณิชย์ที่ใหญ่กว่า และใช้เครื่องมือที่ทันสมัยกว่า เข้ามาแย่งจับสัตว์น้ำในน่านน้ำชายฝั่ง ส่งผลให้สัตว์ในพื้นชายฝั่งลดลงอย่างรวดเร็ว ขณะที่พวกเขายังคงยากจน ใช้ชีวิตอยู่บนความไม่เป็นธรรม ทั้งเรื่องเครื่องไม้ เครื่องมือ และการถูกกดราคาโดยแพปลา จึงหวังว่าร่าง พ.ร.บ.การประมง จะเป็นทางรอดของชาวประมงชายฝั่งที่ยากจนด้วย ไม่ใช่เพียงการแก้ปัญหาของประมงพาณิชย์เท่านั้น” นายกนก กล่าว