วันนี้ (28 ก.พ.) นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี ประธานที่ปรึกษาพรรครวมไทยสร้างชาติ และที่ปรึกษาของนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัย กรณีที่ขึ้นเวทีปราศรัยหาเสียง จ.นครราชสีมา โดยนำสถาบันฯมาเกี่ยวข้องกับการหาเสียงเลือกตั้ง ว่า เข้าข่ายฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งหรือไม่ ว่า ตนไม่กังวล เพราะเป็นการกล่าวถึงสิ่งดีๆ ของสถาบันพระมหากษัตริย์ในอดีต โดยเฉพาะรัชกาลที่ 9 เป็นการนำกระแสพระราชดำรัสของพระองค์มาพูดให้ประชาชนฟัง ไม่ได้มีจิตอกุศล หรือต้องการโหนสถาบันฯแต่อย่างใด
“ผมเอาคำพูดที่เป็นสิ่งดีๆ ของในหลวงที่ผ่านมาแล้ว ไม่ใช่องค์ปัจจุบันมาพูดเพื่อเตือนสติให้ประชาชน แล้วจะเอาผมไปใส่คุก ผมก็ยินดี คุณจะทำอะไรกับผมก็ได้ ผมตั้งใจที่จะทำดีให้กับประเทศชาติ แต่ถ้าไม่ให้ทำก็บอกมา แต่ใช่ว่าผมจะยอมนะ จะขอทำสงครามต่อ”
นายไตรรงค์ กล่าวต่อว่า ตนไม่สนใจว่าสิ่งที่พูดไปแล้วจะเป็นอย่างไร เพราะยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งออกมา เชิญไปฟ้องได้เลย แต่ตนสนใจว่าหลังจากนายกรัฐมนตรีประกาศยุบสภาแล้ว เราต้องระวังกฎเกณฑ์ต่างๆ ดังนั้น ตนต้องการให้ กกต.ออกมาระบุให้ชัดเจนว่า หลังจากยุบสภาและมีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งแล้ว นักการเมืองขึ้นไปปราศรัยบนเวทีสามารถพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ มีขอบเขตแค่ไหน หรือห้ามพูดเลยตั้งแต่คำว่าสถาบันพระมหากษัตริย์ ตั้งแต่สมัยรามคำแหงมหาราช จนถึงรัชกาลที่ 10 เพราะการเมืองในประเทศอังกฤษ ก็มีข้อห้ามไม่ให้นักการเมืองกล่าวอ้างถึงสถาบันกษัตริย์ในปัจจุบัน แต่สามารถพูดถึงในอดีตได้ ซึ่งเมื่อเราเขียนรัฐธรรมนูญโดยใช้อังกฤษเป็นแม่แบบ ก็ควรจะกระทำได้เช่นกัน
“ผมยืนยันว่า สิ่งที่กล่าวนั้นไม่ผิดกฎหมาย หรือพูดผิดพลาด ผมเคยพูดบนเวทีปราศรัยที่ชุมพรมาแล้ว และพูดมากกว่าที่โคราช และยังเป็นการพูดก่อนที่จะมีการเลือกตั้งเพียง 2 วันด้วยซ้ำ ไม่เห็นมีปัญหาอะไร”
ทั้งนี้ นายไตรรงค์ ยังเรียกร้องให้ กกต.ตรวจสอบกรณีที่พรรคการเมืองบางพรรคประกาศเป็นนโยบายหาเสียงจะยกเลิกมาตรา 112 ว่าผิดกฎหมายหรือไม่ เพราะหมายถึงสถาบันกษัตริย์องค์ปัจจุบันอย่างชัดเจน มีการอนุญาตให้ขึ้นป้ายหาเสียงได้อย่างไร เพราะเท่ากับด้อยค่าสถาบันพระมหากษัตริย์