พรรคพลัง ตั้งสาขาภาคกลาง ลำดับที่ 3 “ทนายสมยศ” นั่งหัวหน้าสาขาภาคกลาง เตรียมประชุมใหญ่สามัญ พร้อมเปิดตัวประธานยุทธศาสตร์และผู้สมัคร ส.ส.ทั่วประเทศ
วันนี้ (27 ก.พ.) นายวิสิทธิ์ ใสกระจ่าง โฆษกพรรคพลัง เปิดเผยว่า ภายหลัง กกต.จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 10 ต.ค. 2565 ที่ผ่านมา แม้ในระบบบัตร 2 ใบ สูตรหาร 100 แต่พรรคพลังยังเดินหน้าเต็มที่ในการจัดตั้งสาขาภาค สาขาจังหวัด พร้อมส่งผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. และมีการรณรงค์หาเสียง และติดป้ายหาเสียงในกรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะการตั้งสาขาภาคเหนือ จังหวัดพิษณุโลก สาขาภาคอีสาน จังหวัดศรีสะเกษ สาขาภาคกลาง ที่จังหวัดชลบุรี และสาขาภาคใต้
นายวิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า สำหรับการจัดตั้งสาขาภาคใต้ ในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง อยู่ระหว่างรวบรวมสมาชิกตามเงื่อนไขของ พ.ร.ป. พรรคการเมือง ภายในสัปดาห์นี้ จะครบ 4 สาขา ตามหลักเกณฑ์ของ กกต.และจะมีการประชุมใหญ่สามัญก่อนที่จะมีการยุบสภาเร็วๆ นี้
อย่างไรก็ตาม พรรคพลังถือเป็นการเมืองใหม่ที่มีชื่อจดจำง่าย โดยมีความเป็นกลางทุกฝ่าย ภายใต้ระบอบประชาธิปไตย มีการดึงผู้มีชื่อเสียงทางการเมือง ลงสนามสู้ศึกเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม 2566 ซึ่งยังพอมีเวลาที่จะดึงนักการเมืองต่างค่ายมาสังกัดก่อนวันที่ 7 เมษายน 2566
ทั้งนี้ พรรคพลัง ได้จัดตั้งสาขาภาคกลาง เป็นลำดับที่ 3 ในวันอาทิตย์ ที่ 26 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 10.00 น.ที่ตำบลนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จังหวัดชลบุรี โดย กก.บห.พรรคพลัง และสมาชิกพรรคพลัง ได้เข้าร่วมประชุมอย่างคับคั่ง โดยคัดเลือกตัวแทนหัวหน้าสาขาภาคและกรรมการสาขา โดยมีตัวแทน กกต.จังหวัดชลบุรี เข้ามาตรวจสอบความเรียบร้อยและสังเกตการณ์ในการเลือกตั้งตัวแทนสาขา ผลการเลือกตั้งสาขาภาคกลาง จำนวน 9 คน ได้แก่ ) นายสมยศ นานาประเสริฐ (ทนายความ) หัวหน้าสาขาภาคกลาง 2) นายประดิษฐ์ สมพล (ตัวแทนสายแรงงาน สหภาพไดกิ้น) รองหัวหน้าสาขาภาคกลาง 3) นายศิริยศ เรียนใหม่รุ่งเจริญ เลขานุการสาขา 4) นางสุภาวดี เครือแก้ว เหรัญญิกสาขา 5) นายชิษณุพงศ์ ลิ้มเจริญ นายทะเบียนสาขา 6) นายณัฐพล ภิญโญสิริพันธ์ กรรมการสาขา 7) นายปิยะรัตน์ นกขุนทอง กรรมการสาขา 8) นายเอกรินทร์ โลมาทอง กรรมการสาขา และ 9) นายกิตติกวัน สุคนธ์ทิพย์ ผู้ช่วยเลขานุการ
โฆษกพรรคพลัง กล่าวย้ำว่า พรรคพลัง ได้เชิญ “ดร.ณัฎฐ์” ดร.ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม ปรมาจารย์กฎหมายมหาชนและผู้เชี่ยวชาญรัฐธรรมนูญ ที่มีประสบการณ์ทางการเมืองสูง ผ่านการทำงานผู้บริหารระดับสูงในภาคเอกชนและภาครัฐ มีคอนเนกชันกับฝ่ายการเมืองทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้าน อีกทั้งยังมีความเป็นกลาง เชื่อมได้ทุกฝ่าย จะเข้ามานั่งในตำแหน่งสำคัญ ซึ่งจะเปิดตัวในการประชุมใหญ่สามัญเร็วๆ นี้ โดยเข้ามาเสริมทีมกฎหมาย และออกนโยบายต่างๆ ที่จะเปิดตัวทั่วประเทศโดยเฉพาะนโยบายแก้ปัญหาปากท้อง “เศรษฐกิจฐานราก” เพื่อครองใจประชาชนชนชั้นกลาง และชนชั้นรากหญ้า และแรงงาน ที่ใช้สำหรับหาเสียงการเลือกตั้งที่จะถึงนี้