สภาปลดล็อก! แก้ พ.ร.ก.ประมง ยึดร่าง “หมอชลน่าน” ด้าน “ก้าวไกล” ข้องใจรัฐบาลเลื่อนใช้ กม.อุ้มหาย “สมศักดิ์” ยันไม่มีเจตนาถ่วง กม. ย้ำ สตช.ส่งรายงานมายังไม่พร้อม ไม่รู้ทันปิดสมัยประชุมหรือไม่
วันนี้ (23 ก.พ.) ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่สอง ทำหน้าที่ประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.ก.การประมง พ.ศ. 2558 จำนวน 7 ฉบับ ตามที่หลายพรรคการเมืองเสนอมา ซึ่งตกค้างการลงมติวาระรับหลักการจากการประชุมสัปดาห์ที่แล้ว เนื่องจากเกิดเหตุสภาล่ม โดยการพิจารณาในครั้งนี้ มีกลุ่มชาวประมงมาติดตามการพิจารณาร่างกฎหมายดังกลาวในห้องประชุมสภาด้วย โดยที่ประชุมลงมติให้ความเห็นชอบวาระรับหลักการร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวด้วยคะแนน 297 ต่อ 0 และตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ 25 คน มาพิจารณาต่อไป
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สภาให้ความเห็นชอบแล้ว ปรากฏว่า ที่ประชุมได้ถกเถียงกัน จะยึดร่าง พ.ร.บ.ฉบับใดเป็นร่างหลักพิจารณาในชั้น กมธ. ระหว่างร่างของ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กับร่างของ นางกันตวรรณ ตันเสถียร ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ ฝ่ายพรรคเพื่อไทย อ้างว่า ร่างฉบับ นพ.ชลน่าน มีเนื้อหาครอบคลุมการแก้ปัญหาให้ชาวประมงทุกด้านมากกว่าฉบับของนางกันตวรรณ
ขณะที่ นางกันตวรรณ ชี้แจงว่า ร่างฉบับของตนมาจาก กมธ.เกษตรและสหกรณ์ ที่มีตัวแทนทุกพรรคการเมือง และภาคประชาชนร่วมพิจารณามาอย่างรอบคอบ ทั้งสองฝ่ายถกเถียงกันอยู่นานก่อนที่ประชุมสภา จะลงมติให้ความเห็นชอบ ใช่ร่างพ.ร.บ.ฉบับของ นพ,ชลน่าน เป็นร่างหลักในชั้น กมธ.
ต่อมาเข้าสู่วาระกระทู้ถามสด โดย นายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ตั้งกระทู้ถามสด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และ รมว.กลาโหม กรณี ครม.ออก พ.ร.ก แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย เพื่อเลื่อนการบังคับใช้ พ.ร.บ.ที่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 22 ก.พ. 2566 เป็นวันที่ 1 ต.ค. 2566 ทั้งที่ไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนในการออก พ.ร.ก. โดยอ้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ ขอให้เลื่อนไปก่อน อยากทราบอะไรคือเหตุผลแท้จริงการเลื่อนบังคับใช้ เพราะ พล.ต.ท.สุรเชษฐ หักพาล รอง ผบ.ตร.บอกมีความพร้อมบังคับใช้กฎหมาย แต่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.บอกไม่พร้อม ข้ออ้างไม่มีความพร้อมด้านอุปกรณ์ อาทิ กล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ตำรวจ กล้องบันทึกในห้องสอบสวน กล้องติดรถยนต์ แต่รายงานปฏิรูปตำรวจที่ส่งมายังสภาผู้แทนราษฎร ระบุว่า สตช.มีความพร้อมดำเนินการหมดแล้ว ไม่รู้ว่าใครโกหก รัฐบาลไม่เต็มใจออกกฎหมายฉบับนี้หรือไม่ ช่วงที่กฎหมายถูกเลื่อนบังคับใช้ จะมีอะไรเป็นหลักประกัน ประชาชนจะไม่ถูกซ้อมทรมานหรืออุ้มหาย
นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม เป็นผู้ชี้แจงแทนนายกรัฐมนตรี ว่า สาเหตุการเลื่อนใช้ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าว เนื่องจาก สตช.ยังไม่พร้อมในการบังคับใช้กฎหมาย ใน 4 มาตรา เกี่ยวกับความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ เช่น กล้องติดตัวเจ้าหน้าที่ กล้องบันทึกภาพในห้องสอบสวน กล้องติดรถยนต์ จึงขอเลื่อนแค่ 7 เดือน ถ้าบังคับใช้กฎหมายโดยไม่มีความพร้อมจะกระทบต่อการจัดเก็บข้อมูล การบันทึกปากคำอาจไม่บรรลุวัตถุประสงค์ในการป้องกันปราบปรามการกระทำความผิด ส่งผลต่อความปลอดภัยของสาธารณะ เจ้าหน้าที่รัฐก็เสี่ยงถูกดำเนินคดีอาญาด้วย การอ้างรายงานต่างๆ ว่า สตช.มีความพร้อมเรื่องอุปกรณ์ต่างๆ แล้ว แต่รายงานที่ส่งมายังกระทรวงยุติธรรม แจ้งว่า ยังไม่มีความพร้อม การเลื่อน 7 เดือนน้อยมาก
“ขณะนี้ทราบว่า สตช.ได้อนุมัติงบประมาณการจัดซื้ออุปกรณ์กล้องต่างๆ ที่ยังไม่พร้อมเรียบร้อยแล้ว ยืนยันไม่มีการดึงดันกฎหมาย ส่วนการส่ง พ.ร.ก.แก้ไขเพิ่มเติม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย มาให้สภาพิจารณาให้ความเห็นชอบนั้น ทราบว่า กำลังเร่งส่งมาให้อยู่ แต่รับรองไม่ได้ว่า เมื่อส่งมาแล้ว จะมีการเปิดประชุมสภาให้ความเห็นชอบ พ.ร.ก.ฉบับนี้ทันก่อนปิดสมัยประชุมหรือไม่” นายสมศักดิ์ กล่าว