ข่าวปนคน คนปนข่าว
**"ชูวิทย์" ร้อนแรงเปล่งแสง กล้า-ท้า-แฉ "ตัวช่วย" ลุงตู่ มาถูกที่ถูกเวลา?
ชั่วโมงนี้ทอดตาไปทั่วแผ่นดินโซเชียลฯ ไม่มีใครจะร้อนแรงไปกว่า "เฮียชู" ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ที่สวมบท"ฮีโร่" ผู้กล้า ท้า แฉ ...
จากทุนจีนสีเทา แฉบ่อนพนันออนไลน์ ออกหน้าสู้ตำรวจรีดทรัพย์ชาวต่างชาติ เปิดโปง "อ่างทดลองใช้" ที่ต้องบอกว่า ลีลาท่วงท่า และข้อมูลที่พรั่งพรูออกจาก “เฮียชู” ทำเอา "ธุรกิจสีเทา" และบรรดา"นายพล" สีกากีที่อยู่เบื้องหลัง พังพาบไปตามๆกัน
ยิ่งมา เครคิตและแสงที่เปล่งปลั่งของ “เฮียชู” ยิ่งเจิดจ้า เจ้าตัวจึงยกระดับ จะดับวงจร "ทุจริตคอร์รัปชัน" ในวงราชการด้วยการประกาศบุกทำเนียบรัฐบาล ปฏิบัติการ "แฉ" ข้างๆ รั้วทำเนียบฯให้ได้ยินไปถึงหู “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม
โหมโรมประกาศไว้ก่อนล่วงหน้าหนึ่งวัน ว่าจะเปิดโปงการทุจริต คอร์รัปชันของเจ้าหน้าที่รัฐในหลายกระทรวง กว่าหมื่นล้านบาท!!
ปรากฏว่า สื่อมารอทำช่าวมืดฟ้ามัวดิน เป็นที่ประจักษ์ว่า “ชูวิทย์”นั้น"จี๊ด" จริง ไม่อิงมโน
ข่าวว่า “เฮียชู” เดินถือธงชาติ กวัดแกว่งพร้อมกับแสดงจุดยืนของตัวเอง เป็นแค่ประชาชนคนหนึ่งที่รักชาติ รักความถูกต้อง เมื่อในระบบแก้ปัญหา "โกงบ้านโกงเมือง" ไม่ได้ ก็ต้องเล่นนอกระบบ พร้อมๆ กับปลุกเร้าให้ประชาชนต้องไม่ยอมจำนน ต้องสู้ในรูปแบบทั้ง "ใต้ดิน" และ"บนดิน" เหมือนที่ตัวเองทำให้ดู
พร้อมเปิดโต๊ะโหราศาสตร์ ทำนายดวงการเมืองของประเทศว่า “ทุกวันนี้บ้านเมืองเกิดทุจริต คอร์รัปชัน มีชะตาดับ ชะตาตก ชะตาถึงฆาต และชะตาพัง แต่จะไม่เอ่ยถึงพรรค ว่าพรรคไหนถึงฆาต และพรรคไหนชะตาดับ และพรรคไหนชะตาพัง"
ภาพเอาจริงเอาจัง ขึงขังของ “ชูวิทย์” ข้างๆทำเนียบฯ น่าจะไปเข้าตา “ลุงตู่” หรืออย่างไรไม่ทราบ โดยก่อนหน้า “เฮียชู” ได้ต่อโทรศัพท์หา “ลุงตู่” แต่ไม่มีผู้ตอบรับ ต่อมามี"เสธ.หิ" หิมาลัย ผิวพรรณ คนทำงานใกล้ชิดนายกฯ ผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้ออกมาเชิญ “ชูวิทย์” ให้เข้าทำเนียบฯไป
พลันนั้นผู้สื่อข่าวก็ถาม “เฮียชู” ถึงการมาครั้งนี้ เท่ากับมาช่วยเพิ่มเสียงให้ “ลุงตู่” ที่ก็รู้ๆกันว่าจะเผื่อแผ่ไปถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ ด้วยหรือไม่
เพราะมองมุม "การเมือง" ช่วงใกล้เลือกตั้ง จังหวะนี้ย่อมมีได้มีเสีย ซึ่งเจ้าตัวยืนยันมาในฐานะคนธรรมดา "นายกฯของผม" ลุงตู่ เคยบอกมีอะไรก็ให้มาหาได้ ไม่ได้สังกัดพรรคการเมือง แต่ก็ยอมรับเรื่องที่จะนำมาให้นายกฯ รับทราบนั้นจะ "ช่วยเพิ่มเสียง" ให้ได้ ถ้านายกฯลุงตู่ จัดการได้ โดยเฉพาะ ปัญหาทุจริต คอร์รัปชัน
เรียกว่า "ชงหวาน"ให้ลุงเต็มที่!!
หลังจากนั้น “ชูวิทย์” กลับออกมาให้สัมภาษณ์ว่า ได้พูดคุยกับ “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” เลขาธิการนายกฯ และหัวหน้าพรรค รทสช.
ซึ่งได้ต่อสายคุยกับนายกฯเรียบร้อยซึ่งว่า มีข้อสรุปและข้อเสนอที่จะ"ทลายคอร์รัปชั่น" ให้ได้
นี่ต้องชื่นชม และให้กำลังใจ “เฮียชู” ที่ต่อสู้เป็นปากเป็นเสียงให้สังคม แต่การเคลื่อนไหวของผู้กล้า ท้า แฉ ก็ต้องยอมรับครั้งนี้ถูกมองเป็นเรื่องการเมืองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
แถมบางเรื่อง รีบร้อน ร้อนรน จนข้อมูลผิดเพี้ยน เฮียอาจจะถูกเข้าใจผิดว่า "รับงาน" มาเดี๋ยวจะว่าไม่เตือนกัน
แม้ “เฮียชู” จะย้ำว่า ทั้งหมดเหล่านี้อยากมาหารือ เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับสังคม คิดว่านายกฯเป็นคนสุจริต กระทำการเรื่องนี้ให้ชัดเจนโปร่งใส ในอนาคตอยากจะเป็นผู้นำต่ออีก 2 ปี ก็ต้องจัดการปัญหาให้สังคม และยืนยันว่าตัวเองจะทลายการคอร์รัปชัน และขออย่านำตนไปผูกกับเบื้องหลัง ว่ามีเบื้องหน้า เบื้องหลัง อะไร
สรุปว่า งานนี้ “เฮียชู” ขอส่งต่อบทให้ “ลุงตู่” เป็น “ฮีโร่มือปราบคอร์รัปชัน” ทลายบ่อน ล้มกระบวนการงาบส่วยในวงราชการต่อ ว่ากันอย่างนั้น
แต่..คำถามที่ต้องย้อนมากล่าว “เฮียชู” จะลืมไปหรือไม่ว่า ทั้งการทุจริต คอร์รัปชัน งาบส่วย ทุนสีเทา บ่อนพนันออนไลน์เฟื่องฟู ตำรวจเป็นนายบ่อนเอง ในยุคสมัยลุงก็นั่งอยู่หัวโต๊ะ ทั้งนายกฯและประธาน ก.ตร.มิใช่หรือ ?
8ปี เวลานานโขทำอะไรอยู่? หากจะทำ จะปราบกันต้องทำไปนานแล้ว ไม่ใช่ปล่อยให้ "ฝีแตก" ประจานตัวเองมาแบบนี้ กับเวลาที่ “เฮียชู” ชงให้ เหลือเวลาอีกไม่กี่วันจะเลือกตั้งกันแล้วตามที่ “ลุงตู่” ประกาศจะยุบสภาก่อนหมดวาระ ลุงจะทำได้หรือ ? นอกจากรับลูกชูวิทย์ไป "หาเสียง"เท่านั้น
แบบนี้ “เฮียชู” จะเป็น"ตัวช่วย" หาเสียงที่มาถูกที่ ถูกเวลา ของ “ลุงตู่” อ๊ะป่าว ยังสงสัย...ส่วนจะพาปัง หรือ พัง เดี๋ยวก็รู้ นะจ๊ะ
** ปชป.ขุดกรุ เข็น 3 หัวหน้าพรรค ร่วมกอบกู้วิกฤต
น่าใจหาย!! แต่ก็ต้องยอมรับกันว่า พรรคการเมืองเก่าแก่ ระดับสถาบันการเมือง อย่าง “ประชาธิปัตย์”ในยุคที่ “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” นั่งแท่นหัวหน้าพรรค และมี “เสี่ยต่อ” เฉลิมชัย ศรีอ่อน เป็นเลขาธิการพรรค กำลังอยู่ในช่วงตกต่ำสุดๆ หลังจากมีปัญหาภายในจน “เลือดไหลโกรก” ซึ่งเป็นอาการข้างเคียง ต่อเนื่องมาจากศึกชิงหัวหน้าพรรค
ยิ่งมาเจอสถานการณ์การเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึงในครั้งนี้ ที่หลายพรรคแข่งขันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย ทั้ง “ติดเครื่องดูด” ทั้ง “ตกปลาในบ่อเพื่อน” กันแบบซึ่งๆหน้า รวมทั้งปลาในบ่อเองก็ดิ้นรนกระเสือกกระสนหนีตาย ภาพของประชาธิปัตย์ในยามนี้ จึงพูดได้ว่าวิกฤตหนัก!!
ตรวจแถว สำรวจพื้นที่แล้ว ทั้งภาคอีสาน และภาคเหนือ เที่ยวนี้เสี่ยงสูญพันธุ์... ส่วนภาคกลางและภาคตะวันออก ที่อยู่ในความดูแลของ “หมอตี๋” สาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และรองหัวหน้าพรรค บ้านใหญ่เมืองระยองฮิ แม้จะออกมายืนยันแล้วว่า ไม่หนีไปไหน ขอยืนหยัดสู้ แต่ดูแล้วก็ยังลูกผีลูกคน
เช่นเดียวกับสนามกรุงเทพฯ ถึงจะมีคนรุ่นใหม่อย่าง “ดร.เอ้” สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯกทม. และ “มาดามเดียร์” วทันยา บุนนาค อดีต ส.ส.ที่ย้ายมาจากพรรคลุงป้อม ร่วมผนึกกำลังกับ “องอาจ คล้ามไพบูลย์” รองหัวหน้าพรรค ที่เป็นมือเก่าในสนามนี้ แต่กระแสก็ยังไม่ปัง!!
ความหวังจึงอยู่ที่ภาคใต้ 58 เขต ซึ่งอยู่ในความดูแลของ 3 แม่ทัพใหญ่ “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค “นิพนธ์ บุญญามณี” รองหัวหน้าพรรค และ “เดชอิศม์ ขาวทอง” รองหัวหน้าพรรค ว่าจะต้านการรุกรานจากสารพัดพรรคการเมือง ที่มุงมาปักธง ชิงพื้นที่ได้หรือไม่
ชะตากรรมของพรรคในยามนี้ “หมอตี๋ สาธิต” พูดแบบไม่มีเหนียมว่า... ประชาธิปัตย์ไม่ได้เป็นที่นิยมเหมือนเมื่อก่อนแล้ว เราจึงจะต้องทำงานกันเป็นทีม ร่วมกันกอบกู้ สร้างศรัทธาให้กลับมา และมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้นำพรรค จะต้องไปพูดคุยกับ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตหัวหน้าพรรค และอดีตนายกรัฐมนตรี ให้กลับมาช่วยประชาธิปัตย์หาเสียง
และดูเหมือน “จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์” หัวหน้าพรรคจะออกมารับลูกแล้ว โดยบอกว่าจะเชิญ 3 อดีตหัวหน้าพรรค คือ “ชวน หลีกภัย” ประธานรัฐสภา “บัญญัติ บรรทัดฐาน” ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค และ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ” อดีตนายกรัฐมนตรี มาลงสมัครรับเลือกตั้ง เป็นส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อ และจะเชิญให้เข้าร่วมรณรงค์หาเสียงให้กับพรรคด้วย
เชื่อว่า 2 อดีตหัวหน้าพรรค “ชวน-บัญญัติ” ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของพรรคนั้นคงไม่มีปัญหา แต่ “อภิสิทธิ์” จะโอเค หรือไม่ยังต้องลุ้น และหาก “อภิสิทธิ์”ยอมกลับมา ก็ยังต้องลุ้นกันต่อไปว่า จะเรียกศรัทธา สร้างกระแสที่กรุงเทพฯได้หรือไม่
ต้องไม่ลืมว่า เลือกตั้งครั้งที่แล้ว “อภิสิทธิ์” ประกาศชัด “ไม่เอาลุงตู่เป็นนายกฯ” ผลคือประชาธิปัตย์ถึงกับสูญพันธุ์ ในสนามกรุงเทพฯ
ครั้งนี้ แม้กระแส “ลุงตู่” จะไม่ได้มาแรงเหมือนครั้งที่แล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคนกรุง จะหวนกลับหา “อภิสิทธิ์” เพราะมีหลายพรรคที่มุ่งมาปักธงเช่นกัน อย่างพรรคภูมิใจไทย ของ “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.สาธารณสุข พรรคพลังประชารัฐ ของ “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พรรคไทยสร้างไทย ของ “เจ๊หน่อย”คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ...
ที่สำคัญคือผลโพลหลายสำนักยังชี้ไปที่ พรรคเพื่อไทย และ พรรคก้าวไกล ที่ยังมีคะแนนนิยมนำอยู่
แผนขุดกรุ เข็น 3 อดีตหัวหน้าพรรค มาเรียกเรตติ้ง กอบกู้ประชาธิปัตย์ครั้งนี้จะเป็นไปตามฝันหรือไม่ ติ่งสีฟ้าต้องรอลุ้น