xs
xsm
sm
md
lg

กูว่าแว้ววว...ส.ว.สอบ ส.ว.= มวยล้มต้มคนดู ปม “เจ้นุชขาโหด” ผลสรุปที่ได้ “เป็นความลับ”!! **“ลุงตู่” สายมู ไปเมืองคอน ไหว้พรานบุญ บนไอ้ไข่ อยากรู้ว่าขออะไร ต้องรอหลังเลือกตั้ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ข่าวปนคน คนปนข่าว

** กูว่าแว้ววว...ส.ว.สอบ ส.ว.= มวยล้มต้มคนดู ปม “เจ้นุชขาโหด” ผลสรุปที่ได้ “เป็นความลับ”!!

ยุคหน้ากากคนดีย์ นอกจากจะมี “ส.ว.ทรงเอ” แล้วยังมี “ส.ว.จุดจุดจุด”

ปมประเด็น “เจ้นุช” ขาโหด กับเรื่องราวฉาวโฉ่ “สิบตำรวจโท” ที่ใหญ่เกินเบอร์ โดยมี ส.ว.ผู้ทรงเกียรติ ยืนเป็นแบ็กอยู่ด้านหลัง แถมให้ตำแหน่งในคณะกรรมาธิการวุฒิสภา หายเงียบไปนานจากหน้าสื่อ จนผู้คนในสังคมเกือบจะลืม

ล่าสุด มีความคืบหน้ามาบอกเล่า โดย “สมชาย แสวงการ” ส.ว.ในฐานะโฆษกคณะกรรมการจริยธรรม วุฒิสภา ได้กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบข้อร้องเรียนของ “วัชระ เพชรทอง” อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กรณีการแต่งตั้ง “ส.ต.ท.หญิง กรศศิร์ บัวแย้ม” เข้ารับราชการ และการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งใน กมธ.วุฒิสภา โดยมี “ธานี อ่อนละเอียด” ส.ว. เกี่ยวข้องด้วย ว่า กมธ. ได้ตรวจสอบเสร็จสิ้นไปนานแล้ว และได้สรุปรายงานส่งต่อ “พรเพชร วิชิตชลชัย” ประธานวุฒิสภา เพื่อนำเข้าสู่ที่ประชุมวุฒิสภาพิจารณาต่อไป

แต่... ผลการตรวจสอบของคณะ กมธ.สรุปว่าอย่างไร ไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะตามข้อบังคับแล้วถือเป็น “ความลับ” ขึ้นอยู่กับที่ประชุมวุฒิสภา จะพิจารณา

แปลไทยเป็นไทย ว่า ผลสอบจะถูกเก็บเป็นความลับ ใส่ไว้ในลิ้นชักอย่างดี สาธุชนทั้งหลายไม่มีโอกาสได้รับรู้ นอกจากส.ว.พวกเดียวกันเท่านั้น

เท่านั้นยังไม่พอ หะแรกตอนที่เป็นคดีดัง ผู้คนในสังคมให้ความสนใจ เพราะ “เจ้นุช” เส้นใหญ่ ทำร้ายร่างกายผู้อื่นอย่างทารุณ แล้วยังอวดเบ่งบารมี ส.ว.นั้น คณะ กมธ.วุฒิสภา รีบออกมาบอก ต้องเร่งทำความจริงให้ปรากฏ ไม่มีปกป้องพวกพ้อง ผิดต้องว่าไปตามผิด

สมชาย แสวงการ
ที่ไหนได้ ฟังว่าผลสอบนี้จะถูกหยิบขึ้นมาพิจารณาในวุฒิสภาหรือไม่ ก็ยังไม่รู้ เพราะเหลือวันประชุมวุฒิสภานัดสุดท้าย คือ วันนี้ (21 ก.พ.) ก่อนที่จะรัฐสภาจะครบวาระในวันที่ 28 ก.พ.นี้

นี่เรียกว่า “ดึง” และ “ถ่วง” กันจนจวนเจียนครบวาระหรือไม่ ?

เพราะฉะนั้นก็เป็นไปได้สูงว่า เรื่องนี้ในที่สุดก็ “มวยล้มต้มคนดู” ที่ใครหลายคนแทงหวยไว้ไม่มีผิด!

งานนี้ ทั้งๆ ที่คดีเป็นที่สนใจของสังคม แต่พอ ส.ว.สอบ ส.ว.ก็อย่างที่รู้กัน มันออก “ทรงอย่างแบด” มาตั้งแต่แรกแล้ว

ย้อนกลับไปดูคำพูดเก่าๆ ตอนที่เริ่มปรากฏ เจ๊ขาโหด เป็นข่าวอื้อฉาวพัวพันกับ ส.ว.ก็จะเห็น “สมชาย” กล่าวยืนยันว่า ส.ว. มีเกียรติ ศักดิ์ศรี มีความหนักแน่น ตรวจสอบอย่างตรงไปตรงมา อะไรผิดก็ว่าไปตามผิด อะไรถูกก็ว่าไปตามถูก เพราะกรรมการจะต้องรับผิดชอบทางสังคม และคดีอาญา

ตอนนั้นฟังดูดี แต่ก็มีสะดุดใจคนฟังตรงที่ว่า เรื่องนี้อาจจะเป็นคนบางคนพยายามดึงให้เป็นเรื่องการเมือง เพื่อดิสเครดิตส.ว. ซึ่งคิดว่า กรรมการจะไม่เล่นตามนั้น และจะทำตามหน้าที่เต็มที่ แข่งกับเวลา ส่วนมติจะถูกผิดอย่างไร ทางกรรมการจะต้องรายงานเข้าที่ประชุมใหญ่วุฒิสภา เพื่อลงมติต่อไปโดยเราจะไม่เอนเอียงไปตามกระแสแน่นอน

สัญญาณขณะนั้นคล้ายๆ จะชี้นำให้เป็นเรื่อง “ด้อยค่า” ทำลายกันทางการเมือง เบี่ยงเบนประเด็นไปจากกระแสสังคม

ธานี อ่อนละเอียด
เมื่อ ส.ว. ตั้งกรรมการสอบกันเอง จึงมีข้อครหาแถมถ้าใครรู้ความเป็นมาของ “สมชาย” กับ “ธานี” ที่มีความสนิทกันมาตั้งแต่เป็น ส.ว. และ สนช. ร่วมคณะกันมาหลายยุค ก็จะอดคิดไม่ได้ว่า คดีนี้จะเป็น “มวยล้มต้มคนดู” ดังว่าแล้วก็มาคอนเฟิร์ม ความเชื่อจากความเคลื่อนไหวล่าสุดชนิดไม่หวั่น ไม่เกรง “คนจะนินทา หมาจะดูถูก”

งานนี้ทำให้หลายๆ คน อดไม่ได้ที่จะถอนหายใจยาวๆๆ ด้วยความเหนื่อยหน่าย...เฮ้อ! กูว่าแว้ววว...งามใจไทยแลนด์ของเรียมนี่เอ๋ย ของเรียมนี่เอย!!.

**“ลุงตู่” สายมู ไปเมืองคอน ไหว้พรานบุญ บนไอ้ไข่ อยากรู้ว่าขออะไร ต้องรอหลังเลือกตั้ง
เสร็จจากศึกอภิปรายทั่วไป แบบไม่ลงมติตามมาตรา 152 ซึ่ง “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และว่าที่แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี ของพรรครวมไทยสร้างชาติ โดนขึงพืดไปสองวันเต็ม

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา
วันวาน (20 ก.พ.) “ลุงตู่” ก็สวมหมวกนายกฯ ลงใต้ไปตรวจราชการที่ จ.นครศรีธรรมราช ถือโอกาสพบปะประชาชน “แหลงใต้” ถ่ายรูปกับแฟนคลับ หาคะแนนนิยม เรียกเรตติ้งแบบเนียนๆ ไปในตัว

ในหมายกำหนดการ นอกจากฟังรายงานจากหน่วยราชการ พบปะประชาชน โชว์ฝีมือผัดคั่วกลิ้ง เยี่ยมโรงพยาบาลให้กำลังใจ หมอ พยาบาล อ้อนเสียงหวานนะจ๊ะ แล้ว “สายมู” อย่างลุงตู่ ก็มีโปรแกรมไปไหว้ “พรานบุญ” ที่วัดยางใหญ่ และไปบนบาน “ไอ้ไข่” ที่วัดเจดีย์ด้วย

สำหรับ “ไอ้ไข่” วัดเจดีย์ ที่มีสโลแกนว่า “ขอให้ ไหว้รับ” นั้น คงไม่ต้องบรรยายสรรพคุณมาก สายมู สายขอหวย รู้จักกันทั่วประเทศ... ส่วน “พรานบุญ” ที่วัดยางใหญ่ นั้น คนในพื้นที่รู้จักกันดีในฐานะเครื่องรางของขลัง เด่นเรื่องเมตตา มหานิยม แคล้วคลาด ปลอดภัย แต่คนที่อื่นอาจยังไม่แจ้งว่า มีดีทางไหน อย่างไรกันบ้าง

“ชินวรณ์ บุณยเกียรติ” ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ พอรู้ข่าวว่า “ลุงตู่” จะไปขอพรจาก “พรานบุญ” ถึงกับออกมาเตือนดังๆ ออกสื่อว่าให้ระวัง “มนต์ดำ” จะเข้าตัว หากไม่มีเจ้าพิธี หรือทำพิธีไม่ถูกต้อง แทนที่จะโชคดีมีชัย อาจถึงขั้นวิบัติได้ แถมบอกว่าเคยเจอกับตัวเองมาแล้ว ต้องมาแก้อาถรรพ์ ที่วัดพระแก้ว วัดชนะสงคราม ถึงได้หลุดพ้นจากมนต์ดำ มาได้ !!

หน้ากากพรานบุญ
“พรานบุญ” หรือ “หน้ากากพรานบุญ” ที่ถือเป็นตัวตลกในวงมโนราห์ เป็นผู้ที่สร้างเสียงหัวเราะให้กับคนดู จากหน้ากาก และท่าที่ร่ายรำ จึงถือได้ว่าเป็นตัวละครที่โปรดปรานของคนทุกเพศ ทุกวัย โดยตัวหน้ากากจะแกะสลักจากไม้ จมูกงุ้มยื่นยาว ส่วนตาดำจะเจาะรูไว้ ใบหน้าจะเป็นสีแดง หรือสีทอง มีฟันสีขาวเลี่ยมทองด้านบน และประดับขนเป็ด เป็นผม

ตามตำนานที่เล่าขานกันมา “พรานบุญ” มีวิชาดี สามารถท่องเที่ยวในป่าหิมพานต์ได้ ครั้งหนึ่ง “พรานบุญ” ได้เคยช่วยชีวิต “ท้าวชมพูจิต” ให้รอดจากความตายเอาไว้ได้ ท้าวชมพูจิตจึงพาพรานบุญ ไปที่นาคพิภพ เป็นเวลา 7 วัน และมอบแก้ววิเศษให้ พร้อมให้คำสัญญาว่า หากวันข้างหน้าพรานบุญ ประสงค์สิ่งใดก็ให้มาหา ขออะไรก็จะให้เพื่อเป็นการตอบแทนที่ได้ช่วยชีวิตไว้

กาลต่อมา “พรานบุญ” ได้พบนางกินนรทั้งเจ็ด ผู้เป็นธิดาท้าวทุมราช และต้องการนำนางกินนร ไปถวายพระสุธนกุมาร จึงได้เดินทางไปขอยืม “นาคบาศ” จากท้าวชมพูจิต ซึ่งเป็นของวิเศษของพญานาค ที่จะสามารถจับนางกินนรได้ และสามารถจับ “นางมโนราห์” ซึ่งเป็นธิดาองค์เล็ก ไปถวายพระสุธน ได้สำเร็จ ซึ่งพระสุธนก็ได้ตอบแทนพรานบุญ โดยยกเมืองให้ครองหนึ่งเมือง พร้อมทรัพย์สมบัติ ข้าทาสบริวาร ผู้คนจึงนับถือในความสามารถของ “พรานบุญ” ว่าเข้มขลังยิ่งนัก และโดดเด่นในทางโชคลาภ และโภคทรัพย์

ชินวรณ์ บุณยเกียรติ
ครั้งหนึ่ง “พ่อท่านเขียว” วัดห้วยเงาะ จ.ปัตตานี ได้พูดถึงเรื่องพรานบุญ กับลูกศิษย์ ว่า ...ไม่มีการค้าใดหรือทำสิ่งได้จะได้ผลตอบแทนมากเท่า พรานบุญ เพราะแค่จับนางมโนราห์ได้เพียงนางเดียว เช้ารุ่งขึ้นก็ได้รับบำเหน็จจากกษัตริย์ ได้ครองเมือง 1 เมือง พร้อมทรัพย์สมบัติ และบริวารมากมาย...

จึงเป็นที่มาแห่งเครื่องรางของขลังของชาวใต้ ซึ่ง “หน้ากากพรานบุญ” ที่เข้มขลัง ยอดนิยมสุดต้องที่วัดยางใหญ่ เมืองคอน แต่มีข้อแม้ว่า ใครที่บูชาพรานบุญ ต้องมีสัจจะ ทำความดี ละเว้นความชั่ว ถึงจะทำมาค้าขายดี มีเมตตามหานิยม มีเสน่ห์ต่อคนรอบข้าง อีกทั้งยังช่วยปกป้องคุ้มครอง จากอันตราย และอาถรรพ์คุณไสยต่างๆ ด้วย

ส่วนของที่ใช้ไหว้บูชา บนบาน “พรานบุญ” ก็มี พวงมาลัย ธูป 9 ดอก เทียน 1 เล่ม หมากพลู ยาสูบ 1 ชุด ว่ากันว่า เวลาขอให้เจาะจงเป็นเรื่องๆ ไปเลย ว่าอยากได้อะไร จะได้ผลตอบรับที่ดี ถ้าขอแบบครอบจักรวาล หว่านแห ท่านว่าพรานบุญจำไม่ไหวเลยไม่ค่อยสำเร็จ... เมื่อได้ผลสมประสงค์ ก็มักจะมาแก้บนด้วย เหล้าขาว 1 ขวด กับผ้าขาวม้า 1 ผืน

คงต้องรอดูกันว่าในเร็วๆนี้ “ลุงตู่” จะได้หิ้วเหล้าขาวกับผ้าขาวม้า ไปแก้บนพรานบุญ ที่วัดยางใหญ่ หรือต้องไปแก้อาถรรพ์ ที่วัดพระแก้ว วัดชนะสงคราม ตามที่ ส.ส.เจ้าถิ่นได้เตือนไว้ !!


กำลังโหลดความคิดเห็น