ก้อมาดิครับ..."เฮียชู" ส่งสารถึง"สารวัตรซัว" อย่ามัวขู่ฟ้อง ท่องโลกมิสู้ท่อง คุกพลาซ่า **บ้านใหญ่คุณปลื้ม แยกกันไปคนละทาง “เสี่ยแป๊ะ” อยู่ขั้วทักษิณ“เสี่ยติ๊ก”ตามไปซบ “ลุงตู่”

ข่าวปนคน คนปนข่าว

**ก้อมาดิครับ..."เฮียชู" ส่งสารถึง"สารวัตรซัว" อย่ามัวขู่ฟ้อง ท่องโลกมิสู้ท่อง คุกพลาซ่า

ว่าด้วยคดีบ่อนพนันออนไลน์ที่สั่นสะท้านวงการสีกากี เพราะมีนายตำรวจเข้าไปพัวพันถึงขั้นว่ากันว่าบางคนเป็นระดับ “นายบ่อน” เสียเอง ทำมาหากินแบบเทาๆ จนร่ำรวยอู้ฟู่ กินหรูอยู่สบายมานาน กระทั่ง “เฮียชู” ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ออกมาเปิดโปงชี้เป้าเครือข่ายไซส์ L ที่ระบุชื่อ “สารวัตรซัว” เป็นเจ้าของ จนมีผลให้เจ้าตัวต้องกระเด็นออกจากราชการในเวลาต่อมา

กระนั้น “สารวัตรซัว” กลัวซะที่ไหน สองสามวันที่ผ่านมา โพสต์ภาพถ่ายตัวเองไปปรากฏตามสถานที่ต่างๆ ในต่างแดน ลงในสื่อโซเชียลฯ ตามด้วยข้อความถึงเหตุการณ์ที่เกิดกับตัวเอง ในเชิงเย้ยหยันคนแฉว่า... ขอบคุณที่ช่วยทำตลาดให้ฟรี! แล้วยังมีโพสต์ล่าสุดลงไอจี บอกว่า…


“ตอนนี้เหมือนทำอะไรก็ผิดไปหมด แค่ลงรูปก็ยังผิด คนเอาความหมายไปตีสื่อผิดๆ ถูกๆ ที่ผมเงียบไม่ค่อยตอบโต้ ไม่ใช่ว่าผมไม่สู้ เพียงแต่ว่า ผมก็ต้องใช้เวลาและกฎหมาย มาพิสูจน์ด้วยตัวผมเอง อย่าเพิ่งตัดสินผม เพราะฟังข่าวด้านเดียว อดทน อดใจรอกันหน่อย เมื่อพร้อมทุกอย่างแล้วจะแถลงชี้แจงทุกประเด็น และขอพื้นที่สื่อทุกสำนักด้วยครับ ถ้าไม่แก้ข่าวให้ผม ผมให้ทีมทนายเก็บข่าวไว้หมด ตั้งแต่ข่าวแรกจนถึงข่าวสุดท้าย ใครที่พาดพิง หรือนำเสนอข่าวในทางที่ผมเสียหายผมก็ต้องดำเนินการตามคดี และรักษาสิทธิ์”

งานนี้ “เฮียชู” ถึงกับแคปหน้าจอไอจีของ “สารวัตรซัว” เอามาโพสต์ฝากข้อความกลับไป เริ่มต้น “ด้วยความปรารถนาดี” ว่า เห็น “ซัว” ท่องเที่ยวรอบโลกอย่างมีความสุข คุณไม่ได้เพิ่งทำผิดหรอก จะต้องไปอดใจรอให้คุณเที่ยวเสร็จก่อนใช่ไหมครับ ท่านสารวัตรซัว ผู้ร่ำรวย?


หากสังเกตุดีๆ พวกใกล้ถึงจุดจบมักงัดเอามุก “ทีมทนายเก็บข้อมูล ขู่ฟ้อง”

พุทธโธ่! พอไม่มีทางไป คำก็ฟ้อง สองคำก็รักษาสิทธิ์ จะดำเนินคดีตามกฎหมาย

แต่เชื่อไหม ท้ายสุดจบไม่สวยสักราย ไม่ทันได้ฟ้องสื่อที่ไหน แต่คนขู่ดันเข้าคุกซะก่อน เพราะความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย

คนพยายามโกหก เส้นเงินมันพันกันระหว่างคุณกับลุค เรื่องพวกนี้โกหกกันไม่ได้ และเคลียร์ไม่ได้กับบิ๊กก้อง

รีบกลับมาไวๆ ไปท่องเที่ยวทั่วโลกที่ไหนก็สู้ “คุกพลาซ่า” แถวงามวงศ์วานไม่ได้ ที่นี่อเมซิ่งไทยแลนด์
หากไปรอบโลกมาแล้ว ขอเชิญแวะมาเที่ยวได้ ผมเคยอยู่มาแล้ว เอาสุภาษิต “อดีตคนคุก” อย่างผมไว้ใช้ “อยู่ให้เป็น เย็นให้พอ รอให้ได้” ใช้ได้หมดกับพวกทำพนันออนไลน์

ไงละ...พะยี่ห้อ “เฮียชู” กัดหนัก กัดติด คิดให้ดีๆนะครัชสารวัตร




**บ้านใหญ่คุณปลื้ม แยกกันไปคนละทาง “เสี่ยแป๊ะ” อยู่ขั้วทักษิณ“เสี่ยติ๊ก”ตามไปซบ “ลุงตู่”


นอกจากตัว“เสี่ยแป๊ะ”เองแล้ว ก็มีศรีภรรยา “สุกุมล คุณปลื้ม” อดีตส.ส.ชลบุรี และอดีต รมว.วัฒนธรรม รวมทั้งนักการเมืองท้องถิ่น อดีตข้าราชการคนดังอีกจำนวนหนึ่งร่วมขบวนไปด้วย

เลือกตั้งครั้งนี้ เมืองชลฯ มีส.ส.เขตได้ 10 คน “เสี่ยแป๊ะ”ประกาศเหมาหมดทั้ง10 เขต ไม่เหลือให้คู่แข่งอย่าง “บ้านใหม่” ของ “เสี่ยเฮ้ง”สุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ที่ไปอยู่กับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ

วันนั้น “เสี่ยติ๊ก” อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม น้องชายเสี่ยแป๊ะ ไม่ได้ไปด้วย แต่ “เสี่ยแป๊ะ”ก็ยืนยันว่าถึงเวลาแล้วจะตามมา เพราะตอนนี้ยังทำงานร่วมกับรัฐบาลปัจจุบันอยู่ พร้อมกับบอกว่า คนในบ้านคุยกันตลอด ความเห็นของพี่น้องทุกคน มีมติร่วมกันว่าไปไหนเราจะไปด้วยกัน

“เขารู้ถูก รู้ควร ในการทำงาน” เสี่ยแป๊ะ ว่าไว้เหมือนรู้อยู่แก่ใจว่าไปไหนไปกันนั้นไม่เต็มร้อย!!


แล้ววันนี้ก็มีข่าวว่า “เสี่ยติ๊ก” อิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม ได้กลายเป็นอดีตกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) โดยลาออกจากสมาชิกพรรคตั้งแต่วันที่ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา แล้วตัดสินใจและรับปากจะไปช่วยงาน “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ...ไม่ได้ตาม“เสี่ยแป๊ะ” พี่ชายไปร่วมกับพรรคเพื่อไทย

ตอนนี้ก็เหลือเพียงแค่ไปเซ็นชื่อ เป็นสมาชิกพรรค รสทช. เท่านั้น และคาดว่าพรรคจะจัดให้อยู่ในบัญชีรายชื่อลำดับต้นๆ แทนลงสมัคร ส.ส.เขต

การที่ “เสี่ยแป๊ะ”กับ“เสี่ยติ๊ก”แยกกันไปอยู่คนละฝ่าย คนละขั้วอย่างนี้ มองเผินๆ อาจถูกนำไปเทียบกับ “กลุ่มสามมิตร” ที่ต้องแยกกันไปโต แยกกันไปไขว่คว้า หาเก้าอี้รัฐมนตรี เหมือนที่ “สมศักดิ์ เทพสุทิน-สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ” ยังอยู่กับ “ลุงป้อม” ที่พรรคพลังประชารัฐ แต่ “อนุชา นาคาศัย” ไปอยู่กับ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่พรรค รทสช.

แต่เบื้องลึก วงในรู้กันว่า พี่น้องคู่นี้เริ่มไม่ลงรอยกัน เพราะเก้าอี้รัฐมนตรีเป็นเหตุ หรือจะบอกว่า “อำนาจ” ไม่เข้าใคร ออกใคร ก็ว่าได้ ... โดยว่ากันว่าในช่วงท้ายรัฐบาล “ลุงตู่” ที่พอมีกระแสข่าวปรับรัฐมนตรีครั้งใด “เสี่ยแป๊ะ” ก็จะเสนอให้เปลี่ยนตัว รมว.วัฒนธรรม จาก “เสี่ยติ๊ก” น้องชาย มาเป็น “สุกุมล คุณปลื้ม” ภรรยาของตนเอง แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่สำเร็จ


อีกทั้งในช่วงที่ “เสี่ยเฮ้ง” สุชาติ ชมกลิ่น ได้รับการโปรโมตเป็นผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ มีอำนาจ สิทธิขาดในการจัดวางตัวผู้สมัครส.ส.ในพื้นที่ จ.ชลบุรี และภาคตะวันออก ก็ได้เว้นที่ ส.ส.เขตให้ “อิทธิพล คุณปลื้ม” ได้มีที่ยืน หรือจะอยู่ในบัญชีรายชื่อก็ได้ ... แต่ไม่มีพื้นที่ให้ “สนธยา คุณปลื้ม”และภรรยา รวมทั้งเครือข่ายลูกทีม จนทำให้ “เสี่ยแป๊ะ-เสี่ยเฮ้ง” ถึงกับมีวิวาทะออกสื่อกันมาแล้ว

เมื่อ “เสี่ยแป๊ะ” ไปประกาศตัวร่วมทีมแลนด์สไลด์กับพรรคเพื่อไทย จึงเป็นความจำเป็นอย่างยิ่งที่ “เสี่ยเฮ้ง”จะต้องดึง “เสี่ยติ๊ก” ให้แยกมาอยู่ที่พรรครวมไทยสร้างชาติให้ได้

หนึ่งนั้นเพื่อให้คนเห็นภาพว่า “บ้านใหญ่คุณปลื้ม” แห่งเมืองชล ไม่ได้มีความเป็นเอกภาพ ไม่ได้แข็งแกร่งเหมือนในอดีตแล้ว หมดยุคแล้ว... ขณะเดียวกันก็เป็นการเสริมบารมี “บ้านใหม่ชมกลิ่น” ของ“เสี่ยเฮ้ง”ให้โดดเด่น มีราคาขึ้นมาด้วย

ว่ากันว่า งานนี้ “ลุงตู่” ต้องลงมาเล่นด้วย แบบว่ายื่นข้อเสนอที่ “เสี่ยติ๊ก” ไม่อาจปฏิเสธได้!!

ที่ว่า “เลือดข้นกว่าน้ำ”นั้นก็จริง แต่เพื่ออำนาจแล้ว “ศึกสายเลือด” ก็มีให้เห็นมานักต่อนักแล้ว และนี่ก็อาจเป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง