นายกฯ ปลื้มติดอันดับท็อป 5 ประชาชนอยากให้กุหลาบวาเลนไทน์ บอกไม่เคยโกรธเกลียดใคร ยอมรับบางเวลามีอารมณ์บ้าง แซวสื่อขอให้มีแฟน ได้แต่งงาน ชี้ พยายามมาหลายปีไม่สำเร็จ ก็ขอให้สำเร็จ
วันนี้ (14 ก.พ.) เมื่อเวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงการลงพื้นที่ในวันวาเลนไทน์หรือไม่ ว่า “ผมบอกแล้วไง ผมรักทุกคน รักทุกวัน วันวาเลนไทน์ถือเป็นวันสำคัญ ซึ่งจริงๆ ถือเป็นวันของต่างประเทศ วันนี้กลายเป็นของไทยไปด้วยแล้ว ก็ยินดี” พล.อ.ประยุทธ์ ยังกล่าวอย่างอารมณ์ดีกับสื่อมวลชนด้วยว่า ใครที่ยังไม่มีแฟนก็ขอให้มีแฟนทุกคน ใครยังไม่แต่งงานก็ขอให้แต่งงานทุกคน ถ้าพยายามมาหลายปียังไม่สำเร็จก็พยายามต่อไป ขอให้มีความสำเร็จนะจ๊ะ
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายกฯติดอันดับที่ 5 มีคนอยากมอบดอกกุหลาบให้ในวันวาเลนไทน์
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ ขอรับไว้ด้วยใจนะจ๊ะ นายกฯก็มอบดอกไม้ในดวงใจของนายกฯให้กับทุกคนเหมือนกัน นายกฯไม่มีอะไรกับใครทั้งสิ้น นายกฯมีแต่ความปรารถนาดีให้กับคนทุกกลุ่มทุกฝ่าย ไม่ว่าจะชอบไม่ชอบแต่นายกฯไม่เคยเกลียดไม่เคยโกรธ บางเวลาก็มีอารมณ์บ้างก็แค่นั้นเอง เพราะเราคือคนไทยด้วยกันไม่ใช่หรือ เราควรจะมอบความรักความปรารถนาดีให้กันและกัน สนับสนุนกำลังใจให้กันและกัน มีข้อบกพร่องหรือมีปัญหาอะไรต่างๆ ก็ตาม ก็ถามมาก็ตอบไป
“ผมเป็นคนพูดความจริง และผมก็ตอบยืนยันในส่วนที่ผมตอบได้ไป หลายเรื่องอยู่ในกระบวนการก็ต้องว่าในกระบวนการ ฉะนั้น การที่จะกล่าวอ้างว่าใครผิดหรือใครถูกซึ่งตามระบบแล้วจะต้องผ่านกระบวนการยุติธรรม ฉะนั้น การที่จะพูดจะว่าใครมันก็เป็นสิทธิ์ของท่านนั่นแหละ ไม่มีใครอยากเห็นความวุ่นวาย หรือฟ้องร้องอะไรกันมากมาย ดังนั้นขอให้ระลึกไว้ด้วยว่าการพูดให้ร้ายคนก็สนองตัวเองเหมือนกันเมื่อทำไม่ดีใช่หรือไม่ เราเป็นศาสนาพุทธและตรงนี้ก็มีชาวมุสลิมศาสนาอิสลามด้วย เหมือนกันหรือไม่ทุกศาสนาให้คนเป็นคนดีหมด เราต้องรักกันให้มากไม่ใช่รักกันเฉพาะวันวาเลนไทน์ รักกันได้ทั้งปี ทั้งวัน ทั้งคืน ทั้งเดือน ตลอดชีวิตนั่นแหละเราต้องรักกันถ้าเราไม่รักกันแผ่นดินเราก็จะไม่สงบนะจ๊ะ” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า ความรักมันจะก่อให้เกิดความร่วมมือและปัญหาต่างๆ เราจะแก้ไขไปได้ด้วยกัน พร้อมๆ กัน ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน สงสัยก็ถามมา แต่ถ้าท่านไปคิดเอาเองว่าไอ้นี่มันผิดไอ้นี่มันถูกท่านต้องถามหลักการและเหตุผลก่อน เพราะเราไม่สามารถที่จะไปให้ร้ายคนได้อันนี้ตามกฎหมาย ฉะนั้น จะต้องมีหลักฐานชัดเจนซึ่งจะเห็นว่าวันนี้หลายเรื่องที่ประเดประดังเข้ามามีหลักฐาน ตนก็สั่งการไปดำเนินคดีหมด ประเด็นสำคัญคือมีทั้งผู้ให้และผู้รับใช่หรือไม่ ฉะนั้นถ้าผู้ให้ไม่ให้ เมื่อเขาเรียกก็ฟ้องแจ้งความไม่ต้องไปกลัวเขา ฟ้องใครไม่ได้ให้มาฟ้องนายกฯจะสอบให้ ซึ่งจริงๆแล้วมีขั้นตอนกระบวนการอยู่แล้วร้องทุกข์กล่าวโทษแจ้งความ ถ้าคิดว่าไม่ได้รับความเป็นธรรมให้แจ้งมาที่สำนักนายกรัฐมนตรี ตนจะสั่งไล่ติดตามให้ก็แล้วกัน เพื่อหาหลักฐานดำเนินคดีให้ได้ตามระเบียบกฎหมาย