รมว.แรงงาน ขอนายจ้างสนับสนุนให้ลูกจ้างต่างด้าวมีส่วนร่วมในคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการตามกลไกระบบทวิภาคี เพื่อเป็นตัวแทนหารือนายจ้างจัดสวัสดิการที่เหมาะสมตรงกับความต้องการตามสัญชาติและได้รับการคุ้มครอง ดูแลสิทธิประโยชน์ตามหลักสิทธิมนุษยชน
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีความจำเป็นต้องใช้แรงงานต่างด้าวเข้ามาทำงานในกิจการที่แรงงานขาดแคลนรวมถึงกิจการที่คนไทยไม่นิยมทำ รัฐบาลภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความมุ่งมั่นพัฒนากลไกการเพิ่มประสิทธิภาพในการคุ้มครอง ดูแลสิทธิของแรงงานต่างด้าวให้มีความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติสอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชน โดยสนับสนุนให้เข้าไปมีบทบาทในการแสดงความคิดเห็น ร่วมปรึกษาหารือกับนายจ้างในการจัดสวัสดิการภายในสถานประกอบกิจการให้แก่ลูกจ้างตามสัญชาติได้อย่างเหมาะสมในแต่ละประเภทกิจการ ตรงตามความต้องการของลูกจ้างเอง มิใช่นายจ้างจัดการเพียงฝ่ายเดียว นอกจากนี้การสนับสนุนในเรื่องดังกล่าวยังเป็นการส่งเสริมแรงงานสัมพันธ์ด้วยระบบทวิภาคี เพื่อยุติปัญหาข้อเรียกร้อง ข้อพิพาทแรงงานได้เป็นอย่างดี ทั้งนี้ ได้มอบให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เร่งเข้าไปดำเนินการส่งเสริมสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างต่างด้าวทำงาน สนับสนุนให้มีตัวแทนของลูกจ้างต่างด้าวเข้าไปมีส่วนร่วมในการเป็นคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ เพื่อดูแลสิทธิประโยชน์อันพึงได้ตามหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งลูกจ้างที่เป็นแรงงานต่างด้าวจะได้มีตัวแทนประสานงานช่วยเหลือนายจ้างในการดูแลลูกจ้างต่างด้าวด้วยกันเองได้ จึงขอฝากถึงนายจ้างได้สนับสนุนให้ลูกจ้างต่างด้าวมีส่วนร่วมตามกลไกระบบทวิภาคีนี้ด้วย
นายนิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวเพิ่มเติมว่า พระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 มาตรา 96 ได้กำหนดให้สถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างตั้งแต่ 50 คน ขึ้นไป ต้องจัดให้มีคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการ ประกอบด้วยผู้แทนฝ่ายลูกจ้างฝ่ายเดียวที่มาจากการเลือกตั้งอย่างน้อย 5 คน หากสถานประกอบกิจการที่มีคณะกรรมการลูกจ้างตามกฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์แล้ว ให้คณะกรรมการลูกจ้างนั้นทำหน้าที่เป็นคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการได้ซึ่งกรมได้เน้นย้ำไปยังหน่วยปฏิบัติทั่วประเทศให้เข้าไปส่งเสริมสถานประกอบกิจการที่มีลูกจ้างต่างด้าว ได้สนับสนุนให้มีตัวแทนลูกจ้างต่างด้าวเป็นคณะกรรมการสวัสดิการในสถานประกอบกิจการด้วย เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยน รับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการจัดสวัสดิการ สภาพการจ้าง การทำงานที่เหมาะสมครอบคลุมลูกจ้างทุกประเภทอย่างเท่าเทียม เพื่อสร้างขวัญกำลังใจ และพัฒนาคุณภาพชีวิตลูกจ้างในสถานประกอบกิจการได้อย่างมีประสิทธิภาพ สถานประกอบกิจการสามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างมั่นคง มีผลผลิตที่มีคุณภาพ ช่วยเสริมสร้างเศรษฐกิจให้กับประเทศอีกทางหนึ่งด้วย