xs
xsm
sm
md
lg

"อ.แหม่ม"เปิดวิธีแก้จน ชูแก้ที่ดินทำกิน ยกระดับที่ส.ป.ก. เข้าถึงเกษตรกรสร้างอาชีพ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อดีต รมช.แรงงาน เปิดวิธีแก้จน ด้วยการแก้ปัญหาที่ดินทำกิน ยกระดับที่ดินส.ป.ก. ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง เข้าถึงเกษตรกรสร้างอาชีพ

วันนี้( 8 ก.พ.)นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรมช.แรงงาน โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า ประเทศไทยมีจำนวนประชากรในภาคเกษตรมากถึง 25 ล้านคน หรือคิดเป็นร้อยละ 40 ของประชากรทั้งหมด แต่เป็นกลุ่มที่มีรายได้เฉลี่ยต่ำกว่าอาชีพอื่นๆ อีกทั้งยังขาดความมั่นคงทางรายได้ มีความผันผวนตามฤดูกาล

กลุ่มเกษตรกรมีรายได้เฉลี่ยเดือนละประมาณ 5,000 บาท ขณะที่รายได้เฉลี่ยต่อเดือนของแรงงานนอกภาคเกษตรอยู่ที่ 16,000 บาท ประมาณร้อยละ 40 ถือครองที่ดินเพียง 1-10 ไร่ และอีกร้อยละ 8 ไม่มีที่ดินทำกิน นอกจากนี้ ที่ดินที่ถือครองในหลายพื้นที่ มีสภาพไม่เหมาะสมกับการทำการเกษตร ปัญหาที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม หรือ ส.ป.ก. มีมายาวนาน เป็นปัญหาเกี่ยวกับกฎหมายที่บังคับใช้อยู่ไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง ในประเด็นดังนี้

1.พ.ร.บ.การปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) พ.ศ. 2518 มีวัตถุประสงค์ เพื่อให้เกษตรกรที่ยากจนทำการเกษตร ถึงวันนี้ 48 ปีแล้ว สภาพพื้นที่ดินและเศรษฐกิจบางพื้นที่ได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก แต่ยังคงต้องปฏิบัติตามวัตถุประสงค์ของกฎหมายที่ออกมาใช้เมื่อ 48 ปีก่อน ซึ่งไม่สะท้อนความเป็นจริง

2.ที่ดิน ซึ่งส.ป.ก.ได้รับมาจากกรมป่าไม้ 36 ล้านไร่ ไม่ได้แบ่งแยกว่าพื้นที่ใดเหมาะสมทำเกษตรหรือไม่ เช่น ที่ดินไม่มีน้ำหรือเป็นที่ดินที่สภาพดินไม่ดี ทำให้ที่ดินจำนวนมากซึ่งไม่เหมาะสมกับการทำเกษตร เกษตรกรผู้ถือครองควรจะทำอาชีพอื่นก็ทำไม่ได้ เกษตรกรจึงไม่มีรายได้และยากจนจนถึงปัจจุบัน

3.ประชาชนที่ได้รับมอบที่ดินไปแล้วประมาณ 2.85 ล้านครอบครัว หลายรายมีอายุเกินกว่า 60 ปี ซึ่งมีมากกว่า 1 ล้านครอบครัวไม่มีความสามารถทำการเกษตรและไม่มีบุตรหลานที่จะมารับช่วงทำการเกษตรต่อได้ ก็ยังถือครองที่ดินไว้ แต่ปล่อยที่ดินว่างเปล่าหรือขายให้กับเกษตรกร
ด้วยกันแบบไม่ถูกต้อง

4.มีการถือครองที่ดินอย่างไม่ถูกต้อง หรือมีนายทุนไปบุกรุกจับจองที่ดินโดยผิดกฎหมาย ซึ่งต้องมีการสะสางให้ถูกต้องและนำที่ดิน ส.ป.ก.มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชนและประเทศชาติโดยส่วนรวม

ทางแก้ไขปัญหา คือ
1.ต้องจำแนกประเภทที่ดินให้ตรงกับสภาพที่แท้จริงของการใช้ประโยชน์ในที่ดินให้อย่างเหมาะสมและถูกต้องตามความเป็นจริง

2.ปรับแก้ไขคุณสมบัติของผู้ถือครองที่ดินในปัจจุบัน ซึ่งได้รับมาอย่างถูกต้องตามกฎหมาย สามารถขอใช้ที่ดินได้ตามวัตถุประสงค์ที่ตรงกับสภาพที่แท้จริงของพื้นที่และความต้องการของตนเอง

3.หากผู้ถือครองที่ดินรายใดไม่สามารถนำที่ดินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ได้ สามารถสละสิทธิ์ หรือเปลี่ยนมือให้กับผู้อื่นซึ่งมีคุณสมบัติครบถ้วนตามกฎหมายรับสิทธิ์การครอบครองเข้าใช้ประโยชน์ในที่ดินแทน

4.ที่ดินส่วนใหญ่ซึ่งเป็นพื้นที่เกษตรกรรมยังคงมีไว้เหมือนเดิม เพื่อให้เกษตรกรที่มีอาชีพการทำการเกษตรและมีรายได้จากการเกษตรเป็นหลักทำอาชีพเดิมต่อไป โดยรัฐ (ส.ป.ก.) จะต้องประสานและสนับสนุนให้มีการพัฒนาเรื่องแหล่งน้ำและสาธารณูปโภค แก่เกษตรกรในพื้นที่ดินของ ส.ป.ก.ให้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้น

นางนฤมล กล่าวว่า หากแก้ปัญหาที่ทำกินให้เกษตรกรได้ เราจึงจะแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกรได้อย่างแท้จริง


กำลังโหลดความคิดเห็น