รองโฆษกรัฐบาล เผย ครม.เห็นชอบแนวทางบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าว 4 ชาติ หลังวันที่ 13 ก.พ. 66 ให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงานถึงวันที่ 15 พ.ค. 66 และให้ยกเว้นการเปรียบเทียบปรับ
วันนี้ (7ก.พ.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวหลังวันที่ 13 ก.พ. 66 ซึ่งเป็นการขยายระยะเวลาให้คนต่างด้าวตามมติ ครม. วันที่ 5 ก.ค. 65 ซึ่งประกอบด้วยแรงงาน 4 สัญชาติได้แก่ เมียนมา ลาว กัมพูชา และ เวียดนาม ซึ่งได้รับอนุญาตให้ทำงานถึงวันที่ 13 ก.พ. 66 ให้อยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อทำงานถึงวันที่ 15 พ.ค. 66 และให้ยกเว้นการเปรียบเทียบปรับการอยู่ในราชอาณาจักรเกินระยะเวลาถึงวันดังกล่าว เพื่อให้แรงงานสามารถจัดเตรียมเอกสารเพื่อยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามขั้นตอนที่ครบถ้วนต่อไป และเป็นการช่วยเหลือนายจ้าง/สถานประกอบการที่ยังต้องการแรงงานเพื่อดำเนินกิจการในช่วงของการฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด-19 โดยที่แรงงานยังอยู่ในกำกับและการบริหารของหน่วยงานรัฐ และแรงงานก็ยังคงได้รับการคุ้มครองและสิทธิประโยชน์ สวัสดิการตามกฎหมายตามสิทธิที่พึงได้
นอกจากนี้ ครม. ได้เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการดำเนินการออกเอกสารรับรองของบุคคล (Certificate of Identity: CI) ของทางการเมียนมาในพื้นที่ 4 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดสมุทรสาคร สมุทรปราการ ระนอง และ ชลบุรี จาก 13 ก.พ. 66 เป็น 13 พ.ค. 66 เนื่องจากปัจจุบันมีแรงงานเมียนมาประมาณ 300,000 คนอยู่ระหว่างการทำเอกสาร CI ส่วนทางการ ลาว และกัมพูชา หากประสงค์จะจัดเก็บข้อมูลเพื่อออกเอกสารประจำตัว ให้มีหนังสือผ่านช่องทางการทูตและสามารถดำเนินการได้ไปพลางก่อนโดยดำเนินการได้ถึง 13 พ.ค. 66
ทั้งนี้ เมื่อคนต่างด้าวยื่นเอกสารครบถ้วนตามกำหนดแล้ว ให้สามารถอยู่ในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวและทำงานถึงวันที่ 13 ก.พ. 67 หรือ 13 ก.พ. 68 แล้วแต่กรณี
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า สำหรับความจำเป็นที่ต้องมีการออกแนวทางการบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวดังกล่าวนี้ เนื่องจากคนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรให้ทำงานตาม มติ ครม. วันที่ 5 ก.ค. 65 จำนวน 2,425,901 คน ประกอบด้วย 1) คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้ทำงาน จำนวน 1,719,231 คน และ 2) คนต่างด้าวที่มีสถานะไม่ถูกต้องตามกฎหมายแต่ได้รับการผ่อนผันอนุญาตทำให้ทำงาน จำนวน 706,670 คน ตามมติ ครม. ได้กำหนดว่าหากคนต่างด้าวทั้ง 2 กลุ่ม ประสงค์จะทำงานต่อจะต้องยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานและชำระค่าธรรมเนียมภายในวันที่ 13 ก.พ. 66
อย่างไรก็ตาม ปรากฏว่า ล่าสุด ได้มีการยื่นขอต่ออายุและชำระค่าธรรมเนียมแล้ว 403,062 คน และยังไม่ดำเนินการยื่นคำขอ 2,022,839 คน เนื่องด้วยเอกสารหลักฐานยังไม่ครบถ้วนตามแนวทาง ที่ ครม. เมื่อวันที่ 5 ก.ค. 65 กำหนด ได้แก่ อยู่ระหว่างจัดทำหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางเล่มใหม่กับประเทศต้นทาง ตลอดจนเอกสาร CI จึงจำเป็นต้องมีการผ่อนผันให้คนต่างด้าวดังกล่าวยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาตทำงานและดำเนินการจัดทำเอกสารหลักฐานให้ครบถ้วน
นอกจากนี้ ครม.ได้มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อให้การบริหารจัดการทำงานของคนต่างด้าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไป อาทิ กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงแรงงาน ออกประกาศหรือระเบียบในส่วนที่เกี่ยวข้อง กระทรวงสาธารณสุข กรมการแพทย์ และสำนักแพทย์ กรุงเทพมหานคร ปรับปรุงขั้นตอนการขยายประกันสุขภาพให้คนต่างด้าวให้สามารถซื้อประกันสุขภาพของกระทรวงสาธารณสุขได้อย่างทั่วถึงและสะดวก สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้สอดคล้องกับมติ ครม. ตลอดจนดำเนินการจัดเก็บอัตลักษณ์บุคคลของคนต่างด้าว เป็นต้น