xs
xsm
sm
md
lg

“เพจดัง” ชี้เปรี้ยง ปลุกม็อบแล้ว! ต้องตรวจสอบเข้ม สงสัยมีอะไรซ่อนในจะนะ ย้อนอดีต “บีอาร์เอ็น” เคยแถลงหนุนต่อสู้

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ ชาวจะนะ เดินขบวนคัดค้านคำสั่งย้าย “หมอฮา” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเดอะรีพอร์ตเตอร์
มีอะไรอยู่เบื้องหลัง? “เพจดัง” ชี้เปรี้ยง ปลุกม็อบ คัดค้านย้าย “หมอฮา” ต้องตรวจสอบเข้ม สงสัยอะไรซ่อนอยู่ ย้อนอดีต “บีอาร์เอ็น” เคยหนุน ค้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ “อดีตบิ๊ก ศรภ.” ยังมีหวัง หลังมีเยาวชน ต้านพรรค “ก้าวไม่ไกล”

น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (2 ก.พ. 66) เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ภาพ ม็อบคัดค้านการโยกย้าย “หมอฮา” นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ พร้อมระบุว่า

“ปลุกม็อบแล้ว น่าสนใจจริงๆ แบบนี้ต้องตรวจสอบหนักๆ หน่อย มันมีอะไรซ่อนอยู่ในจะนะ ถึงไม่กล้าย้ายไปที่อื่น”

รวมทั้งแชร์ข่าวจาก The Reporters ระบุว่า
UPDATE: “ชาวจะนะ” ร่วมเดินขบวนคัดค้านคำสั่งย้าย 'นพ.สุภัทร' พร้อมยกระดับไปชุมนุมที่หน้ากระทรวงสาธารณสุข หากถูกย้ายจริง

ชาวอำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา ร่วมกับเครือข่ายเพื่อความเป็นธรรมคนสงขลา เครือข่ายเพื่อความเป็นธรรม อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลา เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และเครือข่ายคนรักษ์จะนะ รวมถึงโรงเรียนเอกชนสอนศาสนา รวมตัวกันเคลื่อนขบวนการคัดค้านคำสั่งย้าย นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจ จากโรงพยาบาลจะนะ ไปยัง โรงพยาบาลสะบ้าย้อย โดยมีทั้งชาวบ้าน อสม.และนักเรียน จำนวนมาก เดินขบวนจากสถานีรถไฟจะนะ ไปยังหน้าที่ว่าการอำเภอจะนะ และรอบตลาดเทศบาลเมืองจะนะ พร้อมทั้งมีการจัดเวทีแสดงจุดยืนเรียกร้องให้กระทรวงสาธารณสุข ทบทวนคำสั่งย้าย และไม่ให้ย้าย นพ.สุภัทร ออกจากพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา

นายกิตติภพ สิทธิสว่าง เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจะนะยั่งยืน ตั้งคำถามว่า ทำไมฝ่ายการเมืองย้าย นพ.สุภัทร อย่างที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า เป็นเรื่องทางราชการ แต่กระบวนการมีคำสั่งย้ายที่ผิดปกติ ซึ่งปฏิเสธว่า การย้าย นพ.สุภัทร จะกระทบต่อการเคลื่อนไหวของประชาชนทั้งแผ่นดิน ไม่ใช่แค่คนจะนะ เพราะที่ผ่านมา นพ.สุภัทร ทำงานเพื่อประชาชน ทั้งแพทย์ ผอ.โรงพยาบาลจะนะ แล้ว ยังทำหน้าที่ประธานชมรมแพทย์ชนบทด้วย

“คุณหมอมีผลงานร่วมกับชาวจะนะมากว่า 20 ปี ไม่ใช่แค่บทบาทหมอ แต่ยังทำงานเพื่อสังคม เช่น การสร้างความมั่นคงทางอาหาร การนำพลังงานสะอาด หรือโซลาร์เซลล์ มาใช้กับการประหยัดงบประมาณของ รพ.จะนะ และการสนับสนุนจะนะเมืองแห่งการศึกษา”

นายกิตติภพ ระบุว่า หาก นายอุนทิน ฟังอยู่ ชาวจะนะก็อยากได้ฟังคำตอบจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ว่าจะทบทวนการย้าย นพ.สุภัทร ซึ่งชาวจะนะไม่ต้องการย้าย นพ.สุภัทร ออกจากพื้นที่

นายรุ่งเรือง ระหมันยะ เครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น เชื่อมั่นว่า การย้าย นพ.สุภัทร เป็นการลดบทบาทการเคลื่อนไหวของภาคประชาชน เพราะ นพ.สุภัทร เป็นคนที่ร่วมเคลื่อนไหวในการต่อต้านนิคมอุตสาหกรรมจะนะ และโครงการต่างๆ ที่กระทบกับชาวจะนะมาตลอดกว่า 20 ปีที่ผ่านมา ทำให้ชาวจะนะรักหมอสุภัทร ไม่มีใครอยากให้ย้ายออกไป

ขณะที่ รองเลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุว่า ด้วยความสัมพันธ์ของ นพ.สุภัทร ที่มีความร่วมมือกันดีกับโรงเรียนสอนศาสนา ในช่วงโควิด-19 ที่ผ่านมา นพ.สุภัทร ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ทำงานเพื่อคนจะนะจริง

“คุณหมอเป็นเหมือน ก้อนกรวดในรองเท้าของคุณอนุทิน ถ้าย้ายคุณหมอ ก็เหมือนเอาก้อนกรวดออกจากรองเท้า เพราะคุณหมอคัดค้านนโยบายกัญชาเสรี อาจขัดขวางนโยบายของพรรคคุณอนุทิน ก็ได้ จึงต้องตั้งคำถามว่า การย้ายครั้งนี้เป็นการกลั่นแกล้งหรือไม่”

ด้าน นายกัณวีร์ สืบแสง รองเลขาธิการพรรคเป็นธรรม ก็ลงพื้นที่มาติดตามการเดินขบวนของชาวจะนะ เปิดเผยว่า ได้มาแสดงจุดยืนร่วมกับชาวจะนะไม่เห็นด้วยกับการย้าย นพ.สุภัทร เพราะแม้ข้าราชการจะย้ายได้ แต่ต้องไม่ถูกใช้เป็นเครื่องมือทางการเมือง และต้องมีความเป็นธรรม หากย้ายไม่ถูกต้องก็ต้องตรวจสอบ

“ต้องมีการตรวจสอบคำสั่งย้ายที่ไม่เป็นธรรมครั้งนี้ เพราะมีหลายขั้นตอนที่ไม่โปร่งใส อย่างการแก้ไขระเบียบให้ผู้ตรวจราชการมีคำสั่งย้ายผู้อำนวยการโรงพยาบาลได้ เป็นสิ่งที่กระทรวงสาธารณสุขต้องตอบสังคมด้วย”

และต่อมา เพจเฟซบุ๊ก The METTAD ยังโพสต์ภาพข่าวในอดีต ที่ขบวนการบีอาร์เอ็นออกแถลงการณ์สนับสนุนกลุ่มผู้ประท้วงโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ พร้อมข้อความระบุว่า “ยังไงหนอ”

ทั้งนี้ ข่าวดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2564 เนื้อหาระบุว่า กลุ่มแนวร่วมปฏิวัติแห่งชาติมลายู หรือ BRN แถลงทางยูทูบในวันพฤหัสบดีนี้ ว่า กังวลต่อท่าทีของรัฐบาลที่มีต่อผู้ประท้วงกลุ่มจะนะรักษ์ถิ่น และประณามการสลายการชุมนุมที่หน้าทำเนียบรัฐบาลของเจ้าหน้าที่ในวันจันทร์ ขณะที่กลุ่มผู้ประท้วงเกือบร้อยคนยังปักหลักชุมนุมข้ามคืนที่หน้าอาคารสหประชาชาติ โดยกล่าวว่า จะเดินทางมาทวงสัญญาอีกครั้งที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันจันทร์หน้า

กลุ่ม BRN ออกแถลงการณ์ผ่านยูทูบ Jabatan Penerangan ของฝ่ายข้อมูลบีอาร์เอ็น ระบุว่า ไม่ควรมีการกระทำที่รุนแรงจากรัฐบาลสยามกับพี่น้องของเรา โครงการพัฒนาแบบใดจะเกิดขึ้นหากในช่วงแรกเริ่มละเลยความปลอดภัยและไม่เคารพหลักประกันชีวิตมนุษย์ พวกเราบีอาร์เอ็นกังวลอย่างมากเกี่ยวกับพี่น้องของเราในจะนะ ที่กำลังต่อสู้เพื่อความจริง และเราบีอาร์เอ็น ยังประณามรัฐบาลสยามอย่างรุนแรง สำหรับการกระทำที่กดขี่และไร้มนุษยธรรมที่ละเมิดสิทธิในการมีชีวิตของชาวปาตานี” แถลงการณ์ ระบุ

ภาพ ชาวบ้านเคลื่อนไหวเดินขบวนคัดค้านย้าย “หมอฮา” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเดอะรีพอร์ตเตอร์
ที่มาของโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ

เมื่อเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2562 รัฐบาลพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้อนุมัติการริเริ่มโครงการอุตสาหกรรมจะนะ จังหวัดสงขลา เพื่อเป็น “เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษเฉพาะจังหวัดชายแดนภาคใต้” เพิ่มเติมอีกแห่งหนึ่ง เพื่อเสริมโครงการ “สามเหลี่ยมมั่งคั่ง มั่นคง ยั่งยืน” ในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ที่มีมาเมื่อปี พ.ศ. 2559 เพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจและปัญหาความไม่สงบในพื้นที่

ในการนี้ รัฐบาลได้อนุมัติให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ดำเนินโครงการนิคมอุตสาหกรรมจะนะ ร่วมกับ บมจ.ทีพีไอพีพี และ บมจ.ไออาร์พีซี บนพื้นที่ 16,753 ไร่ ซึ่งชาวบ้านได้กล่าวหาว่า รัฐบาลเอื้อประโยชน์ต่อ นายประชัย เลี่ยวไพรัตน์ ผู้บริหารระดับสูง ที่เชื่อว่า มีสายสัมพันธ์พิเศษกับมูลนิธิป่ารอยต่อของ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี

ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 น.ส.รัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกรัฐบาล กล่าวว่า ที่ประชุม ครม. สัญจร ได้อนุมัติในหลักการของแผนเร่งด่วนในการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ อำเภอจะนะ ซึ่งประกอบด้วย หนึ่ง ผังเมืองในตำบลสะกอม ตำบลตลิ่งชัน และตำบลนาทับ สอง โครงข่ายท่าเรือน้ำลึก สงขลา สาม โครงข่ายการขนส่งทางบก สี่ โครงการพลังงานทางเลือก เช่น กังหันลม แสงอาทิตย์ และชีวมวล เป็นต้น โดยมีพื้นที่ 16,753 ไร่ มูลค่าการลงทุน 18,680 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม โครงการดังกล่าว ได้ต้องเผชิญกับการต่อต้านของชาวบ้านในนามเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และอื่นๆ มาตั้งแต่ต้น ซึ่งทางกลุ่มเขาเกรงว่านิคมอุตสาหกรรมดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น ทำให้หาดทรายหายไป

จนกระทั่งเมื่อมีการประท้วงที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อปลายปี 2563 ผู้แทนรัฐบาลได้ตกลงที่จะยุติการดำเนินการใด ๆ ที่เกี่ยวกับโครงการไว้ก่อน เช่น การไม่เปลี่ยนผังเมืองจากสีเขียว (พื้นที่การเกษตร) เป็นสีม่วง (พื้นที่อุตสาหกรรม) และตั้งคณะอนุกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาโครงการเมืองต้นแบบอุตสาหกรรมก้าวหน้าแห่งอนาคต ในอำเภอจะนะ โดยให้มีองค์ประกอบของทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งประชาชนในพื้นที่เพื่อตรวจสอบการดำเนินงานของ ศอ.บต. ที่ผ่านมา
มารียัม อัฮหมัด ในปัตตานี ร่วมรายงาน

ภาพ ความเคลื่อนไหวที่ผ่านมา เกี่ยวกับชาวบ้านที่ออกมาปกป้อง “หมอฮา” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเดอะรีพอร์ตเตอร์
ขณะเดียวกัน พล.ท.นันทเดช เมฆสวัสดิ์ อดีตหัวหน้าศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ศูนย์รักษาความปลอดภัยแห่งชาติ (ศรภ.) โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ ระบุว่า

“วันนี้ไปนั่งกินชาเย็น ที่ร้านขนมชื่อดัง

ได้ฟังภาษาพูดของเด็กมหา’ลัย 4-5 คน แล้วก็สนุกไปด้วย มีตอนหนึ่ง น้องๆ พูดถึงพรรค “ก้าวไม่ไกล” (น่าจะเป็นพรรคก้าวไกล) ได้น่าฟังถูกใจผม สรุปว่า ตั้งแต่มีพรรคการเมือง ชื่อ “ก้าวไม่ไกล” ขึ้นมายังไม่เห็นเลยว่า พรรคนี้จะเสนอนโยบายอะไร ที่เป็นประโยชน์ทั้งต่อประชาชนและประเทศชาติ

เป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่มี ส.ส. ออกมายุยงให้คนในชาติทะเลาะกันเอง แทบทุกเดือน เป็นพรรคการเมือง ที่บุคคลในพรรคส่วนหนึ่ง มีพฤติการณ์ที่ไม่เคารพกฎหมายบ้านเมือง แสดงออกอย่างชัดเจน

การพูดคุยกันของน้องๆ ทำให้ผมคิดไปไกลถึงอนาคต 2 เรื่องว่า (1) สังคมไทยยังมีความหวัง และ มีอนาคตที่ยาวไกล เพราะเด็กที่คิดแบบนี้ ซึ่งน่าจะมีมากกว่าเด็กนิ้วพิการหลายสิบเท่าตัว (2) ลุงตู่ น่าจะมีโอกาสกลับเข้ามาเป็น นรม.อีกครั้ง
(สรุปเอาดื้อๆ)

แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจ ก็คือ การเคลื่อนไหวเพื่อคัดค้านการโยกย้าย “หมอฮา” ที่ทำท่าว่าจะบานปลาย กลายเป็นเรื่อง ป้องปกบุคคลที่ร่วมต่อสู้กับชาวบ้าน

หรือ อีกนัยหนึ่ง ก็คือ การมีชาวบ้านเป็นเกราะกำบังการโยกย้ายครั้งนี้

ยิ่งกว่านั้น ยังชัดเจนว่า ชาวบ้านพร้อมที่จะเดินทางมาประท้วงการโยกย้าย ที่กระทรวงสาธารณสุข หากยังยืนยันที่จะโยกย้าย

ยิ่งกว่านั้น กลุ่มคนที่ออกมาแสดงตนสนับสนุนการประท้วง บางกลุ่มยังมีความอ่อนไหวในพื้นที่อย่างมากด้วย นี่คือ สิ่งที่น่าจับตามองว่า ทางออกของเรื่องนี้จะเป็นอย่างไร บานปลายกว่าที่คิดหรือไม่


กำลังโหลดความคิดเห็น