“สารวัตรต้น” โชว์ดูดเสื้อแดงประจวบฯ-ราชบุรี หนุน “ไทยสร้างไทย” ยกเป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครโซนตะวันตก
วันนี้ (25 ม.ค.66) พ.ต.ท.กุลธน ประจวบเหมาะ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย เปิดเผยว่า ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตนลงพื้นที่ภาคตะวันตก เพื่อเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ในนามพรรคไทยสร้างไทย และถือโอกาสพบปะพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดงที่สนับสนุนพรรคไทยสร้างไทย ถึงแนวทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยด้วย อาทิที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตนได้รับเชิญจาก กลุ่มคนเสื้อแดงประจวบฯ ไปร่วมงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปี พร้อมกับ นายพันธ์ศักดิ์ เพชรพิทักษ์ชน แกนนำ และประธานคนเสื้อแดงภาค 7 ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคไทยสร้างไทย และ นายสมพงศ์ ทั่งศรี อดีตสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (ส.อบจ.) บางสะพานน้อย ซึ่งเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เขต 3 จ.ประจวบคีรีขันธ์ พรรคไทยสร้างไทย
พ.ต.ท.กุลธน เปิดเผยด้วยว่า มีความยินดีพี่น้องคนเสื้อแดง จ.ประจวบฯ แสดงความสนับสนุน พรรคไทยสร้างไทย ที่เป็นพรรคใหม่ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดี เพื่อทำให้มีการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยมากขึ้น และส่วนตัวนามสกุลประจวบเหมาะ ถือเป็นลูกหลานสายเลือดชาวประจวบฯ มี นายสำเภา ประจวบเหมาะ อดีตนักการเมือง ที่เคยรัฐมนตรี ได้สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน จึงรู้สึกผูกพันธ์กับ จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นพิเศษ ส่วนเรื่องแนวทางการทำงานร่วมกับนักสู้เพื่อประชาธิปไตยนั้น ต้องพูดคุยกันอีกครั้งว่า จะวางยุทธศาสต์การต่อสู้อย่างไร ทั้งนี้ว่าที่ผู้สมัครของพรรคไทยสร้างไทยใน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้ง 3 เขต มีความพร้อม และมีความหวัง หากยุบสภามีการเลือกตั้งเชื่อว่า จะมีกระแสตอบรับที่ดี
“ส่วนตัวขอเรียกพี่น้องคนเสื้อแดง เป็นนักสู้เพื่อประชาธิปไตย เพราะไม่ต้องการพูดถึงสีเสื้อ ที่ทำให้มีการแบ่งแยก หรือความขัดแย้งอีก” พ.ต.ท.กุลธน ระบุ
พ.ต.ท.กุลธน กล่าวต่อว่า และเมื่อวันที่ 24 ม.ค.66 ตนก็ได้มีโอกาสเดินทางไปยัง จ.ราชบุรี เพื่อพบปะพูดคุยกับกลุ่มคนเสื้อแดง หรือนักสู้เพื่อประชาธิปไตย ใน จ.ราชบุรี และพื้นที่ใกล้เคียง ร่วมกับ นายพันธ์ศักดิ์ ที่เป็นประธานคนเสื้อแดงภาคตะวันตก และได้ทำการปราศรัยย่อยร่วมกับว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคไทยสร้างไทย อาทิ นายชิตพล เชี่ยวอุดมทรัพย์ เขต 4 จ.ราชบุรี, นางจริยา มหายศนันทน์เขต 1 จ.นนทบุรี, นายชาติชาย บัวซ้อน เขต 3 จ.กาญจนบุรี, นายประเทือง กรูดทอง เขต 5 จ.กาญจนบุรี และ นายยุทธนา ลับบัวงาม เขต 3 จ.สุพรรณบุรี เป็นต้น
พ.ต.ท.กุลธน กล่าวว่า ในการปราศรัยย่อย ตนได้เล่าถึงนโยบายต่างๆของพรรค โดยเฉพาะเรื่องบำนาญประชาชนเดือนละ 3 พันบาท ซึ่งเป็นนโยบายหลักของพรรค และได้รับการตอบรับจากประชาชนเกือบ 2 ล้านคนแล้ว เนื่องจากคุณหญิงสุดารัตน์ หัวหน้าพรรค และคณะกรรมการบริหาร ได้เข้าพบ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อยื่นขอให้ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) บำนาญประชาชน 3 พันบาท ผ่านสภาผู้แทนราษฎรให้ได้ในสมัยหน้า ทั้งที่พรรคไทยสร้างไทยยังไม่มี ส.ส.ในสภาฯ เลย
“ผู้สมัคร ส.ส.ราชบุรี ยังอยู่ในกระบวนการสรรหาของพรรคอยู่ในขณะนั้น มีเพียง เขต 4 ที่มี นายชิตพล หรือ รองฯเอ๋ อดีตรองนายกเทศมนตรี ห้วยกระบอก อ.บ้านโป่ง จ.ราชบุรี มาเป็นว่าที่ผู้สมัครของพรรคในจังหวัดนี้เป็นคนแรก และมีคนเสื้อแดงให้การสนับสนุน ซึ่งพรรคไทยสร้างไทยเป็นพรรคขนาดกลาง ก็สามารถที่จะจับมือได้กับทุกพรรคในการจัดตั้งรัฐบาล เพราะเราไม่มีปัญหากับใคร ยกเว้นพรรคเผด็จการ เพราะเราเป็นพรรคประชาธิปไตย สำหรับคนที่อกหักสามารถมาพักบ้านนี้ได้เพราะพรรคไทยสร้างไทยเป็นบ้านใหม่ของพี่น้องคนเสื้อแดง หรือนักรบหัวใจประชาธิปไตย หรือถ้ามีปัญหาขัดข้องก็เชิญที่พรรคไทยสร้างไทยได้
พ.ต.ท.กุลธน กล่าวอีกว่า กลุ่มคนเสื้อแดงและว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ที่หันมาสนับสนุนพรรคไทยสร้างไทย ก็เพราะมีความเชื่อมั่นในตัว คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรค และชื่นชอบในนโยบาย และแนวทางการทำงานของพรรค ในการที่จะช่วยคนตัวเล็กให้สามารถลืมตาอ้าปากได้ รวมทั้งการผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญของประชาชนที่เป็นประชาธิปไตยอย่างแท้จริง ทั้งยอมรับว่า ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.หลายคน ต่างเคยสนับสนุนพรรคเพื่อไทย มาก่อน แต่ก็ไม่ได้รับโอกาสในการลงสมัคร ส.ส.ในนามพรรคเพื่อไทย แม้จะทุ่มเททำงานในพื้นที่อย่างหนักก็ตาม พรรคไทยสร้างไทยเล็งเห็นถึงจิตใจความรักในประชาธิปไตย และความมุ่งมั่นของนักสู้เหล่าจนี้จึงได้ทาบทามให้มาทำงานร่วมกะน
“พรรคไทยสร้างไทย ยินดีที่จะต้อนรับนักสู้เพื่อประชาธิปไตยที่อกหักทุกคน ให้มาร่วมอุดมการณ์เดียวกัน” พ.ต.ท.กุลธน กล่าว
นายพันธ์ศักดิ์ กล่าวเสริมว่า ที่ผ่านมา เคยเสนอตัวกับทางพรรคในหารเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ประจวบฯ ของพรรคเพื่อไทย และได้ลงพื้นที่มาอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่เคยถูกเรียกสัมภาษณ ถึงเวลาประกาศตัว พรรคกลับไปเลือกคนอื่นแทน ทำให้เกิดความน้อยเนื้อต่ำใจ จึงได้ย้ายมาอยู่กับพรรคไทยสร้างไทย เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในตัวหัวหน้าพรรค ที่ยึดมั่นในประชาธิปไตย อีกทั้งยังได้กับ พ.ต.ท.กุลธน หรือสารวัตรต้น ที่มีแนวคิดเหมือนกัน และสามารถพึ่งพาอาศัยได้ในการดูแลฐานของคนเสื้อแดงได้ “ปัจจุบันกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยบางราย ไม่ได้ต่อสู้กับคนเสื้อแดง ส่วนผู้ที่เคยต่อสู้ไม่ได้เข้ามามีอำนาจในพรรค สิ่งนี้ทำให้คนเสื้อแดงน้อยใจ ทำให้คิดได้ว่า พรรคเพื่อไทยไม่เอาคนเสื้อแดงหรือไม่ วันนี้คนเสื้อแดงที่รักความเป็นธรรม ขาดจากพรรคการเมืองได้ แต่พรรคการเมืองขาดจากคนเสื้อแดง อีกไม่นานคงทราบว่าอะไรจะเกิดขึ้น แต่แนวทางการหาเสียงยืนยันว่า จะไม่โจมตีบุคคลใด เพราะส่วนตัวยังรักและเคารพ 2 อดีตนายกรัฐมนตรี ของพรรคเพื่อไทย” นายพันธ์ศักดิ์ กล่าว.