อดีตรองผู้ว่าฯ กทม. เผย ตื่นเต้นคัมแบ็ก พปชร. ขอบคุณ “ประวิตร” ให้อิสระทำงาน รับแยกทาง “ประยุทธ์” มีผลต่อฐานเสียง ย้ำ ยังเคารพนายกฯเหมือนเดิม
วันนี้ (24 ม.ค.) นายสกลธี ภัททิยกุล อดีตรองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในฐานะหัวหน้าทีมว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กทม. ของ พปชร. ให้สัมภาษณ์ถึงความรู้สึกหลังกลับเข้า พปชร.อีกครั้ง ว่า ตื่นเต้น วันนี้มาสมัครเป็นสมาชิกพรรค ต้องขอบคุณพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.ที่ให้โอกาสตนในการดูแลนโยบาย ตัวผู้สมัคร ส.ส. และรายละเอียดต่างๆ ของทีม กทม. อย่างไรก็ตาม ตนตอบรับเข้ามาดูแลในภาพรวม ส่วนจะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อหรือบริหารพรรคด้านไหน แล้วแต่หัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคจะเห็นสมควร
เมื่อถามถึงนโยบายที่จะเอาชนะใจประชาชน นายสกลธี กล่าวว่า ตนพูดตรงๆ กับหัวหน้าพรรค พปชร.ว่า การเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้ไม่ง่าย เพราะหลายพรรคมีตัวผู้สมัครดีๆ และส่งผู้สมัครกันเยอะ โอกาสมีกันทุกพรรค อย่างไรก็ตาม ส่วนที่ตนลาออกจาก พปชร.ไปก่อนหน้านี้ เพราะต้องการลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.ในนามอิสระ แต่การกลับมาครั้งนี้ หัวหน้าพรรคได้ให้โอกาสและอิสระตนเต็มที่ในการหาเสียง ซึ่งความอิสระที่หัวหน้าพรรคมอบให้ทำให้ตนดึงคนที่ช่วยตอนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม.มาได้ ส่วนสนามเลือกตั้ง กทม.ครั้งนี้ คงเป็นการสู้กันด้วยนโยบายและกระแส แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าตัวผู้สมัครก็สำคัญ เพราะเป็นบัตรเลือกตั้งสองใบ แต่สนาม กทม.คาดเดายากเสมอ ในเรื่องกระแสและนโยบายจึงมีส่วนสำคัญอย่างสูง
เมื่อถามว่า ในสนาม กทม.มีแต่พรรคที่คุ้นเคย เช่น พรรคภูมิใจไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายสกลธี กล่าวว่า ส่วนใหญ่ฐานเสียงขึ้นอยู่กับตัวผู้สมัคร ส.ส. ฉะนั้น ตนจะใช้ประสบการณ์ที่มีทั้งหมดทั้งการเป็นอดีต ส.ส.กทม. และอดีตรองผู้ว่าฯ กทม. ต่อยอดนโยบายตอนลงสมัครผู้ว่าฯ กทม. นโยบายสำคัญของแกนนำพรรค มาระดมสมองให้ตอบโจทย์พี่น้อง กทม.
เมื่อถามว่า มีกองเชียร์อยากให้ไปช่วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม มากกว่า พล.อ.ประวิตร นายสกลธี กล่าวว่า ตรงนี้ปฏิเสธไม่ได้ว่าเดิมทั้งสองท่านเคยอยู่ด้วยกัน ตนทราบดีว่า คนที่เชียร์ตนเป็นคนที่ชื่นชอบ พล.อ.ประยุทธ์ อยู่มาก แต่วันนี้อยู่ในจุดที่ตนต้องตัดสินใจ โดยที่ พปชร. พล.อ.ประวิตร ให้ตนทำได้เต็มที่ ฉะนั้น ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนที่เคยเชียร์อาจผิดหวังที่ไม่ไปช่วย พล.อ.ประยุทธ์ แต่ยืนยันว่า ยังเคารพ พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนเดิม
เมื่อถามอีกว่า จะกระทบฐานเสียงหรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ยอมรับว่าคงมี แต่ในเมื่อตัดสินใจแล้วต้องมีการเปลี่ยนบ้าง เราเห็นในหลายการเลือกตั้ง กทม.แล้วว่ามันจะชี้ขาดช่วงสัปดาห์สุดท้าย อย่างการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งที่แล้ว ตอนแรกมีการประเมินว่า ตนคงได้ไม่ลำดับที่ 5 แต่ในช่วงท้ายกระแสเพิ่มขึ้นเลือกตั้ง ส.ส.กทม.ครั้งนี้ มีผู้สมัครรับเลือกตั้งหลายพรรค มีการตัดคะแนนกัน จึงยังพูดไม่ได้
เมื่อถามว่า คิดว่ากระแส พปชร. จะสู้ รทสช.ได้หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ตอนนี้ยังวัดไม่ได้ เพราะกระแสของ กทม.ผูกกับตัวนายกฯ ฉะนั้น การที่นายกฯย้ายไปจาก พปชร. มีผลบ้างที่ทำให้ พปชร.ต้องกระเตื้องให้ได้ เป็นการบ้านที่พวกตนต้องทำให้กระแสพรรคกระเตื้องให้ได้ ตอบไม่ได้ว่าจะทำได้แค่ไหน แต่จะทำให้ดีที่สุด
เมื่อถามว่า แต่มีวิธีและกลยุทธ์แล้วใช่หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า มีแล้ว ซึ่งหัวหน้าพรรคให้อิสระตนเต็มที่ฉะนั้น จะพยายามคิดหลายๆ อย่าง ทั้งแคมเปญเรื่องการเดินหาเสียง จะพยายามตอบโจทย์ กทม.ให้ได้
เมื่อถามว่า ในส่วนของโซเชียลมีเดีย จะสู้กับพรรคก้าวไกลได้หรือไม่ นายสกลธี กล่าวว่า ตนคิดว่าทีมสมัยที่ตนสมัครผู้ว่าฯ กทม.ทำได้ดี เขาคงเอาทีมนั้นมาช่วย และจะมีทีมใหม่ๆ เสริมเข้ามา อุดช่องว่างที่พลาดไปตอนนั้น