รมว.ยธ.แจง “ตะวัน-แบม” ขอถอนประกันเองคดี ม.112 จึงต้องกลับเข้าคุก เหตุอยากได้อิสระเกินเงื่อนไขศาล ไม่เข้าใจต้องการอะไรมากกว่านั้น ชี้ บางพรรคเข้าผสมโรง เป็นอิสระของการแสดงออก ย้ำ คดีอยู่ศาล ราชฑัณฑ์มีหน้าที่ดูความปลอดภัยผู้ต้องขัง
วันนี้ (24 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงกรณีที่มีการจัดกิจกรรม “ยืน หยุด ขัง” เพื่อเรียกร้องสิทธิการประกันตัวให้ น.ส.ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ หรือ ตะวัน และ น.ส.อรวรรณ ภู่พงศ์ หรือ แบม ซึ่งเป็นผู้ต้องหาในคดีตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ที่หอศิลป์วัฒนธรรมแห่งกรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา ว่า เดิมศาลอนุญาตให้ประกันตัวบุคคลทั้งสองแล้ว ให้กลับไปอยู่ที่บ้านได้โดยต้องติดกำไรอีเอ็ม และมีการจำกัดบริเวณในการประกันตัว แต่ผู้ต้องขังทั้งสองไม่เต็มใจรับเงื่อนไขในการประกันตัวของศาล เขาจึงขอถอนประกัน ทำให้ทั้งสองต้องเข้ามาอยู่ในเรือนจำ ซึ่งตนไม่เข้าใจว่า สิ่งที่เขาต้องการอะไรที่มากไปกว่านี้ มันคืออะไร เนื่องจากศาลก็ให้ประกันตัวแล้ว แต่ติดตรงที่ทั้งสองคนต้องการได้รับอิสระมากกว่านั้น ทั้งนี้ ถ้า 2 คนอยากได้รับการประกันตัว ก็เป็นเรื่องของศาล ไม่ได้เกี่ยวกับหน่วยงานที่ตนกำกับดูแล ในส่วนหน่วยงานที่ตัวเองกำกับดูแล ก็ต้องทำหน้าที่อย่างดีที่สุดในการดูแลความปลอดภัยของบุคคลทั้งสอง โดยทำตามมาตรฐานการปฏิบัติงานต่างๆ ที่เกี่ยวกับเรือนจำ (Standard Operating Procedures : SOPs) แต่ตอนนี้พวกเขาอดข้าว อดน้ำ หรือทำการอะไรต่างๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีหัวหน้าพรรคและพรรคการเมืองบางพรรค เข้าไปทำกิจกรรมดังกล่าว แสดงออกในการเรียกร้องดังกล่าว จะถือว่ามีนัยการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า แนวปฏิบัติหรือการกระทำของพรรคการเมืองมักจะชอบเรื่องงานสังคมในลักษณะที่แตกต่างกันไป ซึ่งบางพรรคก็ชอบงานที่ทำเป็นรูปธรรม ก็แล้วแต่จะคิด เพราะประเทศของเรามีอิสระเสรีในการแสดงออก ใครรักใครชอบใครก็ว่ากันไป
เมื่อถามว่า แสดงว่า การที่มีพรรคการเมืองร่วมเรียกร้องดังกล่าว จะไม่ส่งผลกระทบกับคดีนี้ ใช่หรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เรื่องคดีความอยู่ที่ศาล ไม่ได้อยู่ที่กรมราชทัณฑ์ แต่กรมราชทัณฑ์มีหน้าที่ดูแลความปลอดภัยของผู้ต้องขัง ซึ่งตนได้กำชับอธิบดีกรมราชทัณฑ์แล้วว่าอย่าปล่อยให้มีอะไรผิดพลาด มิฉะนั้น จะทำให้มีเรื่องที่ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องกับตัวเรามากขึ้น