ข่าวปนคน คนปนข่าว
**ปมฟ้าผ่าดีเอสไอ “สมศักดิ์” สุดทน “ไตรยฤทธิ์” ตีมึนไม่ฟัน 5 จนท.ฉาว รับเงินกลุ่มทุนจีนสีเทา-เล่นพรรคเล่นพวก
เกิดรายการ “ฟ้าผ่า” เปรี้ยง! ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ ดีเอสไอ ที่กำลังทำคดีใหญ่อยู่หลายคดีเล่นเอาคนสงสัยงงเป็นไก่ตาแตกว่า อะไร?...ยังไง?
งานนี้คนถูกฟ้าผ่าเป็นถึง “อธิบดี” ไตรยฤทธิ์ เตมหิวงศ์ ซึ่งคนลงนามในคำสั่ง คือ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม โดยเซ็นแกร๊ก ลงวันที่ 18 ม.ค. 66 มีผลโดยทันที เด้ง “ไตรยฤทธิ์” จากอธิบดีดีเอสไอ ไปปฏิบัติหน้าที่ราชการที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และรักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ขณะเดียวกัน ก็โยก “พ.ต.ต.สุริยา สิงหกมล” จาก ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ มารักษาราชการแทนในตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ
สำหรับปมการโยกย้ายฟ้าผ่าครั้งนี้ ว่ากันว่า มาจากปัญหาการร้องเรียนเรื่องส่วนตัว และการทำงานที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาของ “ไตรยฤทธิ์”
ไล่ไปตั้งแต่เรื่องเจ้าหน้าที่เรียกรับเงินกลุ่มทุนจีนสีเทา การจัดซื้อจัดจ้าง การสอบแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการภายในกรม ที่เล่นพรรคเล่นพวก จนคนภายในกรมแตกแยกเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นองค์กรที่แทนที่จะได้ทำงานสางคดี กลับมีแต่เรื่องสอบสวนเมาท์มอยกันเอง
เรียกว่า เรื่องส่วนตัวก็อื้อฉาว เรื่องงานก็ห่วยแตก!!
ขณะที่ “ฟางเส้นสุดท้าย” ที่ทำให้ “สมศักดิ์ เทพสุทิน” รมว.ยุติธรรม ฟันโช๊ะ ตัดสินใจเด้ง “ไตรยฤทธิ์” ลงความเห็นกันว่า น่าจะเป็นประเด็นที่ รมว.สั่งการให้ไปดำเนินการกรณีเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่ไปเกี่ยวข้องกับการเข้าไปตรวจค้นสถานที่ที่อ้างว่า บ้านพักกงสุลนาอูรู ประจำประเทศไทย ซึ่งพบคนจีน 1 ราย เกี่ยวข้องกลุ่มทุนจีนสีเทา
ว่ากันว่า ปฏิบัติการตรวจค้นครั้งนั้น เจอเงินสดหลายล้าน ต่อมามีการร้องเรียนขึ้นมาว่าเงินสดดังกล่าวอันตรธานหายไปจำนวนมาก แถมยังมีประเด็นเรียกรับผลประโยชน์แลกกับการช่วยเหลือบุคคลต่างด้าวที่อยู่ในบ้าน เพื่อแลกกับการไม่ถูกจับกุม กรมฯ ได้สอบสวนพบว่ามีมูล จึงออกหมายจับเจ้าหน้าที่ดีเอสไอ ที่เกี่ยวข้อง 5 นาย ในเวลาต่อมา
จากเหตุการณ์นั้น “สมศักดิ์” ได้เรียก “ไตรยฤิทธิ์” ไปสอบถามข้อเท็จจริงและมอบหมายดีเอสไอ สั่งให้เจ้าหน้าที่ทั้ง 5 คน ที่ถูกหมายจับออกจากราชการไว้ก่อน แต่อธิบดี “ไตรยฤิทธิ์” ขณะนั้นก็ไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด
ขณะที่ประเด็นเรื่องครหาแต่งตั้งคนใกล้ตัว โดยให้ตั้งกรรมการสอบ “ไตรยฤิทธิ์” ก็รับปาก แต่ก็ไม่ดำเนินการเช่นกัน
เมื่ออธิบดีไม่ยอมทำตามสั่ง “รมว.สมศักดิ์” จึงต้องสั่งย้าย โดยมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันว่า ที่อธิบดีทำบ้าใบ้ ไม่หือไม่อือ กับคำสั่งของ “สมศักดิ์” ก่อนนี้ เพราะ
กลุ่มเจ้าหน้าที่ดีเอสไอที่ถูกออกหมายจับได้บอกกับคนใกล้ชิด ว่า ถ้าพวกเขาถูกให้ออกจากราชการจะแฉเรื่องราวทั้งหมด! ซึ่งก็ไม่มีใครรู้ว่า กลุ่มคนเหล่านั้นกุมความลับอะไรของใครไว้.. อย่างไร? แต่เชื่อกันว่า เป็นความลับที่ “ไตรยฤทธิ์” เองก็รู้ดี ไม่เช่นนั้น การต่อรองคงจะเป็นผล และลงเอยด้วยการยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำเสียเอง
งานนี้เข้าทำนอง “ยอมตายก็ไม่ปริปาก” แต่ก็มีบางกระแสในกรมสอบสวนคดีพิเศษ ที่เห็นอกเห็นใจ “ไตรยฤิทธิ์” มองว่า อาจจะถูก "วางยา" เพราะโดยพื้นฐานเขามาจากหมอ ความรู้ความเข้าใจในตัวบทกฎหมายไม่เท่าทันกลุ่มคนในกรม ที่เขี้ยวลากดิน ที่รู้ช่ำชองกฎหมาย ประกอบกับการเมืองภายในดีเอสไอ ก็รุนแรงแบ่งฝักแบ่งฝ่ายมาตั้งแต่ก่อตั้งองค์กรแล้ว คนที่เป็นเบอร์หนึ่ง ถ้าไม่ "เก๋าเกม" ก็อยู่ยาก
ฟังว่า กรณีที่เกิดขึ้นในกรมครั้งนี้ บั่นทอนจิตใจข้าราชการดีๆ ที่ตั้งใจทำงานอย่างมาก ถึงกับในไลน์กลุ่มรวมพลคนรักดีเอสไอ ได้นัดหมายในวันพฤหัสที่ 19 ม.ค. 66 นี้ ให้ข้าราชการ ลูกจ้าง กรมสอบสวนคดีพิเศษสวมเสื้อเหลืองมาทำงานเพื่อแสดงจุดยืนให้เห็นถึงการไม่ยอมรับการทุจริตของผู้บริหาร และพวกพ้อง
จากเหตุการณ์นี้ ย่อมต้องก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดีเอสไอ ซึ่งจะเปลี่ยนแปลงดีขึ้น หรือเลวร้ายลง นี่เป็นเรื่องที่ต้องติดตามกันต่อไป.
**“โรม” โวย “นอท กองสลากพลัส” จะตั้งพรรคการเมืองก็ตั้งไป อย่ามาเลียนแบบโลโก้ “ก้าวไกล”
ในวันที่เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ สนธิกำลังจากหลายหน่วยงาน บุกเข้าตรวจค้น “บริษัท ลอตเตอรี่ออนไลน์ จำกัด” เจ้าของแพลตฟอร์มจำหน่ายสลากกินแบ่ง “กองสลากพลัส” ที่มี “นอท” พันธ์ธวัช นาควิสุทธิ์ เป็น CEO เมื่อ 16 ม.ค.ที่ผ่านมา
วันนั้น “นอท” ได้กล่าวผ่านไลฟ์สด เพจเฟซบุ๊ก กองสลากพลัส ถึงกรณีเจ้าหน้าที่บุกตรวจค้นสำนักงานฯ ว่า ไม่ได้มีความกังวลใดๆ เพราะไม่ได้ทำผิด ...แล้วก็เลยถือโอกาสพูดถึงการตั้งพรรคการเมืองเพื่อลงสู้ศึกเลือกตั้งในครั้งนี้ด้วย นโยบายพรรค ชัดๆ ง่ายๆ หวังซื้อใจคอหวย คือแก้ปัญหาสลากแพง!!
“นอท” บอกว่า พรรคการเมืองของเขาชื่อพรรค “เปลี่ยน” ยื่นจดแจ้งจัดตั้งพรรคตั้งแต่ 31 ส.ค. 65 โลโก้พรรคก็มีแล้ว ขณะนี้รอแค่ กกต.รับรองเท่านั้น หาก กกต.รับรองพรรคเรียบร้อยแล้ว ก็จะเปิดรับสมัครสมาชิกทันที และในการเลือกตั้งครั้งหน้า เขาจะลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรค
“ที่ชื่อว่าพรรคเปลี่ยน เป็นการเปลี่ยนเพื่ออนาคต เปลี่ยนเพื่อกล้าพอ โลโก้ เป็น ป.ปลา ไขว้กัน เป็นหัวลูกศรขึ้น ตั้งใจเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งทุกอย่างให้ดีขึ้นในอนาคต ผมไม่มีอุดมการณ์การเมืองซ้าย หรือขวา เจอปัญหาตรงไหนก็แก้ปัญหา อยากแก้ปัญหาลอตเตอรี่ให้ได้จริง...”
คนที่เห็นรูปแบบและสีของโลโก้พรรคเปลี่ยน ก็ให้รู้สึกคุ้นตา เพราะคล้ายกับโลโก้พรรค “ก้าวไกล” อย่างกับแฝดคนละฝา
“รังสิมันต์ โรม” ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรคก้าวไกล เห็นแล้วก็แทบอดรนทนไม่ได้ ยิ่งเมื่อถูกคนถามถึง ก็เลยต้องออกแอกชัน ... บอกว่า โลโก้พรรคของ “นอท” ที่ออกมาแบบนั้น เข้าใจว่า เวลาพูดถึงความเปลี่ยนแปลง พูดถึงอนาคตในทางที่ดี ก็อาจจะทำให้นึกถึงโลโก้ของพรรคก้าวไกล เพราะพรรคก้าวไกล ก็เป็นพรรคที่นำเสนอเรื่องการเปลี่ยนแปลงในสังคมไทย จึงอาจทำให้เขาคิดถึงตรงนี้
มองว่า เป็นเรื่องบังเอิญหรือเปล่า ...การออกแบบโลโก้ให้คล้ายกัน ในเชิงการเมือง เรื่องบังเอิญนั้นเป็นเรื่องหายาก!!
“โรม” บอกว่า ในการสร้างพรรคการเมือง ควรจะมีคาแรคเตอร์ ที่ชัดเจน มีโลโก้ที่เป็นของตัวเอง ไม่ใช่มองแล้วไปคิดถึงอีกพรรคหนึ่ง ซึ่งผมคิดว่าไม่ใช่แนวทางที่น่าสนับสนุน
พูดง่ายๆ ว่า ไปเปลี่ยนเถอะ เอาให้ต่างจากพรรคก้าวไกลหน่อย!!
ล่าสุด “นอท กองสลากพลัส” ได้โพสต์เฟซบุ๊กตอบโต้ว่า เคยชื่นชม “รังสิมันต์ โรม” ในบทบาทนักเคลื่อนไหวทางการเมือง และในฐานะนักการเมืองฝ่ายค้าน... แต่วันนี้ ขออนุญาตเข้าใจผิด รังสิมันต์ โรม นิดนึง เพราะผมคิดว่า คุณรังสิมันต์ โรม ตั้งใจ “ดูถูก” ความคิดของผมและทีมงาน ... ประโยคที่ว่า “มองว่าในเชิงการเมือง เรื่องบังเอิญ เป็นเรื่องหายาก” เท่ากับเป็นการมองว่า โลโก้พรรคที่ผมและทีมงานช่วยกันพัฒนา ตั้งใจลอกโลโก้พรรคก้าวไกล
“นอท” บอกถึงที่มา โลโก้พรรคว่าต้องการใช้ “ปอปลา” เป็นเมนหลัก มีการออกแบบมาหลายแบบมาก เมื่อออกแบบไปเรื่อยๆ ก็เห็นว่า ปอปลา สามารถมองได้ใกล้เคียงกับเครื่องหมายถูก ก็เหมือนหัวลูกศร แต่เป็นหัวลูกศรพุ่งลง มีการปรับไปปรับมาหลายครั้งและบังเอิญไปเห็นโลโก้สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยด้วย สุดท้ายก็มาจบที่โลโก้ที่เห็นในปัจจุบัน
...ผมไม่เคยคิดถึงพรรคก้าวไกลเลย ถ้าจะยกเครดิตให้เรื่องโลโก้ ผมน่าจะยกให้ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย มากกว่า... สำหรับเรื่องแนวทางการทำพรรคการเมือง ผมก็ไม่ได้คิดจะทำพรรคการเมืองแบบเดียวกับพรรคก้าวไกล...