xs
xsm
sm
md
lg

“บิ๊กป้อม” นำ พปชร.เปิดนโยบาย ชูเพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 ต่อเดือน ลั่นถ้าเลือกพร้อมเป็นนายกฯ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



พปชร. คึกคัก “ประวิตร” นำคณะเปิดนโยบาย ชู เพิ่มเงินบัตรสวัสดิการ 700 ต่อเดือน ประกาศทำทันทีถ้าได้เป็นรัฐบาล รับพร้อมเป็นนายกฯ คนที่ 30 ขอให้เลือก ผุดสโลแกน “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่”

วันนี้ (17 ม.ค.) พรรคพลังประชารัฐ พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พร้อมด้วย นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค และกรรมการบริหารพรรค ร่วมกันแถลงข่าวเปิดนโยบายหลักของพรรค และนโยบายบัตรประชารัฐ เพื่อรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง โดยมีคณะผู้บริหารพรรค สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. เข้าร่วมงานอย่างพร้อมเพรียง

โดย พลเอก ประวิตร กล่าวว่า จากการที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลและบริหารประเทศมาเกือบ 4 ปี ด้วยอุดมการณ์และนโยบายของพรรคที่ยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข สร้างความสามัคคีปรองดองของคนในชาติ เป็นประชาธิปไตยที่มีเสถียรภาพไร้ความขัดแย้งสังคมสงบสุข ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น และในช่วงที่ผ่านมา พรรคพลังประชารัฐในฐานะแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ได้ขับเคลื่อนนโยบายของพรรค และมีผลงานที่เป็นรูปธรรม ได้รับตอบรับจากพี่น้องประชาชน ทั้งในทางด้านเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำตามนโยบายของพรรค ในเรื่องการสร้างสวัสดิการประชารัฐ ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การบริหารจัดการน้ำ การจัดที่ดินทำกิน การปราบปรามการค้ามนุษย์ อุตสาหกรรมประมง และอื่นๆ ที่มากมาย

“ความหวังของคนไทย ที่รอคอยให้คนที่มีความพร้อมเข้ามาแก้ไขปัญหาให้กับคนไทย คือ “สังคมไทยยังคงมีแตกแยกทางความคิด” แต่ขอยืนยันว่า พรรคพลังประชารัฐพร้อมสานสัมพันธ์กับทุกฝ่าย เพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง เดินหน้าสร้างพลังแห่งความปรองดองและสามัคคี โดยเราพร้อมร่วมมือกับทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกัน เพื่อนำพาประเทศไทยไปสู่เป้าหมายที่ดีที่สุดสำหรับคนไทยทุกคน โดยประเทศไทยของเราต้องมีแต่ความสงบสุข”

การเลือกตั้งที่จะมาถึง ผมขอนำเสนอบุคลากรของพรรคที่มีคุณภาพ และเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนได้อย่างถ่องแท้ เพราะเราเข้าใจว่าในความต้องการของแต่ละพื้นที่ และพร้อมอาสาเข้ามาเป็นผู้แทนในการแก้ปัญหา เพื่อพัฒนาประเทศให้เกิดความยั่งยืน โดยทางพรรคพร้อมสานต่อนโยบายที่เป็นประโยชน์กับประชาชน ที่ได้ทำไว้ และริเริ่มนโยบายใหม่ๆ ให้คนไทยได้เห็นถึงความมุ่งมั่นของพรรคพลังประชารัฐ ที่จะตอบสนองและแก้ไข ปัญหาความเดือดร้อนให้กับประชาชน ทุกพื้นที่ทุกเพศทุกวัย ด้วยคำว่า พลัง สามัคคี ประชามีสุข รัฐพลิกโฉมบริการ

ทั้งนี้ พลเอก ประวิตร ได้ประกาศพร้อมเดินหน้าการจัดทำนโยบายบัตรประชารัฐ 700 บาทต่อเดือน ให้กับประชาชน และพร้อมเริ่มมีผลทันทีหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล

ด้าน นายสันติ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ดำเนินการบัตรประชารัฐมาเป็นระยะเวลา 4 ปี เพื่อช่วยเหลือประชาชนในระดับฐานราก และกลุ่มเปราะบาง โดยในปี 2566 จะมีประมาณ 18 ล้านคน ถือเป็น 1 ใน 4 ของประชากรทั้งประเทศ โดยพลเอก ประวิตร มองว่า จำนวนเงิน 200-300 บาทต่อเดือน ไม่เพียงพอกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น และยังไม่ครอบคลุมค่าครองชีพที่ปรับตัวสูงขึ้นในปัจจุบัน เพราะในแต่ละพื้นที่มีสภาพเศรษฐกิจและค่าครองชีพที่แตกต่างกัน ดังนั้น เสียงสะท้อนจากผู้ได้รับสิทธิว่า ที่นำไปใช้จ่ายในครัวเรือน โดยเฉพาะในการซื้อเครื่องอุปโภคและบริโภคที่จำเป็น ทำให้ประเมินว่า ควรมีการเพิ่มเงินช่วยเหลือ อีกประมาณ 500 บาท ทำให้พี่น้องประชาชน มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น แม้ว่าเงินที่ได้รับอาจจะไม่เพียงพอ ที่จะนำไปแก้ไขปัญหาได้ครอบคลุมในทุกด้าน สอดรับกับการจัดสรรงบประมาณที่ช่วยเหลือประชาชน เพิ่มขึ้น

โดยในส่วนงบประมาณที่จะนำมาใช้เพื่อเพิ่มวงเงินในบัตรประชารัฐ จะนำมาจากงบประมาณในช่วง 3 เดือนสุดท้าย ของงบประมาณปี 2566 หลังจากได้รับเลือกตั้ง ทั้งนี้หากมีผู้ได้รับสิทธิ์ ประมาณ 18 ล้านคน คาดว่าจะต้องใช้งบประมาณเดือนละ 1.2 หมื่นล้านบาท หรือ ปีละ 1.5 แสนล้านบาท

“ประชาชนจะได้รับเงินเยียวยา ช่วยเหลือ เดือนละ 700 บาท ทันทีหลังจากที่พรรคพลังประชารัฐได้รับความไว้วางใจ จากพี่น้องประชาชนให้เข้าไปบริหารประเทศ”

ด้าน นายวิรัช รัตนเศรษฐ ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค พปชร. กล่าวว่า คำขวัญของ พปชร.คือ ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่ เริ่มต้นคือการเพิ่มเงิน 700 บาท ซึ่ง พปชร.จะสานต่อนโยบายเดิม นโยบายนี้เวลาไปพื้นที่ ประชาชนมักจะถามว่าได้เมื่อไหร่ เรายืนยันว่า หลังเลือกตั้ง พ.ค. แล้ว จากนั้น มิ.ย.ท่านจะได้ใช้เลยทั่วประเทศ อย่างไรก็ตาม นโยบายยังไม่หมด เราจะเปิดไปเรื่อยๆ

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวถามได้สอบถาม พล.อ.ประวิตร ว่า พล.อ.ประวิตร พร้อมที่จะเป็นนายกฯ คนที่ 30 หรือไม่ โดย พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็เลือกมาดิ ถ้าเลือกได้ก็เป็น ถ้าประชาชนเลือกได้ให้ผมเป็นผมก็เป็น” ทันทีที่สิ้นคำตอบบรรดาแกนนำพรรคต่างส่งเสียงเฮกันดังลั่นห้อง

ผู้สื่อข่าวถามอีกว่า พร้อมจับมือกับทุกพรรคการเมืองใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เราก้าวข้ามความขัดแย้ง ตนไม่ได้บอกว่า ตนจะจับมือกับใครเลย ทุกพรรคเรามาคุยกันได้ เปิดโอกาสให้คุยกันได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เป็นไปอย่างคึกคัก บรรดารัฐมนตรี นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.ยุติธรรม น.ส.ตรีนุช เทียนทอง รมว.ศึกษาธิการ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ รมช.คลัง นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิก แกนนำ ส.ส.รวมถึงว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรค เดินทางมาร่วมงานคับคั่ง

โดยบริเวณด้านหน้าที่ทำการพรรค และโดยรอบพรรค ได้ติดป้ายสโลแกน “ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขจัดทุกปัญหา พัฒนาทุกพื้นที่” ตามนโยบายหัวหน้าพรรค เพื่อใช้สำหรับหาเสียง และเตรียมให้ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ติดป้ายในแต่ละพื้นที่เพื่อประชาสัมพันธ์พรรค

สำหรับนโยบายที่เตรียมหาเสียง จำนวน 104 นโยบาย ครอบคลุม 16 ด้าน โดยชูนโยบายที่เป็นไฮไลต์ “บัตรประชารัฐ เพิ่มเงิน-เพิ่มสวัสดิการ ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 700 บาทต่อเดือน เป็นการสานต่อนโยบาย บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สำหรับประชาชนไปใช้จ่ายในครัวเรือน เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ในการเป็นค่าโดยสารรถสาธารณะ ค่าสาธารณูปโภค ก๊าซหุงต้ม ไฟฟ้าและน้ำประปา ขณะที่นโยบายด้านอื่นจะทยอยแถลงเป็นระยะ


กำลังโหลดความคิดเห็น