วันนี้ ( 14 ม.ค. ) ที่ทำการพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ พร้อมด้วย นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ,น.ส.วทันยา บุนนาค ประธานคณะทำงานนวัตกรรมการเมืองกรุงเทพมหานคร พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมทำกิจกรรมงานวันเด็กของพรรคประชาธิปัตย์ในโครงการ “ฟัง-คิด-ทำ” ตอน คิด-สร้างคน
โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า พรรคให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับงานวันเด็ก เพราะเด็กเยาวชนคืออนาคตของชาติ และช่วงเวลาที่ผ่านมาเป็นรัฐบาลทำงานก็ยึดเด็ก เยาวชนเป็นศูนย์กลางในการพัฒนาประเทศ โดยคำขวัญปี 2566 คือ “รู้หน้าที่ มีวินัย ใฝ่ความดี” ซึ่งถือเป็นคุณสมบัติพื้นฐานของเยาวชนที่จะเติบโตไปเป็นบุคลากรสำคัญของประเทศ คำขวัญวันเด็กอย่างเดียวคงยังไม่พอ แต่ต้องมีมากกว่านั้นคือยุทธศาสตร์ทิศทางนโยบายที่จะขับเคลื่อนเด็กเยาวชนไปข้างหน้าเพื่อให้เป็นอนาคตของชาติที่มีศักยภาพต่อไปด้วย
“วันนี้แม้ไม่มีของขวัญวันเด็กมาแจกน้องที่มาร่วมงานเนื่องจากติดเงื่อนไขใกล้เลือกตั้ง แต่พรรคมีของขวัญเป็นนโยบายสำคัญ ที่จะเป็นประโยชน์ ต่อการขับเคลื่อนพัฒนาเด็กและเยาวชนต่อไปภายใต้ยุทธศาสตร์ 3 ข้อคือสร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ” นายจุรินทร์ กล่าว
นายจุรินทร์ กล่าวต่อว่า พรรคประชาธิปัตย์เห็นความสำคัญกับการพัฒนาเยาวชน แม้วันนี้จะไม่มีของขวัญที่เป็นสิ่งของ แต่พรรคประชาธิปัตย์มีของขัญวันเด็กที่เป็นนโยบายสำคัญถ้าพรรคประชาธิปัตย์ได้มีโอกาสเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลภายหลังการเลือกตั้ง โดยตั้งใจจะทำนโยบาย 5 ฟรี สำหรับการขับเคลื่อนการศึกษาเด็กและเยาวชน
1.เดินหน้าต่อนโยบาย “เรียนฟรี” ซึ่งพรรคแระชาธิปัตย์ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2552 สมัยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี และตนเป็นรัฐมนตรีว่าการกนะทรวงศึกษาธิการ
2.รักษาฟรี เป็นนโยบายที่พรรคประชาธิปัตย์ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่นายชวน หลีกภัย อดีตนายกรัฐมนตรี ในสมัยที่ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยให้เด็กและเยาวชนรักษาฟรี ซึ่งจะเดินหน้าต่อไปและพัฒนาให้มีศักยภาพมากขึ้น
3.จัดให้มี “นมโรงเรียนฟรี” ที่มีการเริ่มต้นมาตั้งแต่สมัยนายชวน หลีกภัย โดยจะเดินหน้าต่อและจะขยายให้มีนมโรงเรียนฟรี 365 วัน เพื่อสร้างคน สร้างชาติต่อไปในอนาคต
4.”อาหารกลางวันฟรี” ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ก็เป็นหนึ่งในพรรคการเมืองในรัฐบาลที่เป็น ผู้เริ่มต้นให้เด็กได้กินอาหารกลางวันฟรี โดยปัจจุบันมีอาหารฟรีตั้งแต่ชั้นอนุบาลจนถึงชั้น ป.6 และจะเดินหน้าต่อไป
5.เด็กอายุ 0-6 ขวบ ที่ทุกวันนี้มีเงินสนับสนุนแม่ 600 บาทต่อเดือน แต่ยังได้รับไม่ทั่วถึง ซึ่งหากพรรคประชาธิปัตย์ได้เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลจะเดินหน้าต่อ และจะต้องได้รับแบบถ้วนหน้าทุกคน