ปชป.ฉายหนังตัวอย่าง เปิด 8 นโยบายสร้างเงินช่วยเกษตร-ประมง ที่ดินทำกิน-นมโรงเรียน ชี้ เป็นการสร้างฐานรากมั่นคง เผยเดือน ก.พ.เปิดรายละเอียด 3 ชุดนโยบาย เชื่อโดนใจคนส่วนใหญ่ของประเทศ
วันนี้ (13 ม.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นำโดย นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค นายนิพนธ์ บุญญามณี รองหัวหน้าพรรค ผู้บริหารพรรค ส.ส. อดีต ส.ส. ส.ก. และอดีต ส.ก.และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ร่วมกันเปิดตัวนโยบายพรรค 8 นโยบายหลักด้านการเกษตร อยู่ในหมวดนโยบายเรื่อง “สร้างเงิน” ซึ่งเป็นการเสนอภาพรวมที่ใช้ในการหาเสียงเลือกตั้ง
โดย นายจุรินทร์ กล่าวว่า ขณะนี้ต้องถือว่าเรากำลังเดินเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง เพราะวาระไม่ว่าจะเป็นรัฐบาลหรือฝ่ายนิติบัญญัตติก็อยู่ได้ไกลสุดไม่เกินวันที่ 23 มีนาคมนี้ จึงเหลือเวลาอีกแค่ 2 เดือนเศษ ก็จะมีการเลือกตั้ง สำหรับ ปชป.ได้แสดงความพร้อมมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่ว่าะจเป็นตัวบุคคลหรือส่วนที่เกี่ยวข้องกับนโยบาย ซึ่งนโยบายนั้ยก่อนหน้านี้ได้มีการเปิดยุทธศาสตร์ไปแล้วหาก ปชป.เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล โดยก็จะเป็นยุทธศาสตร์ที่จะทำให้ประเทศไปสู่อนาคตที่สดใส คือ สร้างเงิน สร้างคน สร้างชาติ
“วันนี้ ปชป.เปิดตัว 8 นโยบายทางด้านการเกษตร และนโยบายหลักในการพัฒนาหมู่บ้าน ชุมชน ที่กระจายอยู่ทั่วประเทศและใน กทม.โดยเหตุที่ ปชป. เล็งเห็นว่า นโยบายที่เกี่ยวข้องกับชุมชนและหมู่บ้านนั้น เป็นนโยบายที่พัฒนาเศรษฐกิจฐานรากให้ประเทศต่อไป และพัฒนาพื้นที่ชนบทต่อไปในอนาคต โดยเฉพาะนโยบายด้านการกเษตร ที่เป็นดีเอ็นดีเด็นเอ ของประเทศต่อไป เพราะประชากรไม่ต่ำว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของประเทศ ส่วนใหญ่มีอาชีพเป็นเกษตรกรรม” นายจุรินทร์ กล่าว
ด้าน นายเฉลิมชัย กล่าวว่า ระยะเวลา 2 ปี เราทำและมีการสอบถามความพึงพอใจจากประชาชน วันนี้นโยบายจะเป็นนโยบายเริ่มต้นฐานรากของประชาชนชาวไทย และเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืน เป็นรูปธรรม เราไม่ต้องการเพียงแค่คะแนนเสียงอย่างเดียว ทั้ง 8 นโยบาย คือ 1. การประกันรายได้ เกษตรกร ซึ่งเป็นการจ่ายเงินส่วนต่าง ทั้งข้าว มัน ยางปาล์ม และข้าวโพด ซึ่งจะเป็การสานต่อนโยบายเดิมมราพรรคทำอยู่ 2. นโยบายให้เกษตรที่ปลูกข้าว คือ ชาวนา รับ 3 หมื่นบาท ต่อ 1 ครัวเรือน เพราะวันนี้ ปชป.ทำนโยบายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนามากกว่าที่เราจะให้เงินไปเพื่อให้เขาเลือกเราแต่เป็นการสร้างความเข้มแข็งอย่างยั้งยืน
3. ฟรีนมโรงเรียน 365 วัน เป็นการพัฒนาเด็กที่เป็นทรัพยากรในวันข้างหน้า และให้เกษตรกรที่เลี้ยงโคนมได้ผลิตนมด้วย 4. ประมงท้องถิ่น เป็นการให้เงินอุดหนุนกับประมง 1 แสนบาทต่อปี ทั้ง 2,800 กลุ่ม 5. ปลดล็อกประมงพาณิชย์ ต้องอยู่ภายใต้ ไอยูยู พราะว่าเรายังต้องอยู่กับสากลอยู่กับนานาประเทศ 6. สิทธิที่ดินทำกิน คือ การออกโฉนดที่ดิน 1 ล้านแปลงภายใน 4 ปี ซึ่งจะเป็นการแก้ปัญหาของพี่น้องที่ไม่มีที่ดินทำกิน อยู่ในที่รกร้างว่างเปล่า 7. ออกกรรมสิทธิ์ที่ดินทำกินให้กับพี่น้องประชาชนที่ยังอยู่ในพื้นที่ที่ยังเป็นกรรมสิทธิ์ของรัฐ และ 8. ธนาคารหมู่บ้าน และชุมชน แห่งละ 2 ล้านบาททั้งประเทศ รวมทั้งในกรุงเทพฯทุกชุมชนด้วย
“นโยบายทั้งหมดจะมีการชี้แจงรายละเอียดให้ทราบต่อไป เพราะต้องแจ้งข้อมูลทั้งหมดให้กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยืนยันว่า นโยบายทั้งหมดเป็นสิ่งท่เราคิดมาแล้ว และจะต้องมีมาตรการควบคุมเพื่อให้หน่วยงานของรัฐบางหน่วยไปเป็นที่เลี้ยงในการพัฒน ซึ่งถือว่านโยบายชัดเจนที่สุดว่าความเข้มแข็งของประเทศ ต้องเกิดจากความเข้มแข็งของฐานราก เราแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ไม่ได้แก้ไขปัญหาเพื่อจูงใจเรียกคะแนนเสียงจากผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง เพราะฉะนั้นนโยบายทั้งหมด จึงเป็นนโยบายส่วนหนึ่งที่เราเอามาเปิดให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบว่าปชปงจะทำอะไรให้ท่านบ้างในการเลือกตั้งครั้งหน้า” นายเฉลิมชัย กล่าว
ด้าน นายนิพนธ์ กล่าวว่า การแถลงข่าววันนี้เป็นการแถลงนโยบายภาพรวม ซึ่งอยู่ในยุทธศาสตร์หลัก ในหมวดสร้างเงิน กลุ่มเกษตร ซึ่งจะสามารถช่วยเหลือประชาชนได้ จำนวน 9.7 ล้านครัวเรือน หลังจากนี้พรรคฯจะเตรียมเปิดนโยบายในหมวดสร้างคน ในปลายเดือนนี้ และในหมวดสร้างชาติประมาณต้นเดือน ก.พ. จากนั้นจะได้ลงรายละเอียดของนโยบายทั้งหมดในเดือนก.พ.ด้วย ซึ่งกำลังพิจารณาวันและเวลาที่เหมาะสมต่อไป ทั้งการที่พรรคเปิดนโยบานบางส่วนเพราะต้องการให้ประชาชนจดจำว่าพรรคฯจะทำอะไรให้บ้าง หากเปิดพร้อมกันทั้งหมดตั้งแต่ตอนนี้เกรงว่าจะไม่ได้ผล เพราะเรามีบทเรียนมาแล้วว่า ประชาชนจะจำนโยบายแค่เรื่องเดียว ทั้งนี้ตนมั่นใจว่านโยบายของปชป.ที่ออกไป จะถูกใจประชาชน เพราะส่วนใหญ่เป็นเกษตรกร
เมื่อถามว่า นโยบายชาวนารับ 30,000 บาท เชื่อว่า จะสร้างความเข้มแข็งให้ชาวนาเพียงพอหรือไม่ นายเฉลิมชัย กล่าวว่า นโยบายนี้เราคิดแล้วว่าต้องมีมาตรการควบคู่ไม่ใช่มีแค่มาตรการนี้ ตนถึงบอกว่าจะมีภาค 2 โดยจะมีหน่วยงานของรัฐบาลบางหน่วยเป็นพี่เลี้ยงในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าว เพื่อลดต้นทุนเพิ่มผลผลิต ซึ่งจะต้องทำควบคู่กันไป ตนขอเวลาแล้วจะแถลงภาพรวมให้เห็นมากขึ้น
เมื่อถามว่า นโยบายดังกล่าวจะนำงบประมาณจากส่วนใดมาใช้ นายจุรินทร์ กล่าวว่า ตนจะเรียนให้ทราบต่อไป แต่ตอนคิด คิดครบแล้ว และเป็นหน้าที่ของพรรคการเมืองที่ต้องแจ้งต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งเรื่องของเงิน ดังนั้น ไม่ต้องห่วงพรรคประชาธิปัตย์คิดนโยบายบนพื้นฐานของสิ่งที่ได้ทำมาแล้วส่วนหนึ่ง และทำได้จริงเพราะอยู่บนพื้นฐานของความรับผิดชอบ
เมื่อถามถึงนโยบายภาคจะเปิดได้เมื่อใด นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะพิจารณาตามความเหมาะสมต่อไป เพราะนโยบายภาคก็จะมีเฉพาะภาคในเรื่องสำคัญๆ ส่วนเรื่องความพร้อมในการเปิดตัวผู้สมัคร รายจังหวัด และกรุงเทพฯ จะเปิดได้ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ และในอีก 2-3 วันนี้พรรคจะไปเปิดตัวในภาคเหนือ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า พรรคมีความพร้อมเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ครบทั้ง 400 เขต
ต่อข้อถามว่า กังวลหรือไม่ที่คนของ ปชป.ย้ายไปพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) และจะเกิดการแบ่งคะแนนกัน นายจุรินทร์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะไม่มีอะไรใหม่ เป็นเรื่องที่ทราบอยู่นานแล้ว ซึ่งพรรค ปชป.ก็มีผู้สมัครเตรียมการไว้แล้ว จึงไม่กระทบเป้าหมายหลัก