“สันติ” อวย “บิ๊กป้อม” เหมาะเป็นนายกฯ มากกว่า “บิ๊กตู่” เผย พปชร.เตรียมประชุมพรรค ชู “ประวิตร” เป็นแคนดิเดตนายกฯ คนเดียว
วันนี้ (10 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.15 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง ในฐานะเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ในเดือน ม.ค.นี้ จะมีการประชุมพรรค พปชร.และประกาศให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรค พปชร.เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งจะกำหนดวันประชุมภายใน 2-4 วันนี้ โดยจะชูให้พล.อ.ประวิตร เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพียงคนเดียว เพื่อให้พรรคประสบความสำเร็จและเกิดความมั่นใจกับประชาชน แต่ก็ขึ้นอยู่กับกรรมการบริหารพรรค และในพรรคขณะนี้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ทั้งนี้ ยืนยันว่า พล.อ.ประวิตร จะรับตำแหน่งนี้ เพราะเป็นหัวหน้าพรรค และได้ทำประโยชน์เพื่อบ้านเมืองมาตลอดชีวิต หากกรรมการบริหารพรรคเห็นว่าพล.อ.ประวิตร เหมาะสม เพื่อจะพัฒนาบ้านเมือง ด้วยการเป็นเบอร์หนึ่ง นำพาการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคง ความอยู่ดีกินดี ของประชาชน ดังนั้น พล.อ.ประวิตร จะไม่รับตำแหน่งนี้ได้อย่างไร เพราะได้เสียสละเพื่อชาติมาโดยตลอดแล้ว
เมื่อถามว่า พล.อ.ประวิตรเหมาะสมที่จะเป็นนายกฯคนต่อไปใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ใช่
เมื่อถามย้ำต่อว่า แสดงว่า พล.อ.ประวิตร เหมาะสมเป็นนายกฯ มากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ใช่หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ใช่ท่านเหมาะมาก เพราะเป็นทหาร และยังมีความรู้ด้านเศรษฐกิจ รวมทั้งอีกสิ่งหนึ่งที่หลายคนไม่รู้คือมีความสามารถในการใช้คนทำงาน แต่ละภาคส่วน เช่น การบริหารจัดการน้ำ การจัดการที่ดิน ซึ่งต่างประสบผลสำเร็จ
เมื่อถามถึงการเปิดตัวของพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หวั่นไหวหรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า ไม่ได้รู้สึกหวั่นไหวใดๆ เนื่องจากในอนาคต เมื่อใครทำดีก็ต้องทำให้ดีมากกว่า ขณะที่การส่งผู้สมัคร ส.ส. อาจจะชนกันในบางพื้นที่ก็ชนกันทุกพรรค และก็เป็นเรื่องการเมือง หากหลีกให้กันประชาชนจะยอมรับได้หรือ ประชาชนก็ไม่ได้เลือกตัดอำนาจประชาชน ดังนั้น สู้เต็มที่ในทุกเขต ยืนยันไม่มีการดิวพรรคพี่พรรคน้องให้หลบกันในแต่ละพื้นที่อย่างแน่นอน ทั้งนี้การที่ ส.ส.จะย้ายพรรค เชื่อว่าทุกคนมีวุฒิภาวะ ถึงแม้พรรคจะเช็คลิสต์บัญชีรายชื่อล่าสุดก็เกิดการเปลี่ยนแปลงได้ เพราะคนจะไป ไม่สามารถที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ในฐานะเลขาฯพรรค ก็จะต้องทำหน้าที่หาคนใหม่ที่ดีกว่ามาสำรองไว้เพราะพรรคก็หาคนที่มีความตั้งใจมาสำรองไว้ เป็นหลักประกัน ดังนั้น ส.ส.ที่จะย้ายไปย้ายมาต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วน
เมื่อถามว่า จะมีการจับมือกับพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) หรือไม่นั้น นายสันติ กล่าวว่า หัวหน้าพรรคของเรามีความสัมพันธ์ที่ดีกับทุกคน ฉะนั้น จะไปรังเกียจ ส.ส.ต่างพรรคไม่ได้ เพราะประชาชนได้เลือกเข้ามาแล้ว และตอนนี้ยังไม่ได้คิดว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับพรรคใด รอให้ประชาชนได้เลือกตั้งก่อน โดยเฉพาะเลือกพรรค พปชร.ให้มากๆ หากเลือกมาเป็นอันดับหนึ่ง เกินครึ่งก็ไม่มีความจำเป็นต้องจับมือร่วมกับใครและเดินหน้านโยบายของพรรคอย่างเต็มที่ต่อไป ซึ่งเตรียมเปิดนโยบายพรรคในเร็วๆ นี้
เมื่อถามย้ำว่า แสดงว่า ยินดีร่วมกับทุกภาครวมถึงพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นานสันติ กล่าวว่า อย่างเพิ่งไปคิดตอนนั้นให้ประชาชนเลือกเราให้มากๆ ก่อน เลือกพรรคพลังประชารัฐเป็นอันดับหนึ่ง ได้ ส.ส. เกินครึ่ง ก็ไม่มีความจำเป็นต้องร่วมกับใครได้ใช้นโยบายของ ที่มีความตั้งใจจะประกาศออกมาเร็วๆนี้ ได้เต็มประสิทธิภาพ 100% ส่วนจะสามารถปลุกกระแสพรรคพลังประชารัฐแลนด์สไลด์ได้หรือไม่ นายสันติ กล่าวว่า เราก็พยายามอยู่แต่ไม่อยากคุย
อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่ นายสันติ ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอยู่ นายกรัฐมนตรี ได้เดินออกมาจากตึกสินติไมตรี เพื่อเข้าห้องรับรองก่อนเริ่มประชุม โดยนายกรัฐมนตรีไม่ได้หันมามองมีเพียง พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ที่หยุดฟัง และโบกมือให้กับสื่อมวลชน.
