“กรณ์” ผุดโครงการแก้หนี้ เตรียมชงนโยบาย “ชาติพัฒนากล้า” รื้อโครงการระบบการเงิน-บูโร ช่วยคนไทย ปูพรมขึ้นป้าย “ยกเลิกแบล็กลิสต์ รื้อระบบสินเชื่อ” ทั่วประเทศ
วันนี้ (7 ม.ค.) นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า ตนในฐานะหัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ตระหนักดีว่า คำว่า “หนี้” ไม่มีใครอยากเป็น แต่เวลาเป็นแล้ว ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะหลุดจากวงจรนี้ ซึ่งนอกจากนโยบายหาเงินให้คนไทยแล้ว การแก้หนี้คือความเร่งรีบอันดับต้นๆ ที่ตนต้องการแก้ และเคยทำมาแล้วในอดีต ไม่ว่าจะเป็น ปี 2552 แก้หนี้นอกระบบ 5 แสนราย ปี 2553 ปรับโครงสร้างหนี้กองทุนฟื้นฟู-เกษตรกร ปี 2554 ออกกฎหมาย “กองทุนการออมแห่งชาติ” (กอช.) ปี 2559 ก่อตั้ง Refinn ช่วยคนไทยแก้หนี้ที่อยู่อาศัย ปี 2565 โครงการ “กล้าปลดหนี้” ช่วยคนไทยเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ และ ปี 2566 นโยบาย “ยกเลิกแบล็กลิสต์” เสนอระบบ Credit Score
ส่วนกรณีที่มีบางคนระบุว่า คนที่เป็นหนี้คือคนที่ไม่มีวินัยทางการเงิน หัวหน้าพรรคชาติพัฒนากล้า กล่าวว่า อาจถูกส่วนหนึ่ง แต่ก็ไม่เป็นความจริงเสมอไป ในหลายๆ ครั้ง เกิดจากวิกฤตที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น วิกฤตโควิด ที่ทำให้ผู้ประกอบการและ SME เป็นจำนวนมาก ชักหน้าไม่ถึงหลัง และการกู้ยืมในระบบทำได้ยาก ตนในฐานะนักการเงินไม่อยากให้เกิดที่สุด คือ การกู้หนี้นอกระบบ การช่วยเหลือและออกนโยบายต่างๆ ก็เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิ่งนี้ เพราะอย่างที่รู้ๆ กันว่าดอกเบี้ยโหดมาก และยากที่จะคืนเงินต้นได้ การติดแบล็กลิสต์ก็เช่นกัน ต่อให้ใช้หนี้ครบแล้ว ยังขึ้นจากเหวนี้ไม่ง่าย ตนจึงเสนอนโยบายปลดแบล็กลิสต์ แล้วใช้ระบบ Credit Scoring แทน ใครเครดิตดีก็กู้ได้มาก เครดิตไม่ดีก็กู้ได้น้อย นี่ก็เป็นวินัยทางการกู้รูปแบบหนึ่ง ที่ช่วยให้คนเป็นหนี้ขึ้นมาจากเหวได้
“เมื่อพวกเขาปลดหนี้ได้แล้ว ชีวิตจึงจะเดินหน้าต่อไปได้ เพื่อให้เศรษฐกิจระดับประเทศมันหมุนต่อไป มารื้อโครงสร้างสินเชื่อ เพื่อชีวิตใหม่ที่เดินต่อไปข้างหน้าได้ ด้วยกันนะครับ” นายกรณ์ กล่าว
ทั้งนี้ พรรคชาติพัฒนากล้า ยังได้ออกป้ายชุดนโยบายเผยแพร่ทั่วพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล และจะขยายไปยังทั่วประเทศ โดยชู “ยกเลิกแบล็กลิสต์ รื้อระบบสินเชื่อ” ซึ่งเบื้องต้นได้รับเสียงตอบรับเป็นบวกจากกลุ่มคนทำมาค้าขาย และ SME ที่ได้รับผลกระทบหนักตอนโควิด รวมถึงนักวิชาการในวงการธนาคารมีเสียงตอบรับในวงกว้างดีมาก