“บิ๊กตู่” โชว์ขับรถดำนาปลูกข้าว ปลุกชาวนาปรับตัวรับวิกฤตสภาพอากาศ ลั่นนายกฯดูนโยบาย ขอย้ำอย่างเดียวอย่าทุจริต ยอมรับ 8 ปี ปัญหานับร้อยยังแก้ไม่จบ แต่ ปชต.ต้องฟัง ปชช. เรียกความสามัคคี รักษาแผ่นดินไทยไว้ให้ได้ ล้อมวงกินข้าวร่วมชาวนา บอกของโปรดทุกอย่าง
วันนี้ (6 ม.ค.) เมื่อเวลา 09.00 น. ที่จังหวัดสิงห์บุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมความก้าวหน้าพื้นที่ก่อสร้างพนังกั้นน้ำ ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี จังหวัดสิงห์บุรี ก่อนที่เวลา 10.20 น. นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” ณ บริเวณพื้นที่นานำร่อง หมู่ที่ 1 ตำบลน้ำตาล อำเภออินทร์บุรี โดยมี นายสุพจน์ ยศสิงห์คำ ผู้ว่าราชการจังหวัดสิงห์บุรี ให้การต้อนรับ รวมถึง นางภรณี ธนาคมานุสรณ์ มารดา นายชัยวุฒิ ร่วมต้อนรับผูกผ้าขาวม้าให้นายกฯด้วย ขณะที่มี ส.ส.พลังประชารัฐ นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร และ นายมนัส ออนอาย ส.ส.พิษณุโลก ร่วมต้อนรับ
โดยนายกรัฐมนตรี ขับรถดำนาปลูกข้าว Yammer รุ่น 80 D ปลูกได้ครั้งละ 8 แถว เป็นรถระบบดีเซล ซึ่งจังหวะขากลับที่นายกฯจอดเทียบทางขึ้น ปรากฏว่า กะระยะไม่ถูกทำให้บันไดรถเกี่ยวกับทางขึ้นจนบิดงอ ก่อนนายกฯปล่อยปลายี่สก ปลานิล ปลาตะเพียน รวมประมาณ 5,000 ตัว ร่วมกับเกษตรกร และปล่อยแหนแดง ปล่อยผำน้ำสำหรับเป็นอาหารของปลากินพืช ซึ่งเป็นอาหารธรรมชาติช่วยลดต้นทุนอาหารเคมีทั่วไป ทั้งนี้ ภายในงานตัวแทนเกษตรกรยังสวมเสื้อม่อฮ่อมปักข้อความ “ฅนศูนย์ข้าว” มาต้อนรับนายกฯด้วยเช่นกัน
นายกรัฐมนตรีกล่าวเปิดกิจกรรม “ข้าวรักษ์โลก” ว่า ยินดีวันนี้ได้มาพบปะ ทุกครั้งที่มาดีใจชื่นใจที่ได้เห็นทุกคนที่อยู่ตรงนี้ นี่คือพ่อแม่พี่น้องเชื้อสายคนไทยด้วยกัน ล้วนแต่มีความรักความสามัคคีจนถึงวันนี้ และไปสู่ลูกหลานของเราในอนาคตด้วยความรักความสามัคคี ความเคารพในกติกาซึ่งกันและกันและเรามีแกนหลักคือชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ทำให้ยืนหยัดจนถึงทุกวันนี้ วันนี้ดีใจมาจังหวัดสิงห์บุรี คงไม่ต้องพูดว่ามีอะไรบ้าง มีทั้งการเกษตรปลาช่อน และข้าวสายพันธุ์ต่างๆ
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลสมัยที่ตนบริหารสามารถทำได้มากขึ้น อย่างไรก็ตาม จะทำต่อไป จะทำทีเดียวคงไม่ได้ มุ่งเน้นในจุดที่เดือดร้อนมากที่สุด มากบ้างน้อยบ้าง จัดลำดับเพื่อจัดสรรงบประมาณรายปีลงไป จะเห็นได้ว่ารัฐบาลพยายามทำทุกอย่างถ้ามองด้วยความเป็นธรรมจะเห็นว่าหลายอย่างเปลี่ยนไปเยอะ การพัฒนาบางทีเรากินเราอยู่เราใช้จนชินตาโดยไม่ย้อนกลับไปว่าก่อนหน้านี้ 5 ปี 10 ปีเป็นอย่างไร ถึงวันนี้ลองมองกลับไปดูว่าอะไรดีขึ้นบ้าง อะไรยังไม่ดีตนก็พร้อมที่จะรับฟังจากบรรดา ส.ส.และรัฐมนตรีของพวกท่าน ตนก็เรียนรู้ตลอดเวลาที่ผ่านมา โดยเรียนรู้จากการทำงานของท่าน จากปัญหาของท่าน ซึ่งตนเกิดแนวคิดว่าในเมื่อเราเคยมีการประกาศที่จะเป็นแหล่งอาหารโลกเราจะเดินหน้าไปสู่ตรงนั้นได้อย่างไร ถ้าชาวไร่ชาวนายังไม่มีรายได้เพียงพอทางด้านการเกษตร จึงต้องนำมาคิดเป็นโจทย์ เรามีโอกาส แต่เราก็มีวิกฤตเสมอ วิกฤตสภาพภูมิอากาศสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนแปลงไป ฉะนั้นจะต้องปรับตัวอย่างไรตรงนี้ เป็นสิ่งที่รัฐบาลจะต้องหาทางให้เกิดความสมดุลให้ได้ เพื่อให้เกิดความเข้าใจความร่วมมือร่วมกันแก้ปัญหา
นายกฯ กล่าวว่า ปัญหาทุกปัญหาแก้ได้ แต่ใจเราสำคัญที่สุดว่าเราจะแก้กันอย่างไร อันไหนจะเร็วจะช้า สนับสนุนปลายทางอย่างเดียวก็จะอยู่อย่างนี้ ทำอย่างไรให้มีรายได้ต้องไปดูที่ต้นทุนการผลิต ทั้งนี้ ถ้าร่วมมือกันเราจะเดินหน้าไป ซึ่งวันนี้คิดว่าเดินมาครึ่งทางแล้ว ของเก่าเดินแล้ว แต่เดินแล้วเซบ้างอะไรบ้างตอนนี้ ให้มันตรงแล้วก้าวให้เร็วที่สุดด้วยกลไกในลักษณะนี้ วันนี้จะต้องเพิ่มผลผลิตในไร่ให้ได้ ลดการใช้แรงงานโดยหาวิธีการที่เหมาะสม การเช่าจะราคาถูกได้หรือไม่ตรงนี้ต้องคิดต่อ แค่ตนนั่งรถดำนาวน 3 รอบก็ร้อนหัวพอสมควร ตนพยายามนึกถ้าเป็นตัวเอง ยิ่งสงสารยิ่งเห็นใจ เพราะนี่คือสิ่งที่ท่านเจอกันทุกวันอยู่กลางแดด น้ำไม่มี หรือน้ำท่วมท่านลำบากกว่าตนเยอะ แต่ในฐานะที่ตนมาอยู่ตรงนี้ก็ต้องแก้ปัญหาให้วันนี้ จะทำให้ทุกคนในประเทศไทยอยู่รอดปลอดภัยและไปสู่ความพอเพียงและมั่นคงยั่งยืน ทุกอย่างต้องเดินอย่างนี้ เดินตามวิสัยทัศน์ ตามยุทธศาสตร์ชาติที่กำหนดไว้ ถ้าไม่เดินแบบนี้เดี๋ยวก็เลิกหมด โครงการรักษ์โลกอะไรต่างๆกลับมาที่เก่าแล้วจะไหวหรือไม่
นายกฯกล่าวว่า วันนี้เราต้องเจรจาช่องทางการซื้อ เราต้องแข่งกับเขาให้ได้ นี่คือ การทำเพื่อวันนี้และอนาคตทำอย่างไรชาวชาวไร่ จะมีส่วนต่างระหว่างราคาขาย ซึ่งรวมแล้วในวันนี้มันยังสูงอยู่ หากลดลงได้ ตนไม่ได้ขัดแย้งกับใคร แต่ถ้าจะทำตรงนี้นำพาการเกษตรของเราไปสู่การเป็นแหล่งอาหารโลกให้ได้ คำว่าแหล่งอาหารโลกไม่ใช่ทั้งโลกมาเอาสินค้าจากเรา แต่หมายความว่าหลายประเทศกินข้าวจากหลายประเภทของเรา โดยเฉพาะวันนี้ที่ขายดีที่สุดในโลกที่คู่แข่งเราขายอยู่ คือ ข้าวพื้นนุ่ม ซึ่งเรามีการพัฒนาพันธุ์
นายกฯ กล่าวอีกว่า แค่พูดก็เหนื่อย สมองคิดวันๆตนเขียนเยอะ เรื่องนี้ปัญหานั้น ไอ้นี่โซเชียล อันนี้ร้องทุกข์ วันหนึ่งตนคิดหลายเรื่องแล้วเอามาแยกว่าแต่ละเรื่องแก้อย่างไร ถ้าไม่ได้ก็ต้องบอกว่าไม่ได้ เพราะอะไรถ้าได้แล้วได้แค่ไหน ซึ่งบ้านเราต้องมีกติกา
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า นายกฯดูเรื่องงบประมาณทุกวัน ขอยืนยันว่า เป็นนายกรัฐมนตรีมา 8 ปี ไม่สนใจว่าพื้นที่ไหนจะเป็นของใคร ทุกจังหวัดคือคนไทย ตนต้องดูแลคนไทยทั้งประเทศ มากน้อยบ้างก็เป็นไปตามแผนงาน โดยมีการตรวจสอบคัดกรอง ซึ่งจังหวัดสิงห์บุรีหลายหมื่นล้านที่นำลงมา มากกว่าที่ผ่านมาเยอะ เพราะตนไม่เลือกปฏิบัติ ขึ้นอยู่กับความต้องการของท่านเร่งด่วนแค่ไหน ทำแล้วเกิดประโยชน์แค่ไหน กับคนเท่าไหร่ หากจำเป็นก็ต้องทำ อันไหนที่ด้อยมากก็ต้องเติม
“ขออย่างเดียวอย่าทุจริต ขอย้ำเตือนอีกครั้งอย่าทุจริต ผมมีหน้าที่ในการเป็นนายกรัฐมนตรีในการกำกับดูแลติดตามอนุมัติ อนุญาต แต่ผมจะสั่งเสมอว่าจะต้องโปร่งใสสุจริตและเป็นธรรม ตรวจสอบได้ ถ้าตรวจสอบแล้วพบร้องเรียนมาเลย จะตรวจสอบหมดตามกฎหมาย เพราะนายกฯไม่สามารถที่จะลงไปถึงคนข้างล่างได้ ซึ่งนายกฯได้สั่งการไปแล้วนำเข้า ครม. โดยงบประมาณทุกอย่างถ้านายกฯไม่อนุมัติเห็นชอบเข้าครม. ก็จะไม่เกิดทั้งประเทศ อันไหนเร่งด่วนมากน้อยถ้าไม่ทำตอนนี้แล้วจะเสียหาย หรือทำในปีหน้าได้ก็ต้องคิดแบบนี้” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า วันนี้ขอให้เห็นใจเรากำลังนำภาษีจากหลายทางมาใช้ ฉะนั้น ต้องบริหารภาษีเหล่านี้ให้เป็นธรรม เราต้องนึกว่าเขาเสียมากควรจะต้องทำอะไรให้บ้าง ต้องให้ความเป็นธรรมกับเขาเพื่อมีกำลังที่จะเสียภาษีมากขึ้นต่อไปในอนาคต ทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ฉะนั้น นายกฯจะใช้ให้ดีที่สุด
นายกฯ กล่าวว่า คนทุกกลุ่มทุกฝ่ายทุกอายุ คือ พลังของแผ่นดิน จะทำอย่างไรให้คนทุกรุ่นมีความรักความสามัคคีเข้าใจซึ่งกันและกัน และเดินหน้าไปสู่อนาคตพร้อมกัน ไม่มีอะไรจะเปลี่ยนได้ภายในวันเดียวหรือปีเดียว ตนอยู่มา 8 ปียังเปลี่ยนได้ไม่หมดทั้งที่ตนอยากจะเปลี่ยนเป็นร้อยเรื่อง ไม่ใช่ไม่อยากทำ ไม่ใช่ไม่กล้าทำ แต่เราคือประชาธิปไตย จะทำอะไรต่างๆ ก็ต้องฟังความเห็นจากประชาชน ถ้าไม่เห็นชอบตนก็ทำไม่ได้ ไปบังคับไม่ได้ ฉะนั้นขอให้ช่วยกันคิด วันนี้อาจจะพูดเยอะนิดนึง เพราะปีใหม่ไม่ได้เจอกัน นายกฯก็ไม่ได้หยุด ก็ทำงานอยู่ ติดตามสถานการณ์ การเป็นผู้บังคับบัญชามันหนักใจ ไอ้นั่นจะเสร็จหรือไม่ ไอ้นี่จะเสียชีวิตหรือเปล่า ชายแดนเป็นอย่างไร เมื่อวานก็ต้องเสียใจ ต่อไปกู้ระเบิดแทนมีความเสี่ยงและเสียชีวิต แต่มันก็ต้องทำ ฉะนั้นจะบอกว่าฝ่ายไหนไม่มีประโยชน์มันไม่ได้ มีประโยชน์ทุกคน แต่จะทำอย่างไร และความสามัคคีเกลียดชังกันเองตรงนั้นไม่ใช่ประเทศไทยถ้าทำแบบนี้ต่อไปรักษ์โลกก็ไม่เกิด จะทำอย่างไรให้รักษ์โลก เป็นทีมที่จะกำหนดว่าเราจะเดินอย่างนี้ ขอฝากไว้ด้วย
นายกฯกล่าวว่า โอเคเบื่อหรือยัง แต่นายกฯมีงาน ต้องขอบคุณในการต้อนรับ รอยยิ้มทุกคน อย่างไรก็ตาม วันนี้มาดีใจ เพราะเป็นการมาเยี่ยมต่างจังหวัดครั้งแรกหลังปีใหม ขอให้กำลังใจทุกคน รู้ว่าลำบาก นายกฯไม่เคยหยุดคิด เหนื่อยก็ต้องทน แผ่นดินนี้เป็นของเรา ช่วยกันรักษาแผ่นดินนี้ให้งดงามต่อไป
จากนั้นนายกรัฐมนตรีเดินพบปะเกษตรกร สอบถามความเป็นอยู่ พร้อมกล่าวว่า “ให้กำลังใจทุกคน รู้ทุกคนลำบาก ไม่รักประชาชนแล้วจะไปรักใคร รับรู้ถึงหัวอกพวกเราและความยากลำบาก” ขณะที่ชาวบ้าน เกษตรกร ให้กำลังใจนายกฯสู้ๆ ขอถ่ายรูป และขอสวมกอด พร้อมชมว่านายกฯหล่อ
ภายหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม นายกรัฐมนตรีได้รับประทานอาหารกลางวันร่วมกับรัฐมนตรีและตัวแทนชาวนา ที่บริเวณพื้นที่จัดงาน โดยนั่งเก้าอี้กองฟองและโต๊ะรับประทานอาหารเป็นแคร่ไม้ไผ่ สำหรับเมนูอาหารได้แก่ แกงเผ็ดไก่ใส่หน่อไม้ ไข่พะโล้ ปลาช่อนแดดเดียวทอด กุนเชียงทอด ส้มตำ ไก่ยาง ของหวานขนมบ้าบิ่น คลองแคลง ไอติมกะทิ ทั้งนี้ เมนูอาหารดังกล่าว นางภรณี มารดาของนายชัยวุฒิ เป็นผู้ดูแลจัดเตรียม
ทั้งนี้ เป็นที่น่าสังเกตว่าการลงพื้นที่ แม้จะมาทำกิจกรรมขับรถดำนา แต่ พล.อ.ประยุทธ์ แม้จะเปลี่ยนมาสวมเสื้อม่อฮ่อม แต่ยังคงสวมรองเท้าหนังคัตชู ขณะที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย เปลี่ยนมาสวมรองเท้าผ้าใบสีดำแทน