xs
xsm
sm
md
lg

“ปวิน” ไม่ให้อภัย “ลูกหนัง” ลั่น แบนผลงานตลอดชีวิต “อัษฎางค์” ซัด สื่อเอียง น้องชื่อลูกหนัง ไม่ใช่ชื่อลูกตั้ว

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


ภาพ “ลูกหนัง” ศีตลา วงษ์กระจ่าง ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก บีบีซีไทย - BBC Thai
อ้างเกินเหตุ? ประเทศฉิบหายเพราะครอบครัวน้อง “ปวิน” ไม่ให้อภัย “ลูกหนัง” ลั่น แบนผลงานตลอดชีวิต หลังจะกลับไป “สานฝัน” เกาหลีต้นปีหน้า “อัษฎางค์” ซัด The Standard บอกมาตรฐานอยู่แล้วเอียงไปทางไหน

ภาพ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (29 ธ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก Pavin Chachavalpongpun ของ นายปวิน ชัชวาลพงศ์พันธ์ นักวิชาการประจำสถาบันเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ศึกษา มหาวิทยาลัยเกียวโต และผู้ต้องหาคดี 112 ซึ่งหลบหนีอยู่ในต่างประเทศ โพสต์ข้อความระบุว่า

“จดหมายเปิดผนึกถึงลูกหนังค่ะ ได้อ่านบทสัมภาษณ์น้องใน BBC แล้ว น้องบอกน้องมีสิทธิแสดงความเห็นในระบอบประชาธิปไตย และน้องได้ขอโทษไปแล้ว จากนี้ไป ก็แล้วแต่ว่าใครจะสนับสนุนน้อง น้องจะกลับไปเปิดตัวที่เกาหลีต้นปีหน้า - ค่ะน้อง

ภาพ  วง H1-KEY (ไฮ-คีย์) ของ “ลูกหนัง” ศีตลา วงษ์กระจ่าง ขอบคุณข้อมูล-ภาพจาก บีบีซีไทย - BBC Thai
…พูดแค่นี้นึกว่าแล้วจบหรอคะ ประเทศฉิบหายเพราะครอบครัวน้อง ทำจนพัง พังแบบตอนนี้ยังไม่ฟื้น ถ้าครอบครัวน้อง พ่อแม่น้อง เป็นอีสลิ่มปลายแถว ดิชั้นอาจจะให้อภัยน้องได้ แต่พ่อน้อง ได้ใช้สถานะในสังคม ในฐานะนักแสดงที่เป็นที่รู้จัก ใช้สถานะตรงนั้น ร่วมมือกับศิลปินที่มีอิทธิพลคนอื่นๆ โน้มน้าวสังคม สร้างความเกลียดชัง ขับไล่เพื่อนร่วมชาติ แล้วเรียกทหารมาครองเมือง ความเหี้eเหล่านี้มันเกินกว่าจะให้อภัย แล้วน้องเองก็มั่นหน้ายอมรับว่า น้องออกไปร่วมกับพ่อแบบเต็มใจและมีสติสัมปชัญญะ งั้นน้องต้องรับผลกรรมความเหี้eของน้องและครอบครัวต่อไป ดิชั้นจะแบนผลงานมึงตลอดชีวิต แล้วมาดูกันว่า พลังประชาธิปไตยที่น้องเอ่ยถึงตอนแรก มันจะทำให้ชีวิตศิลปินของน้องในเกาหลีปีหน้ามันพังได้อย่างไร อย่ากะพริบตาค่ะ”

ภาพ “อัษฎางค์” ซัด The Standard กรณี “ลูกหนัง” ขอบคุณข้อมูล-ภาพจากเพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ของนายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า

“น้องชื่อลูกหนัง ไม่ใช่ชื่อลูกตั้ว

ชื่อ The Standard บอกความเป็นมาตรฐานอยู่แล้วว่าเอียงไปทางไหน

พวกเดียวกัน ก็คุยเรื่องเดียวกัน มาตรฐานเดียวกัน เปิดเผยความในใจกันไปให้ชัดๆ เลย
จบข่าว”

นอกจากนี้ เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความว่า

“กูละเบื่อ พวกกีบที่เข้าไปปั่นเรื่อง ผลพวงรัฐประหาร มันเกิดทันยุคยิ่งลักษณ์กันมั้ย ตอนนั้นน่ะ สงครามกลางเมืองแล้วนะเว้ย ชักปืน ยิงระเบิดกันในที่ชุมชน m79 ลงใส่เด็กเสียชีวิต ล้อมสังหารนักศึกษาราม ยิงใส่กันที่หลักสี่ จ่อยิง สุทินกลางถนน

จังหวะนั้น กองกำลังหัวรุนแรงของโกตี๋ ของ นปช ออกมาซัดกับ กปปส กันนัวไปหมด

ถ้าไม่มีรัฐประหารหยุดไว้ ก็ไม่รู้ว่ามันจะจบยังไง เพราะยิ่งรุนแรงขึ้นทุกที

นี่แหละที่กูไม่สนับสนุนเลย เรื่องการจัดม็อบไปชนม็อบ เพราะจะยิ่งทำให้วุ่นวายหนักขึ้น ปล่อยให้สามกีบชุมนุมจนฝ่อไปเองดีที่สุด เพราะพอมันไม่มีม็อบอีกฝ่ายให้ตี มันก็เลยต้องตีกันเอง 😂😂😂😂😂”

พร้อมแชร์ บีบีซีไทย - BBC Thai โพสต์วิดีโอไว้ในเพลย์ลิสต์ ประเทศไทย ระบุว่า

“ลูกหนัง-ศีตลา วงษ์กระจ่าง ให้สัมภาษณ์บีบีซีไทย ถึงอนาคตที่เธอจะลุกขึ้น “สานฝัน” ของตนเอง และทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อ อีกครั้ง โดยไม่หวาดหวั่นหากเกิด #แบนลูกหนัง ภาคต่อ

รับชมบทสัมภาษณ์ฉบับเต็ม ทางนี้ https://youtu.be/sDawe49ysHw

ทั้งนี้ บทความ ลูกหนัง ศีตลา : จาก #แบนลูกหนัง สู่ "การให้อภัยตนเอง" กลับไปสานฝันอีกครั้งที่เกาหลีใต้ โดย ทศพล ชัยสัมฤทธิ์ผล ผู้สื่อข่าวบีบีซีไทย/28 ธันวาคม 2022 ระบุว่า

“หญิงสาววัย 24 ปี ในเบลเซอร์สีน้ำตาล นั่งอยู่ตรงหน้าทีมข่าวบีบีซีไทย ณ ห้องอาหารแห่งหนึ่งที่ร้างคนในช่วงกลางวัน ทำให้ทุกอารมณ์ความรู้สึกถ่ายทอดออกมาได้อย่างเด่นชัดผ่านบทสนทนาในวันนั้น

“ลูกหนัง” ศีตลา วงษ์กระจ่าง หรือที่สังคมเรียกว่า “ลูกหนัง ศีตลา” ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับบีบีซีไทยถึง อดีต ปัจจุบัน และอนาคต หลังกระแสแฮชแท็ก #แบนลูกหนัง เมื่อปลายปี พ.ศ. 2564 ทำให้การเดบิวต์ในฐานะไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลี วง H1-KEY (ไฮ-คีย์) ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง

แม้ GLG ต้นสังกัด เดินหน้าเดบิวต์ ลูกหนังเมื่อ 5 ม.ค. 2565 แต่ผ่านมาได้เพียง 5 เดือน เธอก็ตัดสินใจถอนตัวออกจากวงอย่างเป็นทางการ และ #SITALA กลับมาเป็นที่พูดถึงอีกครั้งบนทวิตเตอร์

หลังถอนตัวจากวง ลูกหนังเงียบหายไปหลายเดือน ก่อนออกมาให้สัมภาษณ์กับ เดอะ สแตนดาร์ด เมื่อต้นเดือน ธ.ค. 2565 เปิดใจถึงสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเธอในห้วงเวลาที่ #แบนลูกหนัง เป็นที่ถกเถียงในสังคม

ส่วนวันนี้ ลูกหนัง มาพูดคุยกับบีบีซีไทย ถึงอนาคตที่เธอจะลุกขึ้น “สานฝัน” ของตนเองและ ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับคุณพ่อ อีกครั้ง โดยไม่หวาดหวั่นหากเกิด #แบนลูกหนัง ภาคต่อ

อนาคต - สานฝันอีกครั้งในเกาหลีใต้
ลูกหนัง บุตรสาวของ ตั้ว-ศรัณยู วงษ์กระจ่าง อดีตพระเอกรุ่นใหญ่ผู้ล่วงลับ และ เปิ้ล หัทยา วงษ์กระจ่าง, เธอศึกษาจบปริญญาตรีมหาวิทยาลัย Ewha Womans University ในเกาหลีใต้ ก่อนเข้าสู่วงการบันเทิง เริ่มจากงานนางแบบ และเด็กฝึกหัด ด้วยบทบาทสุดท้ายกับไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป วงไฮ-คีย์ ที่เธอถอนตัวออกมาเมื่อช่วงกลางปี 2565

“การที่เราไม่ทำตามฝัน แล้วถ้าในอนาคตเราย้อนกลับมาดู เราจะเสียดายสิ่งที่เราไม่ได้ทำ” ลูกหนัง บอกกับบีบีซีไทย ก่อนเปิดเผยว่า กำลังพูดคุยกับหลายค่ายเพลงถึงการกลับไปเป็นศิลปินเคป๊อปในเกาหลีใต้อีกครั้ง

“ยังไม่ได้ไปเซ็นหรือว่าลงรายละเอียดว่าจะทำอะไร เพราะสุดท้ายเราก็จะค่อนข้างให้เกียรติเขาเป็นคนดูว่าเราเหมาะกับตรงไหน”

ลูกหนังกลับมาอยู่ไทยนับแต่กลางปี 2565 และเตรียมจะลัดฟ้ากลับไปเกาหลีใต้อีกครั้ง

“น่าจะหลังปีใหม่ เพราะไม่ได้อยู่กับครอบครัวในช่วงส่งท้ายปี มาประมาณ 4 ปีแล้ว”

เธอยังไม่ขอเปิดเผยว่า จะกลับเป็นเป็นศิลปินแบบไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปเหมือนตอนที่อยู่วงไฮคีย์ หรือจะมุ่งเป็นศิลปินเดี่ยว แต่เธอยอมรับและเตรียมใจแล้วว่า ไม่ว่าจะเปิดตัวออกมาในลักษณะใด จะต้องเผชิญกระแสต้านไม่มากก็น้อย

“ต่อให้ไม่ใช่เรื่องแฮชแท็ก ต่อให้เราเป็นอะไรก็ไม่รู้ มันต้องมีคนไม่ชอบเรา เราต้องยอมรับให้ได้ก่อนว่า เราไม่ได้อยู่บนโลกนี้ให้ทุกคนชอบ” ลูกหนัง ตอบบีบีซีไทย ที่ถามว่าวิตกกับ “กระแสแบนลูกหนังภาคต่อหรือไม่”

“ประชาธิปไตยคือ ทุกคนมีสิทธิที่จะคิดเห็นยังไงก็ได้”

อดีต - ชีวิตในโรงพยาบาลจิตเวช
ก่อนหน้านี้ ลูกหนังเล่าให้สื่ออื่นฟังถึงชีวิตในการเตรียมตัวเป็นไอดอลเกาหลี ที่ต้องฝึกซ้อมอย่างหนัก เผชิญภาวะแข่งขันสูงที่กดดันทั้งสภาพร่างกาย และจิตใจ

เมื่อบีบีซีไทยถามว่าซ้อมหนักวันละกี่ชั่วโมง สาวไทยวัย 24 ตอบว่า “โห เริ่ม 9 โมงเช้า เสร็จตี 1 ถึงตี 2 อันนี้คือซ้อมแบบปกติ แต่พอจะเริ่มถึงวันที่ต้องเดบิวต์ มันก็จะเลยไปตี 3”

ศีตลา เล่าว่า ซ้อมหนักทุกวัน

“ถามว่ามันเหนื่อยไหม มันเหนื่อยค่ะ แต่เราเป็นคนที่อยากทำอะไรแล้ว เราเป็นคนทำสุด... เฮ้ย เหนื่อยนะ แต่เรามีความสุขที่ได้ทำ มันเป็นเหนื่อยแบบสนุก เหนื่อยแบบ มันเป็นสิ่งที่เรารัก”

ชีวิตหลายเดือนในฐานะศิลปินเกาหลีในวง ไฮคีย์ ที่แทบทุกลมหายใจคือการฝึกซ้อม และสร้างความสุขให้ผู้ชม แม้ลูกหนังจะ “มีความสุข” แต่ความเครียดสะสม ทั้งจากกระแส #แบนลูกหนัง และความกดดันเรื่องงาน ทำให้ร่างกายของเธอถึงจุดที่เป็นโรคนอนไม่หลับ หรือ Insomnia โดยวันหนึ่ง “นอนได้แค่ชั่วโมงเดียว” ติดต่อกันกว่า 3 เดือน

ตารางการใช้ชีวิตในช่วงนั้นของลูกหนัง ตามที่เธอบอกกับบีบีซีไทย มีดังนี้

08:00 น. - ตื่นนอน

09:00 น. - ซ้อมร้องเพลง เข้าฟิตเนส ฝึกเต้น

01:00-03:00 น. - กลับถึงที่พัก อาบน้ำ พักผ่อน

04.00 น. - ตื่น เพราะ เป็นโรคนอนไม่หลับ

“เฮ้ย เราเป็นถึงไอดอลนะ ทำไมปล่อยให้ร่างกายเป็นแบบนี้” ลูกหนัง

“เราโฟกัสเรื่องงานมากๆ เรื่องอื่นน่ะ เราไม่อยากให้มากระทบกับอะไรเลย ฉะนั้น เราอ่อนแอไม่ได้ คือเราร้องไห้ครั้งเดียว เราทำให้เพื่อนทั้งวงเป็นห่วง เราร้องไห้แบบนิดเดียว เราทำให้คนรอบข้างคุณแม่ ทำให้ค่ายเป็นห่วง ฉะนั้นเราต้องเข้มแข็งมากๆ แล้วก็เดินหน้าต่อ”

แม้จิตใจจะมุ่งมั่น แต่ “ร่างกายมันไม่ไหวแล้ว มันเบลอ มันโฟกัสไม่ได้” จนท้ายสุด เธอตัดสินใจพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลจิตเวช เพื่อรักษาอาการนอนไม่หลับ

“ต้องไปพบจิตแพทย์ จนพึ่งมารู้ว่า เออ เราก็อ่อนแอเหมือนกัน” โดย ลูกหนัง พักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในเกาหลีใต้นานราว 2 สัปดาห์ และเป็นห้วงเวลาที่เธอได้อยู่กับตัวเองจริงๆ หลังผ่านการโหมงานหนัก และความเครียดสะสมต่อเนื่องหลายเดือน

ตลอด 2 สัปดาห์ในโรงพยาบาล เธอยังได้เห็นคนไข้อื่นๆ ที่มีอาการหลากหลาย บางคนดูมีความสุขตลอดเวลา บางคนดูไม่รู้ตัวว่าอยู่ในโรงพยาบาล ด้วยผลข้างเคียงของยา

ณ ห้วงเวลานั้น ลูกหนัง ตระหนักว่า “เฮ้ย เราเป็นถึงไอดอลนะ ทำไมปล่อยให้ร่างกายเป็นแบบนี้ คือมีความคิดเลยว่า สิ่งแรกที่ควรจะทำคือดูแลตัวเอง ดูแลสภาพจิตใจ สภาพร่างกายให้ดี”

หลังออกจากโรงพยาบาล เหตุผล และความตระหนักรู้ในร่างกายของตนเอง จึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ ลูกหนัง ตัดสินใจถอนตัวจากวงไฮคีย์ ขณะที่ ทางค่าย GLG แถลงการณ์ถึงการถอนตัวของเธอว่า "ทางค่ายได้มีการพูดคุยกับศิลปินมาอย่างยาวนาน กับทั้งศีตลาและสมาชิกร่วมวงคนอื่นๆ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจดังกล่าวเกิดขึ้นท่ามกลางสิ่งแวดล้อมและสถานการณ์ที่ผ่านการตรวจสอบแล้วอย่างถี่ถ้วน”

10 มิ.ย. 2563 - ตั้ว-ศรัณยู เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งตับ โดยในอดีตเขาเป็นนักแสดงมากรางวัล ก่อนผันตัวเป็นผู้กำกับและผู้จัดละคร แต่อีกบทบาทในทางการเมือง เขาเป็นแกนนำ “กลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย” (พธม.) หรือ “กลุ่มคนเสื้อเหลือง” และเป็นหนึ่งในขบวนดาราที่ตบเท้าขึ้นปราศรัยบนเวที กปปส. ในปี 2556-2557 จนนำมาสู่รัฐประหารปี 2557 โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)

17. พ.ย. 2564 - วงไฮคีย์ เปิดบัญชีบนทวิตเตอร์ @H1KEY_official และทยอยเปิดตัวสมาชิก

29 พ.ย. 2564 - เปิดตัวสมาชิกคนที่ 4 ของวง คือ ลูกหนัง-ศีตลา พร้อมข้อความบนโปรไฟล์ว่า เป็นคนไทย และได้รับความสนใจอย่างมากในเวลานั้น เพราะแทบไม่มีข่าวว่าคนไทยจะเดบิวต์เป็นศิลปินเคป๊อปในช่วงเวลาดังกล่าว ในโปรไฟล์ยังมีข้อความเขียนด้วยลายมือของ ลูกหนัง ว่า “ฉันมีคุณพ่อเป็นไอดอล” ทำให้ผู้ใช้อินเทอร์เน็ตสืบค้นประวัติ จนพบว่าเป็นลูกสาวฝาแฝดคนน้องของ ตั้ว-ศรัณยู และ เปิ้ล-หัทยา

30 พ.ย. - 7 ธ.ค. 2564 - กระแส #แบนลูกหนัง และ #SITALA ติดเทรนด์อันดับ 1 ทวิตเตอร์แบบข้ามวัน และระหว่างนี้มีผู้ใช้ทวิตเตอร์แสดงความเห็นว่าไม่สนับสนุน “ลูกสาวเผด็จการ” เพราะการกระทำของ ลูกหนัง และครอบครัวของเธอ ทำให้คนรุ่นหลัง รวมถึงเยาวชนจำนวนมาก ทำตามความฝันไม่ได้ เพราะเกิดรัฐประหาร

แต่ก็มีความเห็นอีกฝ่าย มองว่า ลูกหนังไม่สมควรถูกแบน เพราะการกระทำของพ่อเธอ ควรแยกแยะตามตัวบุคคล และสนับสนุนคนไทยที่มีความสามารถได้ไปเดบิวต์ในต่างแดน ขณะที่ เว็บไซต์ข่าวทั้งในไทยและต่างประเทศ อย่าง Topstarnews, Instiz, Koreatimes, Dispatch, NME ของอังกฤษ รวมถึงสถานีโทรทัศน์ KBS ของเกาหลีใต้ นำเสนอข่าวเกี่ยวกับกระแสต่อต้านการเดบิวต์ของ ลูกหนัง บนโลกออนไลน์ รวมถึงให้บริบทเหตุการณ์และวิกฤตทางการเมืองในไทย”

แน่นอน, ประเด็นที่น่าคิดอย่างมาก ก็คือ “ลูกหนัง” สมควรถูกแบนผลงานหรือไม่ เพียงเพราะเขาเป็น “ลูกสาว” ตั้ว-ศรัณยู ซึ่งเสียชีวิตไปแล้ว และเพียงเพราะเธอตามไปม็อบ โดยพ่อของเธอเป็นหนึ่งในแกนนำม็อบ

ที่สำคัญ เพียงเพราะการต่อสู้ทางการเมืองที่มีความเห็นต่างตามระบอบประชาธิปไตย กลับถูกฝ่ายที่อ้างตัวเองว่า เป็นพวกก้าวหน้า เป็น “ประชาธิปไตย” ล่าแม่มด โดยแม้เธอจะขอโทษแล้ว ก็ยังไม่ให้อภัย

กรณี “ลูกหนัง” หลายคนจึงเห็นว่า ควรแยกแยะตามตัวบุคคล พ่อคือพ่อ ลูกคือลูก ไม่ใช่ เหมารวมทั้งครอบครัว และควรสนับสนุนคนไทยที่มีความสามารถได้ไปเดบิวต์ในต่างแดน ก็ลองคิดดู!


กำลังโหลดความคิดเห็น