รองโฆษกรัฐบาล ชวนใช้สิทธิของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล “พล.อ.ประยุทธ์” ย้ำ รัฐบาลตั้งใจแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยเหลือเยียวยาและกระตุ้นเศรษฐกิจทุกกลุ่ม
วันนี้ (29 ธ.ค.) น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ห่วงใยและต้องการส่งความปราถนาดีไปยังพี่น้องประชาชน จึงมอบนโยบายให้หน่วยงานต่างๆ หามาตรการต่างๆ เป็นของขวัญปีใหม่เพื่อส่งมอบความสุขให้กับประชาชน หลากหลายมาตรการ อาทิ
1. มาตรการช้อปดีมีคืน เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2566 โดยกำหนดให้ผู้มีเงินได้ซึ่งมีหน้าที่เสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา แต่ไม่รวมถึงห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้าหรือค่าบริการตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ไม่เกิน 40,000 บาท
2. มาตรการลดภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างปี 2566 โดยลดภาษีให้ในอัตราร้อยละ 15 ของจำนวนภาษีที่คำนวณได้สำหรับการจัดเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างของปีภาษี 2566
3. มาตรการช่วยเหลือเงินพิเศษแก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เพิ่มเงินในบัตรสวัสดิการแห่งรัฐอีก 200 บาทต่อคน เป็นระยะเวลา 1 เดือน โดยจะได้รับเงินในเดือนมกราคม 2566
4. สายการบินลดค่าเครื่องบินภายในประเทศลง 20% จากมาตรการปรับลดอัตราภาษีสรรพสามิต สำหรับน้ำมันเชื้อเพลิงเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ โดยลดอัตราภาษีตามปริมาณของน้ำมันเชื้อเพลิง สำหรับเครื่องบินไอพ่นที่ใช้บินในประเทศ จากลิตรละ 4.726 บาท เหลือลิตรละ 0.20 บาท มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม ถึง 30 มิถุนายน 2566 จึงมีผลให้สายการบินลดค่าเครื่องบินภายในประเทศลง 20%
5. มาตรการตรึงราคาน้ำมันทุกชนิดในช่วงวันที่ 24 ธันวาคม 2565 ถึง 3 มกราคม 2566
6. ให้คงราคาขายส่งหน้าโรงกลั่น LPG ที่ 19.9833 บาทต่อกิโลกรัม (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งมีกรอบเป้าหมายเพื่อให้ราคาขายปลีก LPG อยู่ที่ประมาณ 408 บาทต่อถัง 15 กิโลกรัม โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1-31 มกราคม 2566
7. มาตรการลดค่าโดยสารของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ร้อยละ 5 สำหรับผู้ที่ซื้อตั๋วโดยสารเดินทางผ่านช่องทางออนไลน์ วันที่ 1 ถึง 31 ธันวาคม 2565
8. ลดภาระค่าไฟฟ้าในช่วงวิกฤตราคาพลังงาน โดยตรึงอัตราค่าไฟฟ้า 4.72 บาทต่อหน่วย ไปจนถึงไตรมาสสองของปี 2566 หรือในช่วงการคำนวนค่าเอฟทีงวดมกราคม-เมษายน 2566
9. มาตรการยกเว้นค่าโดยสารรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง ระหว่างเวลา 12.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม 2565 ถึงเวลา 12.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2566 พร้อมขยายเวลาเปิดให้บริการเดินรถของโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน และสายสีม่วง ตั้งแต่เวลา 06.00 น. ของวันที่ 31 ธันวาคม 2565 จนถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2566
10. มาตรการขยายเวลาการเดินรถเมล์ ในเขตกรุงเทพมหานคร เส้นทางที่ผ่านสถานที่จัดงานเคานต์ดาวน์ (Count Down) เช่น สยามพารากอน ไอคอนสยาม และเอเชียทีค ถึงเวลา 02.00 น. ของวันที่ 1 มกราคม 2566
11. มาตรการให้บริการฟรีเรือไฟฟ้า (EV Boat) ตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ถึง 1 มกราคม 2566
12. มาตรการเปิดให้วิ่งฟรีทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง หรือมอเตอร์เวย์ 7 วัน ตั้งแต่เวลา 0.01 น. ของวันที่ 29 ธันวาคม 2565 จนถึงเวลา 24.00 น. ของวันที่ 4 มกราคม 2566
13 .เข้าอุทยานแห่งชาติฟรี ทั้งคนไทยและยานพาหนะ 31 ธันวาคม 2565 ถึง 1 มกราคม 2566
14 .มาตรการช่วยลูกหนี้ สำหรับลูกหนี้ที่เข้าร่วมโครงการปรับโครงสร้างหนี้กับ บสย. ผ่อนน้อย เบาแรง ลดค่างวดผ่อนชำระเหลือ 20% ของค่างวดเดิม ขั้นต่ำ 500 บาทต่องวด สูงสุด 6 งวด ที่ยื่นคำขอระหว่าง 1 มกราคม - 31 มีนาคม 2566
15 .สินเชื่อ 2,000,000 บาท เพื่อที่อยู่อาศัย ผู้ประกันตนระบบประกันสังคมมาตรา 33 ดอกเบี้ยต่ำ จำนวน 15,000 คน 26 ธันวาคม 2565 ถึง 5 มกราคม 2566
16. กยศ. ลดหนี้ ลดเบี้ยปรับ ลดเงินต้น ขยายเวลาถึง 30 มิถุนายน 2566
17. ส่วนลดส่ง EMS ในประเทศ 19-48% สำหรับประชาชนที่ใช้บริการแบบ walk in ตั้งแต่วันที่ 26 ธันวาคม 2565 ถึง 5 มกราคม 2566
18. กิจกรรมเรียนรู้วิทยาศาสตร์ฟรี 27 ธันวาคม 2565 ถึง 8 มกราคม 2566 เช่น อวพช. คลองห้าปทุมธานี, เดอะสตรีทรัชดากรุงเทพฯ, เชียงใหม่, โคราช
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ทั้งหมดนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของมาตรการที่ พล.อ.ประยุทธ์ ตั้งใจมอบเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน เพื่อที่จะได้แบ่งเบาภาระค่าครองชีพ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ มีแรงจูงใจและเกิดความเชื่อมั่นในการจับจ่ายใช้สอยกระจายรายได้ไปยังชุมชน จึงขอแจ้งมายังพี่น้องประชาชนถึงสิทธิที่รัฐบาลมอบให้ในมาตรการของขวัญปีใหม่นี้