กองทัพเรือ เผย วันนี้วันเดียวพบ 5 ร่าง เร่งส่งพิสูจน์อัตลักษณ์ ยังปูพรมค้นหากำลังพล ที่สูญหายอีก 18 นาย จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง
วันนี้ (23 ธ.ค.) เมื่อเวลา 17.30 น. พลเรือเอก ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ได้สรุปการปฏิบัติภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือกำลังพลกองทัพเรือ จากเหตุการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง ว่า ตามที่ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรืออากาศยานของกองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งกองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หน่วยงานต่างๆ ของ ศรชล. เข้าร่วมในการค้นหา โดยจัดกำลัง ประกอบด้วย เรือหลวงตากสิน อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 2 และ 6 เรือหลวงนเรศวร อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 9 และ 10 พร้อมทั้งควบคุมอากาศยานในพื้นที่ เรือหลวงกระบุรี อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 1, 2, 3 และ 4 เรือหลวงนราธิวาส อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 5A และ 9A เรือ ต.114 อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 9A และ 12 เรือ ต.270 อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 14 เรือหลวงราวี อยู่ในพื้นที่ค้นหา บริเวณเรือหลวงสุโขทัย อับปาง มีการนำนักประดาน้ำการค้นหาผู้ประสบภัยบริเวณเรือหลวงสุโขทัยอับปาง และสำรวจตัวเรือภายนอกเพื่อค้นหาผู้ที่สูญหาย นอกจากนั้น ยังได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานต่างๆ ของท้องถิ่น ภาครัฐ ภาคเอกชน มูลนิธิ เครือข่ายชาวประมง และสมาชิกไทยอาสาป้องกันชาติในทะเล ร่วมค้นหาในพื้นที่ตามแนวชายฝั่ง พร้อมทั้งลาดตระเวนทางเท้าในบริเวณชายหาด ที่คาดว่า จะมีการพบผู้สูญหาย โดยคำนวณจากทิศทางลมและกระแสน้ำ ซึ่งตลอดทั้งวัน เรือและอากาศยานได้เก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำได้รวม 5 ราย จากนั้นจะเข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ของทางนิติเวช ซึ่งศพที่พบทั้ง 5 รายนั้น คาดว่า จะใช้เวลาในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลโดยการตรวจดีเอ็นเอ ประมาณ 3-4 วัน จึงจะสามารถยืนยันตัวบุคคลได้
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 105 นาย รอดชีวิต จำนวน 76 นาย เสียชีวิต 6 นาย รอพิสูจน์อัตลักษณ์ 6 ราย แยกเป็น
- พิสูจน์อัตลักษณ์และส่งกลับประกอบพิธีกรรมทางศาสนาแล้ว จำนวน 6 นาย
- มีหลักฐานขั้นต้นบ่งชี้เป็นกำลังพลกองทัพเรือ และกำลังพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อยืนยันตัวบุคคลจำนวน 5 นาย
- ไม่มีหลักฐานขั้นต้นบ่งชี้เป็นกำลังพลกองทัพเรือ และกำลังพิสูจน์อัตลักษณ์ เพื่อยืนยันตัวบุคคลจำนวน 1 นาย สูญหายจำนวน 18 นาย