โฆษกกองทัพเรือ เผย พบร่างผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย รอพิสูจน์อัตลักษณ์อีก 3-4 วัน เร่งปูพรมค้นหาผิวน้ำและใต้น้ำกำลังพลที่ยังสูญหายอีก 21 นาย
วันนี้ (24 ธ.ค.) เมื่อเวลา 11.30 น. พล.ร.อ.ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงแผนการปฏิบัติการค้นหาและให้การช่วยเหลือกำลังพลบนเรือหลวงสุโขทัยที่อับปางกลางอ่าวไทย ว่า จากที่กองทัพเรือ แจ้งว่า พบร่างผู้เสียชีวิต 1 ราย เมื่อเย็นวานนี้ (23 ธ.ค.) บริเวณจุดที่เรือหลวงสุโขทัยอับปาง เมื่อช่วงเช้าวันนี้อากาศยานได้ตรวจพบร่างผู้เสียชีวิตอีก 1 ร่าง ในพื้นที่ 4 โดยเรือหลวงกระบุรีได้นำร่างของผู้เสียชีวิตนำส่งเรือหลวงตากสิน โดยจะนำกลับขึ้นมาบนฝั่ง และเข้าสู่ขั้นตอนและกระบวนการในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคล ของทางนิติเวช ซึ่งศพที่พบทั้ง 2 รายนั้นคาดว่าจะใช้เวลาในการพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลโดยการตรวจดีเอ็นเอ ประมาณ 3-4 วัน จึงจะสามารถยืนยันตัวบุคคลได้
สรุปการช่วยเหลือผู้ประสบภัย จำนวน 105 นาย สามารถช่วยได้แล้ว จำนวน 76 นาย เสียชีวิต 6 นาย และยังคงสูญหายจำนวน 21 นาย (รอผลการพิสูจน์อัตลักษณ์เพื่อยืนยันตัวบุคคล 2 ราย)
พล.ร.อ.ปกครอง กล่าวว่า ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพเรือ ยังได้สั่งการให้ศูนย์ปฏิบัติการทัพเรือภาคที่ 1 จัดเรืออากาศยานของกองทัพเรือ ร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เข้าร่วมในการค้นหา โดยจัดกำลังประกอบด้วย เรือหลวงตากสิน อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 2 และ 6 เรือหลวงนเรศวร อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 9 และ10 พร้อมทั้งควบคุมอากาศยานในพื้นที่ เรือหลวงกระบุรี อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 1, 2, 3 และ 4 เรือหลวงนราธิวาส อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 5A และ 9A เรือ ต.114 อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 9A และ 12 เรือ ต.270 อยู่ในพื้นที่ค้นหาที่ 14 เรือหลวงกระบุรีอยู่ในพื้นที่ค้นหาบริเวณเรือหลวงสุโขทัย อับปาง มีการนำนักประดาน้ำการค้นหาผู้ประสบภัยบริเวณเรือหลวงสุโขทัยอับปาง และสำรวจตัวเรือภายนอกเพื่อค้นหาผู้ที่สูญหาย โดยอุปสรรคสำคัญขนาดนี้ คือ คลื่นใต้น้ำที่มีความแรง ซึ่งนักประดาน้ำก็จะมีการประเมินสถานการณ์และทำอย่างเต็มกำลังความสามารถ
โฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า การปฏิบัติการในครั้งนี้ กองทัพเรือขอขอบคุณทุกหน่วยงาน ซึ่งประกอบด้วย กองทัพบก กองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ท่าเรือบางสะพาน เรือน้ำมัน Straits Energy เรือน้ำมัน ศรีไชยา บ.พริม่าร์มารีน เรือสินค้า ภูมินรา สมาคมการบิน เฟรนด์ฟลายอิ้งคลับ จ.สมุทรสาคร กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มูลนิธิสว่างเมธีธรรมสถาน (อ.สามร้อยยอด) มูลนิธิสว่างราษฎร์ศรัทธาธรรมสถาน (อ.บางสะพาน) มูลนิธิประจวบธรรมสถาน (อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์) มูลนิธิสว่างรุ่งเรืองธรรมสถาน (อ.ทับสะแก) มูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน (อ.หัวหิน) มูลนิธิแผ่ไพศาลธรรมสถาน (อ.ปราณบุรี) มูลนิธิสว่างสรรเพชญธรรมสถาน(จ.เพชรบุรี) มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสถาน(จ.สมุทรสงคราม) มูลนิธิการกุศลสมุทรสาคร (จ.สมุทรสาคร) มูลนิธิสงเคราะห์การกุศลบางสะพานน้อย (อ.บางสะพานน้อย) มูลนิธิรัตนตรัยธรรมสถาน (จ.สระบุรี)
สภ.บางสะพาน ปภ.จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปภ.อำเภอบางสะพาน โรงพยาบาลบางสะพาน โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ อบต.แม่รำพึง ฝ่ายปกครองอำเภอบางสะพาน ฝ่ายปกครองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เหล่ากาชาดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เทศบาลตำบลบ้านกรูด กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 147 ตำรวจน้ำบางสะพาน (สลน.6 กก.4) บริษัท ท่าเรือประจวบ จำกัด เจ้าท่าภูมิภาคสาขาประจวบคีรีขันธ์ หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลบางสะพาน ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเล อ่าวน้อย อบต.พงศ์ประศาสตน์ บริษัท ลมสิงขร จำกัด อบต.กำเนิดนพคุณ สมาคมประมงบางสะพาน โดย นายกสมาคม และกลุ่มประมงพื้นบ้าน กู้ภัยอยุธยา กู้ภัยมังกรชลบุรี ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล (ศรชล.) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือ (ศคท.) จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เทศบาลตำบลกำเนิดนพคุณ จังหวัดชุมพร โดย ศูนย์อนุรักษ์ทางทะเล อบต.สะพลีอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะชุมพร เรือประมง 619 มูลนิธิเพชรเกษม มูลนิธิชุมพร และ มูลนิธิพุทธประทีป
ซึ่งหน่วยต่างๆ เหล่านี้ ได้บูรณาการการทำงานร่วมกัน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคเอกชน ที่มีความร่วมมือกันในหลายมิติ เพราะภารกิจในครั้งนี้จะสำเร็จไม่ได้หากทุกฝ่ายไม่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันโดยขอเป็นกำลังใจให้ทุกภาคส่วนร่วมแรงร่วมใจ ทั้งนี้กองทัพเรือจะปฏิบัติภารกิจในครั้งนี้อย่างเต็มกำลังความสามารถ และทำให้ดีที่สุดเพื่อพี่น้องของเรา เพราะทุกคนเป็นเหมือนคนในครอบครัวเดียวกัน