xs
xsm
sm
md
lg

เลขาฯ กกต.แจงแบ่งเขตเลือกตั้งยังต้องรอ กม.ลูกบังคับใช้-จำนวนประชากรสิ้นปี 65 ยัน สนง.กกต.พร้อมช่วยพรรคการเมืองถึงฝั่งฝัน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เลขาธิการ กกต. แจงแบ่งเขตเลือกตั้งยังต้องรอ กม.ลูกบังคับใช้-จำนวนประชากรสิ้นปี 65 ยัน สนง.กกต.พร้อมช่วยพรรคการเมืองถึงฝั่งฝันเลือกตั้ง

วันนี้ (21 ธ.ค.) นายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวในการอบรมเชิงปฏิบัติการแนวทางการดำเนินงานแก่สาขาพรรคการเมืองและตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัด รุ่นที่ (4) ตอนหนึ่ง ว่า สำหรับการเดินหน้าสู่การเลือกตั้ง ต้องมีกฎหมายและระเบียบ ซึ่งระเบียบออกไม่นานหากกฎหมายมีผลบังคับใช้แล้ว และต้องมีเขตเลือกตั้ง โดยการแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น สำนักงาน กกต.ยืนยันว่า ทำตามกฎหมาย เพียงแต่อาจจะไม่ถูกใจในทางการเมืองในบางพื้นที่บ้าง แต่คิดว่าเรามีคำอธิบาย ซึ่งขณะนี้ไม่มีข้อมูลเขตเลือกตั้งอยู่ที่ส่วนกลาง แต่มีข้อมูลเพื่อเตรียมการแบ่งเขตซึ่งแต่ละจังหวัดเตรียมไว้ อาจจะมีการศึกษาภูมิประเทศแต่ละจังหวัดเตรียมเบื้องต้น เพราะเรามีเวลาน้อย ดังนั้น เขตเลือกตั้งจึงเป็นข้อมูลในแต่ละจังหวัดที่มีการเตรียมไว้เมื่อมีกฎหมายออกมาบังคับใช้ ทั้งนี้การแบ่งเขตเลือกตั้งนั้น จะต้องรอ 2 เงื่อนไข คือ 1. กฎหมายและระเบียบ 2. จำนวนประชากร ณ วันที่ 31 ธ.ค. 65 ตอนนี้เรายังไม่มีจำนวนประชากรในมือ แต่มีการประสานกระทรวงมหาดไทยให้ประกาศข้อมูลประชากรโดยเร็ว ภายในต้นปี ไม่เกินวันที่ 10 ม.ค. 66 ซึ่งจุดนี้กระทบกับพรรคการเมือง เพราะทำให้เตรียมคนลงสมัครรับเลือกตั้งยังไม่ได้ เพราะไม่รู้ว่าเขตเลือกตั้งอยู่ตรงไหน ดังนั้นถึงอย่างไรก็ต้องรอเขตเลือกตั้ง เพราะมีความเปลี่ยนแปลงเป็น 400 เขตเลือกตั้ง

เลขาธิการ กกต. กล่าวอีกว่า ตามกฎหมายใหม่มีความสบายใจคือไพรมารีโหวตอ่อนตัว ทั้งเรื่องใช้ 1 สาขา หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดทำให้พรรคสามารถส่งผู้สมัครได้ง่ายกว่าเดิม และเรื่องการประชุมไม่ได้เข้มข้นเหมือนแบบเดิม ซึ่งถ้าเป็นการทำไพรมารีตามกฎหมายเดิมพูดได้เลยว่าไม่มีพรรคไหนส่งผู้สมัครได้ครบ อย่างไรก็ตามเมื่อกฎหมายยังไม่ออก จำนวนประชากรยังไม่ประกาศ เขตเลือกตั้งยังไม่มี ก็จะกลายเป็นการผลักเรื่องพวกนี้ไปที่พรรคการเมือง ดังนั้นอยากให้ศึกษากฎหมายใหม่ และหารือสำนักงาน กกต. ซึ่งยืนยันว่า สำนักงาน กกต.จะทำงานร่วมกับพรรคการเมืองเหมือนที่เคยทำ และในการเลือกตั้งครั้งนี้ก็จะทำงานใกล้ชิดกว่าเดิม นอกจากนี้ฝากเรื่องค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของพรรค เพราะเวลาบังคับใช้ในการหาเสียงต่างกัน หากครบวาระ 180 วัน และยังนับต่อไปอีก 45 วัน ซึ่งหมายความว่าตอนนี้เราอยู่ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งหากไม่ยุบสภา ดังนั้น ค่าใช้จ่ายอะไรที่เกิดขึ้นให้เก็บหลักฐานไว้ อีกทั้งในส่วนของค่าใช้จ่ายหาเสียง ผู้สมัคร กับพรรคจะแยกกัน เพราะเป็นคนละเบอร์กัน ดังนั้นเวลาหาเสียงก็จะมี 2 เบอร์ จะทำให้ค่าใช้จ่ายในการหาเสียงต่างไปจากแบบเบอร์เดียวกัน

“จากนี้ไปประมาณ 3 เดือนจะครบวาระ แต่ก่อนครบวาระอาจจะมีเหตุอื่นเกิดขึ้นก็ได้ แต่ยืนยันว่า สำนักงาน กกต.พร้อมให้คำตอบทั้งเรื่องความรู้และวิธีปฏิบัติให้กับทุกพรรค ขอให้ความมั่นใจว่าสำนักงาน กกต. จะร่วมกับพรรคการเมืองเพื่อให้ผ่านไปได้จนถึงวันเลือกตั้งด้วยดี”




กำลังโหลดความคิดเห็น