ประธานกรรมการการเลือกตั้ง ยันปมชดใช้ใบส้ม “สุรพล” ไม่ทำ กกต.ขยาดแจกใบเหลือง-ใบแดง ในการเลือกตั้ง
สั่ง สนง.เร่งคัดคำพิพากษา คาด สัปดาห์หน้าชัดเจนหลังเข้าที่ประชุมพิจารณา ระบุ ยังไม่มีสัญญาณยุบสภา แต่กกต.พร้อมจัดการเลือกตั้งทุกสถานการณ์
วันนี้ (21 ธ.ค.) นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้สัมภาษณ์กรณีศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษายืนตามศาลชั้นต้นให้ กกต.ชดใช้ค่าเสียหายจำนวน 56.7 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยให้แก่ นายสุรพล เกียรติไชยากร ผู้สมัคร ส.ส.เชียงใหม่ เขต 8 พรรคเพื่อไทย กรณีแจกใบส้มนายสุรพลในช่วงการเลือกตั้งปี 2562 ว่า ได้รับทราบคำพิพากษาของศาลอุทธรณ์เมื่อวาน (20 ธ.ค.) ซึ่งเราเคารพคำพิพากษา ส่วนในรายละเอียดหลักปฏิบัติในการทำงาน ทางสำนักงาน กกต. จะไปศึกษารายละเอียด และคัดคำพิพากษา เพื่อศึกษาแนะนำมาแจ้งต่อที่ประชุม กกต.ทราบ ในสัปดาห์หน้า และอาจจะเสนอแนวทางการพิจารณาดำเนินการต่อไป ส่วนการยื่นฎีกาคำพิพากษาเป็นประเด็นหนึ่งที่อยู่ในวาระการพิจารณาของที่ประชุม กกต.สัปดาห์หน้า โดยจะพิจารณาในรูปแบบขององค์คณะ รวมทั้งจะฟังความเห็นของสำนักงานกกต.ที่ได้เสนอต่อคณะกรรมการด้วย คาดว่าจะมีมติที่ชัดเจน
เมื่อถามว่า คำพิพากษาดังกล่าวจะส่งผลกระทบต่อ กกต. ในการพิจารณาการแจกใบเหลืองใบแดงในการเลือกตั้งครั้งหน้าหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า ไม่เป็นปัญหาเพราะ กกต.ทำตามอำนาจหน้าที่ ถ้าเราเห็นเป็นอย่างไรก็ต้องทำไปตามนั้น ซึ่งการตัดสินใจจะเป็นอย่างไรขึ้นอยู่กับคณะกรรมการ
นายอิทธิพร ยังกล่าวถึง การเตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปีหน้า ว่า ยังไม่ได้มีสัญญาณอะไรพิเศษ ได้ยินแต่จากสื่อมวลชน หรือตามความเคลื่อนไหวทางการเมือง แต่หน้าที่ของ กกต.คือ การเตรียมความพร้อมจัดการเลือกตั้งครั้งต่อไปให้ดีที่สุด นั่นเป็นเป้าหมายของ กกต. กรณีสภาครบวาระในวันที่ 23 มี.ค. 2566 กกต.จะต้องเตรียมการจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน ซึ่ง กกต.เตรียมความพร้อมมาโดยตลอด เพราะมีบทเรียนศึกษาการปฏิบัติหน้าที่ในการเลือกตั้งปี 2562 อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่วันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา เราได้ประชุมกับ ผอ.กกต.จังหวัดทั่วประเทศ ซักซ้อมความเข้าใจลงรายละเอียด และครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ได้มีการทบทวนกับ ผอ.กกต.จังหวัด อีกครั้ง และหลังจากที่ร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง และร่างพ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีผลบังคับใช้ กกต.ได้เตรียมร่างระเบียบต่างๆรองรับไว้แล้ว ซึ่งสามารถพิจารณา และนำไปประกาศในราชกิจจาฯต่อไป ทั้งนี้ เรื่องของการแบ่งเขตเมื่อถึงเวลาที่สามารถดำเนินการได้ กกต.ก็จะเริ่มกระบวนการแบ่งเขต
เมื่อถามถึงการเตรียมความพร้อมกรณีการเกิดอุบัติเหตุทางการเมืองหรือการยุบสภา ซึ่งจะใช้เวลาในการจัดการเลือกตั้งน้อยกว่าการเลือกตั้งทั่วไป กกต.พร้อมดำเนินการหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า กกต.ได้เตรียมความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งในทุกสถานการณ์ ทั้งกรณีการครบวาระที่จะเกิดการเลือกตั้งขึ้น ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่มีกฎหมายรองรับทั้งหมด หากกรณียุบสภาเราต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45-60 วัน แต่ตามวาระปกติต้องจัดการเลือกตั้งภายใน 45 วัน เพราะฉะนั้น กกต.ได้คำนึงทั้ง 2 กรณี ย้ำว่ากกต.ได้เตรียมความพร้อมไว้หมดแล้ว
ส่วนที่ขณะนี้ใกล้ถึงเทศกาลปีใหม่การลงพื้นที่ของนักการเมืองและพรรคการเมืองต้องเป็นไปตามกฎหมาย ซึ่ง กกต.ได้มีการชี้แจงหลายครั้งแล้ว โดยในช่วง 180 วัน เริ่มวันที่ 23 ก.ย. ซึ่งมีความชัดเจนในเรื่องของการปฏิบัติในช่วงเวลาต่างๆ หวังว่า จะมีการปฏิบัติที่ถูกต้องครบถ้วน หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามมาที่ กกต.ได้
สำหรับกรณี ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ติดประกาศป้ายไวนิลปฏิทินปีใหม่คู่กับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และมีพรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งถูกมองว่า มีความผิด ประธาน กกต. กล่าวว่า ได้รับทราบจากข่าวแล้ว สำนักงาน กกต.ซึ่งเป็นฝ่ายเลขาฯ จะต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นควบคู่กันไป ไม่ว่าจะมีผู้ร้องหรือไม่ก็ตาม แต่ผลเป็นอย่างไรก็ต้องเสนอเข้าสู่ที่ประชุม กกต.
เมื่อถามอีกว่า ขณะนี้มีการดูด ส.ส.ไปมา มีสัญญาณอะไรผิดปกติหรือไม่ นายอิทธิพร กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่สามารถตอบได้ เพราะเป็นเรื่องการตัดสินใจของแต่ละปัจเจกบุคคล ในฐานะที่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง ส่วนเรื่องของการสังกัดพรรคนั้น เชื่อว่า มีความชัดเจนแล้วว่าจะนับวันอย่างไร
