คุณภาพอากาศดีขึ้นแต่กรมควบคุมมลพิษยังเตือนเฝ้าระวัง PM2.5 สาธารณสุขแนะสวมหน้ากากอนามัยป้องกันทั้งฝุ่นละอองและโควิด19
วันนี้ (19 ธ.ค.) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กรมควบคุมมลพิษ ได้รายงานถึงสถานการณ์คุณภาพอากาศในหลายพื้นที่ทั่วประเทศในระยะนี้อยู่ในเกณฑ์ดีถึงดีมาก ซึ่งรวมถึงกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่ปริมาณฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 ได้ลดลงไม่เกินค่ามาตรฐาน เนื่องด้วยอัตราการระบายอากาศที่ดี ประกอบกับมีลมตะวันออกเฉียงเหนือกำลังแรงเข้าช่วย
อย่างไรก็ตาม กรมควบคุมมลพิษยังคงมีคำเตือนให้ประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑลเฝ้าระวังสถานการณ์ PM 2.5 เนื่องจากขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยายังคงพยากรณ์สภาพอากาศที่ความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงปกคลุมประเทศไทย บางช่วงเวลาที่อากาศนิ่งไม่มีลมจะทำให้ปริมาณฝุ่นละอองสูงขึ้น โดยต้องเฝ้าระวังสถานการณ์ฝุ่นละอองที่จะกลับมาเพิ่มอีกครั้งตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 23 ธ.ค. 65 เป็นต้นไป
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า ในช่วงสภาพอากาศยังคงเปลี่ยนแปลงนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้เตือนประชาชนให้ดูแลแลสุขภาพจากทั้งสภาพอากาศหนาวและภาวะฝุ่น PM 2.5 โดยมีกลุ่มเสี่ยงที่ต้องดูแลเป็นพิเศษคือ เด็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคระบบทางเดินหายใจ หอบหืด
น.ส.ไตรศุลี กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้แนะนำช่องทางที่ประชาชนสามารถติดตามสถานการณ์ฝุ่นละอองอยู่เสมอ จากแอปพลิเคชัน Air4Thai หรือเว็บไซต์ //air4thai.pcd.go.th ของกรมควบคุมมลพิษ พร้อมแนะนำข้อปฏิบัติตนจากระดับสีค่าฝุ่น PM2.5 จากเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ซึ่งจะแจ้งคุณภาพอากาศตั้งแต่ระดับดีมากไปจนถึงระดับมีผลกระทบต่อสุขภาพ แนะนำสามารถมีกิจกรรมปกติได้จนถึงหลีกเลี่ยงกิจกรรมกลางแจ้ง
“กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุขแนะนำว่าการป้องกันดีที่สุดคือการหลีกเลี่ยงการสูดฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ร่างกาย แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้ก็จำเป็นต้องสวมหน้ากากป้องกันฝุ่น อาทิสวม หน้ากาก N95 หน้ากากอนามัย หน้ากากผ้า ที่นอกจากจะสามารถป้องกันฝุ่น PM2.5 เข้าสู่ร่างกายได้แล้ว ยังสามารถป้องกันโควิด19 ที่มีการแพร่ระบาดมากขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่อากาศเอื้อต่อการกระจายตัวของไวรัส” น.ส.ไตรศุลี กล่าว