ข่าวปนคน คนปนข่าว
**"โหนจ๊ะโหน" "อ้วน-ภูมิธรรม" แซะ "พิธา" ใครญาติดีด้วย วิวาทะกก.-พท. "เจี๊ยบ" ฟาดกลับถามกี่ขวบ?
กลายเป็นศึกสนั่นโซเชียลฯ น้ำลายแตกฟอง หลังจากเมื่อวันก่อน "พิธา ลิ้มเจริญรัตน์" หัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่งสัญญาณทอดสะพานไมตรีระหว่างพรรคก้าวไกล กับ เพื่อไทย เป็น "คู่จิ้น" ที่พร้อมจะจับขั้วตั้งรัฐบาล ว่ามีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมาตลอด ตั้งแต่ในอดีต ปัจจุบัน และหวังว่าในอนาคต เมื่อเริ่มแถลงนโยบายก็มีหลายเรื่องที่เห็นตรงกัน ถ้าเป็นรัฐบาลร่วมกัน ก็สามารถที่จะแบ่งงานกันทำได้ และทำงานไปในทิศทางเดียวกัน
คล้อยหลังการแสดงออกจองเป็นคู่รักชั่วข้ามคืน ปรากฏว่า มีปฏิกิริยาตอบรับจาก "อ้วน" ภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ได้ทวีตข้อความในข่าวดังกล่าวของ พิธา โดยโพสต์ว่า “โหนจ๊ะโหน!! คำพูด และการกระทำต้องสอดคล้องกันนะครับ!!??”
นี่แทบไม่ต้องแปลไทยเป็นไทยให้เมื่อยตุ้มว่า “เพื่อไทย” ยินดีกับความสัมพันธ์ที่ก้าวไกลเคลมไว้แค่ไหน หรือ พูดแบบบ้านๆ ว่า ใครญาติดีด้วย พิธา "มโน" ไปเองทั้งนั้น เพราะแต่ไหนแต่ไรมา คำพูดไม่สอดคล้องกับการกระทำนั่นเอง หรืออีกนัยหนึ่ง อาจเป็นเพราะ “ก้าวไกล” มองเห็นโอกาสที่พรรคเพื่อไทยที่ "ครอบครัวชินวัตร" หมายมั่นปั้นมือว่า จะ"แลนด์สไลด์" เป็นพรรคอันดับหนึ่ง จัดตั้งรัฐบาลจึงออกมาห้อยโหน
แน่นอนว่า โพสต์นี้ของ “อ้วน-ภูมิธรรม” มีติ่งเพื่อไทยและก้าวไกล เข้ามาแสดงความเห็นคึกคัก มีทั้งด้อยค่า “พิธา-ก้าวไกล” เห็นไปในทางเดียวกับ “ภูมิธรรม”
ขณะที่ฝ่ายที่รักก้าวไกล ไม่รังเกียจครอบครัวชินวัตร ก็พยายามประนีประนอม อยากให้สองพรรคร่วมรัฐบาล ต่อต้านเผด็จการ ว่าไปนู่น
และมีไม่น้อยที่เห็นว่า หากเริ่มต้นก็ตีกัน เพื่อไทยไม่อยากร่วมรัฐบาลกับก้าวไกล แล้วใครจะแก้ปัญหาประเทศ
เมื่อความเห็นตีกันนัว ก็เป็นช่วงเวลาร่วมด้วยช่วยฟาดตามบทถนัดของ "เจี๊ยบ" อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ร่ายนิ้วทวีต ว่า “ก่อนอื่นเลยอยากทราบว่าเป็นบัญชีทวิตเตอร์ของคุณภูมิธรรม จริงหรือไม่ ?” ต่อด้วยการโพสต์อีกว่า “ภูมิธรรม เวชยชัยนี่อายุกี่ขวบ?”
งานนี้จะแรงไม่แรงไม่รู้ แต่ขอเจ้ฟาดก่อนโทษฐานมาแตะพรรค และหัวหน้าพิธา!!
ก่อนที่ศึกนี้จะบานปลายกู่ไม่กลับ "วิโรจน์ ลักขณาอดิศร" หัวหน้าคณะทำงานขับเคลื่อนนโยบาย กทม. พรรคก้าวไกล ดูทรงแล้วจะปล่อย "เจี๊ยบ อมรัตน์”มันมือเห็นจะไม่ได้การ จึง ทวีตถึงกรณีนี้โดยระบุว่า “หลายคน Tag ให้ผมมาอ่านทวีตนี้ของพี่อ้วน (ภูมิธรรม) พออ่านแล้ว ผมไม่ได้กังวลกับพิธาเลยครับ เพราะเชื่อว่า พิธาเข้าใจดี แต่ผมเป็นห่วงความรู้สึกของพี่อ้วนมากกว่า ถ้าพี่อ้วนไม่สบายใจอะไร หากมีโอกาสได้พูดคุยกัน ผมจะพยายามอธิบายให้พี่อ้วนสบายใจขึ้นนะครับ”
สรุปว่างานนี้ ยังไม่ทันเลือกตั้ง “ก้าวไกล”แบะท่าขอร่วมหัวจมท้ายกับ “เพื่อไทย” แต่อีกฝ่ายแสดงอาการรังเกียจอย่างเห็นได้ชัด! จะเพราะอะไรยังไง?นั้น ลึกๆ เชื่อว่า คอการเมืองที่ติดตามความเคลื่อนไหวของทั้งสองพรรคจะรู้ดี
สิ่งที่ เพื่อไทยพยายามอยู่ห่างๆก้าวไกล ไม่ใช่แค่ คำพูดไม่ตรงกับการกระทำ หากกลัวถูกเหมารวม และกลัวก้าวไกล จะเอาภาพลักษณ์ "ที่เห็นและเป็นอยู่" มาตั้งแต่เป็น "อนาคตใหม่" สมัย "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" และ คู่หู “ปิยะบุตร แสงกนกกุล” ที่รู้ๆกัน ผลักดันเป็นอยู่เรื่องเดียวมาแปดเปื้อน ฉุดคะแนนนิยมเสียมากกว่า...ดังนั้น นาทีนี้เรื่องอะไรจะเออออ
ส่วนหลังเลือกตั้งระหว่างคู่นี้ จะกลืนน้ำลาย หน้ามืดตามัว จับคู่กันก็ไม่แปลก ...เพราะการเมืองย่อมไม่มีมิตรแท้ ศัตรูถาวร เหตุผลร้อยแปดจะถูกหยิบยกมาเอ่ยอ้างเพื่อผสมพันธุ์กันเป็นธรรมดา ธรรมชาติของนักการเมือง แต่ว่า ก่อนจะมโนร่วมกันจัดตั้งรัฐบาล เงื่อนไขสำคัญข้อแรก.. ชนะเลือกตั้งให้ได้ก่อน แล้วก็ถามลุงๆ ด้วยนะจ๊ะ
**"ลุงตู่" มั่นใจ รทสช. มี40 ส.ส.แสดงตัวหนุน ส่วน พปชร.แม้เลือดจะไหล แต่ “ลุงป้อม”ก็ร้องเพลง “ยังยิ้มได้”
ก่อนเดินทางไปร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน - สหภาพยุโรป สมัยพิเศษเพื่อฉลองวาระครบรอบ 45 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-สหภาพยุโรป ที่กรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม “ลุงตู่” บอกว่ากลับมา จะมีความชัดเจนในทางการเมือง ว่าจะเอาอย่างไร
เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) “ลุงตู่” เดินทางกลับมาแล้ว ทันทีที่ถึงประเทศไทยก็ถูกทวงถามความชัดเจนจากนักข่าวแบบจะให้ “ลุงตู่” พูดออกมาจากปากให้ชัดๆ ว่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ หรือไม่ เมื่อไร จะเป็นแคนเดิเดตนายกฯ ของพรรคนี้หรือไม่...
แต่“ลุงตู่”ก็ยังคงตอบแบบให้ต้องไปตีความเอาเอง ว่า...อยู่กันถึงวันนี้ ยังไม่รู้เรื่องเลยหรือไง...คิดเอาเองบ้าง เพราะทุกทีเวลาคิดเอาเอง เขียนเอาเอง ยังคิดได้...เดี๋ยวถึงเวลาก็พูดเอง
หากตีความตามที่พูด ก็คงได้คำตอบว่า...ไป รทสช.แน่ เพียงแต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่จะพูด เพราะยังเป็นนายกรัฐมนตรี ตามบัญชีของพรรคพลังประชารัฐอยู่
ที่บรรดาสื่อมั่นใจว่าไปแน่ เพราะมีข่าวอินไซด์มาว่า เมื่อสัปดาห์ก่อน(8 ธ.ค.)มีส.ส.ประมาณ 40 คน จากหลายพรรค ทั้ง ประชาธิปัตย์ พลังประชารัฐ เพื่อไทย และก้าวไกล ได้ไปร่วมรับประทานอาหารกับ “ลุงตู่” ที่ห้องอาหารแห่งหนึ่งใกล้ๆ กับที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ เพื่อแสดงตัวให้มั่นใจว่า ถ้า “ลุงตู่”เป็นแคนดิเดตนายกฯของ รทสช. ไม่มีฟาวล์แน่ พร้อมเปิดใจว่าจะหนุนให้เป็นนายกฯต่อ แม้จะเหลือเวลาอีกแค่ 2 ปีก็ตาม
และให้จับตาดูว่าในเร็ววันนี้ “ลุงตู่” จะแต่งตั้ง “พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” ที่ปรึกษานายกฯ และหัวหน้าพรรครทสช. ขึ้นเป็นเลขาธิการนายกรัฐมนตรี แทน“ดิสทัต โหตระกิตย์” เพื่อเข้ามาขับเคลื่อนการศึกเลือกตั้ง เป็นศูนย์กลางในการประสานงานให้กับ “ลุงตู่”
อีกประการให้จับตา เมื่อเวลา “ลุงตู่” เปิดตัว ก็จะมี “ลุงป๊อก” พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย มาร่วมงานด้วย และสังเกตให้ดีสัปดาห์หน้า “ลุงตู่กับลุงป๊อก” จะควงคู่กันลงพื้นที่ จ.เชียงราย เป็นการส่งสัญญาณให้ส.ส.ที่จะย้ายมาอยู่ด้วยได้อุ่นใจ...
คราวนี้มาดูความเคลื่อนไหวของพรรคพลังประชารัฐบ้าง แม้จะมีส.ส.จำนวนหนึ่งย้ายค่าย เปลี่ยนโปร ไปอยู่กับพรรคภูมิใจไทย ของ“เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล และส่วนหนึ่งจะตาม“ลุงตู่” ไปอยู่พรรค รทสช.
แต่ “วิรัช รัตนเศรษฐ” รองหัวหน้าพรรค บอกว่ามีไหลออก ก็มีไหลเข้า อย่าง “นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ”ก็มาแล้ว “เรืองไกร ลีกิจวัฒนะ” อดีตสมาชิกพปชร. ก็จะกลับมาสมัครเป็นสมาชิกใหม่ จัดวางคนไว้เกือบครบแล้ว บางพื้นที่ บางเขต ถึงกับมีปัญหาทับซ้อน แย่งกันเสนอตัวลงสมัครด้วยซ้ำ
พร้อมยกสถิติการเลือกตั้งที่ผ่านๆมา ว่าคนเก่าจะเข้ามาได้เพียง 60 เปอร์เซ็นต์ นอกนั้นเป็นผู้แทนหน้าใหม่ ก็หวังว่าอย่างน้อย ส.ส.ใหม่ 35 เปอร์เซ็นต์ จะเป็นคนของ พปชร.
“วิรัช” ยังบอกว่า ถ้าใครได้ทํางานใกล้ชิดกับ “ลุงงป้อม” จะรู้ว่าตอนนี้ท่านเป็นนักการเมืองเต็มตัวแล้ว มีประสบการณ์ ปรองดองสมานฉันท์ได้เกือบทุกพรรค แบบว่าเป็นมืออาชีพแล้ว
ดังนั้นการที่มีส.ส.ที่ย้ายออก จึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องวิตกเลย ... “ตอนนี้ ลุงป้อม ร้องเพลงยังยิ้มได้ ของพลพลทุกวัน ลงพื้นที่แต่ละครั้ง ก็มีประชาชนมาขอหอมแก้มทั้งนั้น”
ขอเตือนแคนดิเดตนายกฯพรรคอื่นว่า ต้องเตรียมตัวให้ดี หากคิดจะมาสู้กับลุงป้อม !!
