“อัษฎางค์” ชำแหละนโยบาย “ทักษิณคิด เพื่อทักษิณทำ” ขายฝัน เวอร์ชัน “อุ๊งอิ๊ง” นักวิชาการ ตั้ง 8 คำถาม ท้าทาย ทำได้จริงหรือ “พี่ศรี” อ้างร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ดแจงค่าใช้จ่ายต่อวันสูงลิบ สู้ค่าแรง 600 บาท ไม่ไหว
น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง วันนี้ (7 ธ.ค. 65) เพจเฟซบุ๊ก เอ็ดดี้ อัษฎางค์ ยมนาค ของ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ โพสต์ภาพ พร้อมข้อความระบุว่า
“โทนี่เอ๋ย ชาวไทยเอ๋ย
Tomorrow Never Comes
ไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับพรรคเพื่อทักษิณและนโยบายเพื่อ(คน)ไทย จริง!
นโยบายทักษิณคิด พรรคเพื่อทักษิณทำ
“พรุ่งนี้เพื่อไทย วันนี้เพื่อพ่อใคร”
20 บาท 600 บาท น้ำคำที่พ้นออกมาจากปาก แล้วในที่สุดจะจากไปกับสายลม
……………………………………………………………….
อุ๋งอิ๋ง เสนอนโยบายขายฝัน พรุ่งนี้เพื่อไทย ค่ารถโดยสารไฟฟ้า 20 บาท ค่าแรงขึ้นต่ำ 600 บาท ชื่อนโยบายก็บอกชัดๆ ว่า พรุ่งนี้เพื่อไทย ดังนั้น นโยบายทั้งหลาย (อาจจะ) เกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้ but tomorrow never comes แต่ไม่มีวันพรุ่งนี้สำหรับเพื่อทักษิณและเพื่อไทย
ที่บอกว่าไม่มีวันพรุ่งนี้ เพราะนโยบายที่ว่า ไม่มีวันเกิดขึ้นได้จริง ขอยกนโยบาย 20 บาทตลอดสาย ซึ่งถูกนำมาขายฝันผ่านมา 3 พรรคเพื่อทักษิณเป็นตัวอย่าง
……………………………………………………………….
รถไฟฟ้า 15-20 บาทตลอดสาย “ไทยรักไทย-พลังประชาชน และเพื่อไทย” นำเสนอมาแล้ว 3 ครั้ง
ย้อนไปวันที่ 20 มกราคม 2565 นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. กทม. โพสต์ข้อความระบุว่า
ไทยรักไทย ประกาศ 15 บาท ตลอดสาย โดนรัฐประหารพลังประชาชนยืนยัน 15 บาทตลอดสาย โดนยุบพรรค
เพื่อไทยประกาศ 20 บาทตลอดสาย โดนรัฐประหารอีกครั้งหนึ่ง
ถ้าไม่มีรัฐประหาร ป่านนี้คนไทยได้ขึ้นรถไฟฟ้าราคาไม่แพงกันนานแล้ว
21 มกราคม 65 นายแพทย์สุรพงษ์ สืบวงศ์ลี อดีตเลขาธิการพรรคพลังประชาชน กล่าวในรายการ Talking Thailand ทาง Voice TV ถึงกรณีที่ นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย ออกมาเปิดเผยว่า พรรคเพื่อไทยเคยนำเสนอนโยบายค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย และมีหนทางที่สามารถเป็นไปได้จริง ซึ่งต่อมาพรรคเพื่อไทย ก็ได้เคยนำเสนอค่ารถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย มาแล้วเมื่อปี 2554
……………………………………………………………….
มาดูกันว่า
ที่เขาอ้างว่า นโยบาย 20 บาทตลอดสาย ทำได้จริง แต่ที่ไม่เคยเกิดขึ้น เนื่องจากถูกรัฐประหารและถูกยุบพรรค ความจริงเป็นอย่างไร
• รัฐประหารรัฐบาลทักษิณ 2549
เกิดจากรัฐบาลทุจริต
เกิดมาจากการทุจริตจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร กล่าวคือ เกิดการทุจริตด้วยผลประโยชน์ทับซ้อน การใช้อำนาจในทางมิชอบ การละเมิดจริยธรรมคุณธรรมของผู้นำประเทศ การแทรกแซงระบบการตรวจสอบทางการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ข้อผิดพลาดเชิงนโยบายที่นำไปสู่การละเมิดสิทธิเสรีภาพและการบ่อนทำลายความสามัคคีของคนในชาติ
• ยุบพรรคพลังประชาชน 2551
เกิดจากรัฐบาลทุจริต
คณะกรรมการการเลือกตั้งพิจารณาคดีแล้วเห็นว่า ปรากฏหลักฐานเพียงพอที่พรรคพลังประชาชนเข้าข่ายเป็นตัวแทนของพรรคไทยรักไทย
ตุลาการรัฐธรรมนูญ ตัดสินว่า นายยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตรองหัวหน้าพรรคกระทำการฝ่าฝืนและขัดต่อ พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2550 ที่มีผลทำให้การเลือกตั้งไม่เป็นไปโดยสุจริต และได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองที่ไม่เป็นไปตามวิถีทางของรัฐธรรมนูญ
• รัฐประหารรัฐบาลยิ่งลักษณ์ 2557
เกิดจากรัฐบาลทุจริต
เกิดมาจากการทุจริตจากการบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เช่น นโยบายโครงการจำนำข้าว ซึ่งนำไปสู่ความขัดแย้งทางความคิดการเมืองอย่างรุนแรง เกิดการปลุกระดมมวลชนโดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของชาติและประชาชน
สรุป
รัฐบาลพรรคเพื่อทักษิณถูกรัฐประหาร 2 ครั้ง กับถูกยุบพรรค 1 ครั้ง ด้วยสาเหตุมาจากรัฐบาลทุจริต
ดังนั้น ก็หมายความว่า นโยบายสวยหรูต่างๆ นานาของพรรคเพื่อทักษิณ (ไม่ว่าจะใช้ชื่อว่าอะไร) ถูกสอดไส้ด้วยการทุจริตคอร์รัปชันใช่หรือไม่
แล้วนโยบายล่าสุดเวอร์ชันแพทองธาร ย่อมส่อแววว่าจะสืบสันดานพฤติกรรมเก่าๆ ของพรรค House of Tony ได้ไม่ยาก
……………………………………………………………….
นโยบายทักษิณคิด พรรคเพื่อทักษิณทำ เวอร์ชันแพทองธาร
วันนี้ (6 ธ.ค.) แพทองธาร ชินวัตร ประธานคณะที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรม พรรคเพื่อไทย และหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย กล่าวในการประชุมใหญ่วิสามัญ ประจำปี 2565 ว่า
ภายในปี 2570 ภายใต้รัฐบาลพรรคเพื่อไทย หากบริหารประเทศนาน 4 ปี กล่าวคือ จากปี 2566 จนถึงปี 2570
• พรรคเพื่อไทยจะทำให้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของประเทศเติบโตอย่างต่ำเฉลี่ยร้อยละ 5% ต่อปี
• ในปี 2570 คนไทยต้องได้ค่าแรงขั้นต่ำให้สมกับศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคนไทย คือ ไม่ต่ำกว่า 600 บาทต่อวัน เงินเดือนของผู้จบการศึกษาระดับปริญญาตรีอยู่ที่ 25,000 บาทขึ้นไป
• นโยบายด้านโครงสร้างพื้นฐาน ปัญหาน้ำท่วมน้ำแล้ง จะถูกแก้ไขทั้งระบบทั่วประเทศ
• รถไฟฟ้าสายต่างๆ ในกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ถูกจัดระเบียบใหม่ เพื่อใช้ระบบตั๋วร่วม 20 บาทตลอดสาย ได้ก่อนปี 2570 แน่นอน
……………………………………………………………….
จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของพรรค House of Tony กับนโยบายทักษิณคิด พรรคเพื่อทักษิณทำ
กับหนึ่งมันสมองของทักษิณ กับสองมือของอวตารทำ
ด้วยน้ำคำขายฝันที่พ่นออกมากจากปากทักษิณ ผ่านอวตารคนแล้วคนเล่าจนถึงคนล่าสุดคนนี้จะมีอะไรที่แตกต่างไปจากเดิม
นอกจากขายฝันให้กับคนไทย แล้วเข้ามาสอดไส้ความทุจริตคอร์รัปชัน
พรุ่งนี้เพื่อไทย
วันนี้เพื่อพ่อใคร
คนไทยย่อมรู้ดี”
ขณะเดียวกัน เพจเฟซบุ๊ก The METTAD โพสต์ข้อความระบุว่า
“รถไฟฟ้า 20 บาท กลับมาอีกแล้ว 😂😂😂😂😂😂”
พร้อมกับแชร์ โพสต์เฟซบุ๊กของ Pat Hemasuk ของนายภัทร เหมสุข นักวิชาการอิสระ ระบุว่า
“ผมเห็นไฮไลต์นโยบายของพรรคเพื่อไทยแล้ว มีคำถามมากมายในหัวที่อยากจะคิดออกมาดังๆ
1. ค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน
*** ทุกวันนี้ช่างฝีมือก็ต้องจ้างราคานี้อยู่แล้วครับ บางคนฝีมือเฉพาะทาง 800-1000 บาท ยังไม่อยากจะมาเลย แต่จะให้ขั้นต่ำ 600 บาท เท่ากันทั่วหน้า ตั้งแต่ ดายหญ้า ทำสวน แรงงานไร้ฝีมือในอุตสาหกรรมก่อสร้าง ล้างจาน ช่วยงานครัว ผู้ประกอบการระดับ เล็ก กลาง ใหญ่ คงอยู่ได้หรอกครับ จ้างพม่ายังจ่ายน้อยกว่านี้ และแรงงานพม่าส่วนมากจะหนักเอาเบาสู้ ขยันกว่าคนไทยด้วย ลองถามผู้ประกอบการรายเล็กรายใหญ่แถวมหาชัยดูก็ได้
2. ป.ตรี 25,000 บาทขึ้นไป
*** ออกนโยบายสร้างงานให้ผู้ประกอบการมีเงินรายได้เพียงพอจะจ่ายเด็กใหม่เริ่มต้นที่สองหมื่นในห้าเท่านี้น่าจะดีกว่าครับ แล้วเงินเดือนข้าราชการ ลูกจ้างชั่วคราวในภาครัฐ ต้องเพิ่มงบประมาณทั้งประเทศเท่าไรครับ เพราะถ้าเลื่อนขั้นเงินเดือนขั้นต่ำเด็กจบใหม่เป็น 25,000 บาท แล้วคนที่ทำงานมาก่อนหน้านั้นจะรับน้อยกว่าก็ไม่ได้ คือ ต้องปรับตารางเงินเดือนภาครัฐกันยกแผง งบประมาณเงินเดือนภาครัฐต้องเพิ่มอีกหลายแสนล้านบาทต่อปี
แล้วอีกอย่างคือ เงินเดือนเท่านี้กับเด็กจบใหม่ที่มีคุณภาพ จบสาขามีความต้องการในตลาด ในภาคเอกชนเขาจ่ายกันมากกว่านี้อยู่แล้ว บางคนเริ่มที่เกือบสี่หมื่นบาท แต่บางสาขาที่ล้นตลาดถ้าตั้งเงินเดือนขนาดนี้ คงต้องมีคนจบใหม่ไปตักแกงขายตามตลาดนัดกันมากมาย เพราะจะหาคนจ้างยากขึ้น จะจ้างเด็กจบใหม่สี่คนในสาขาที่ธรรมดาที่ไม่ใช่สาขาวิชาชีพพิเศษ เจ้าของกิจการต้องหาเงินมาจ้างหนึ่งแสนต่อเดือน ธุรกิจขนาดเล็ก และกลางเล็ก อยู่ยากแน่นอนครับ
อีกอย่างเผื่อจะไม่รู้ แรงงานพม่าเรียนจบ ป.ตรี มาทำงานขายแรงงานในเมืองไทยเพียบไปหมด พวกนี้อัปเกรดได้ง่ายมาก ฉลาดหัวไวไม่ต่างกับเด็กของเราหรอกครับ
3. GDP ประเทศเติบโต 5% ต่อปี
ความสามารถสูงขนาดนี้ไปเป็นนายกฯ ประเทศในยุโรปได้หลายประเทศเลยครับ รวมทั้งญี่ปุ่นด้วย ปธน.ไบเดน ยังทำให้สหรัฐฯ ในช่วงปีแรก และ Q1-Q3 แบบนิ่งๆ ไม่สวิงดิ่งลงไม่ได้เลย เพราะยิ่งประเทศมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ยิ่งเข็นยากขึ้น ยกตัวอย่าง ลาว พม่า เขมร ซิมบับเว อูกันดา ฯลฯ ประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจเล็กอะไรทำนองนี้ มีเงินเพิ่มขึ้นเท่ากับรายได้ของจังหวัดสมุทรสาคร ระยอง ชลบุรี ตัวเลข GDP ของประเทศก็พุ่งขึ้นแล้ว แต่กับประเทศไทยมันไม่ใช่ มูลค่ามันสูงกว่านั้นมากมาย ขนาดของมวลรวมของไทยมีขนาดใหญ่อุ้ยอ้ายมากกว่ากันหลายเท่าตัว ถ้าพรรคเพื่อไทยประกันตัวเลขได้ขนาดนี้ก็รัฐบาลทิพย์แล้วครับ
4. อัปเกรด 30 บาทรักษาทุกโรค
*** จะย้อนยุคไปสมัย 30 บาทอีกหรือครับ เราไปไกลกว่า 30 บาทมามากมายหลายปีแล้ว ไม่ต้องกำเงิน 30 บาทไปจ่ายก็ได้รับการรักษาฟรีอยู่แล้ว ยกเว้นแต่จะใช้ยานอกรายการเท่านั้นที่ต้องจ่ายเพิ่ม แต่ถ้าจนมากไม่มีจริงๆ ก็มีหน่วยงานช่วยเหลืออยู่ และทุกวันนี้ รพ.ต่างๆ ของรัฐก็แบกรับโครงการนี้กันหลังแอ่นแล้ว ถ้าจะอัปเกรดกันผมก็อยากจะรู้ว่าจะอัปตรงไหน อย่างไร ต้องเพิ่มเงินเข้าไปในระบบอัปเกรดอีกเท่าไร จะช่วย รพ.ที่กำลังลำบากในเวลานี้กันอย่างไร เอาเงินจากที่ไหน ทุกวันนี้ผมบอกได้เลยว่าประเทศไทยเป็นประเทศอันดับต้นๆ ของโลกที่มีบริการสาธารณสุขดีกว่าประเทศใหญ่รวยกว่าเรา เก็บภาษีรายได้บุคคลธรรมดามากกว่าเราหลายประเทศเสียอีก
5. โรงเรียนสอน 2 ภาษาทุกท้องถิ่น
*** ทุกวันนี้ยังไม่ได้สอนอีกหรือครับ เราสอนอย่างน้อยสองภาษามานานเท่ากับอายุของโรงเรียนแต่ละโรง บางที่สอนมาเป็นร้อยปีแล้ว และถ้าโรงเรียนอยู่ในท้องถิ่นก็สอนเป็นภาษาถิ่นเพิ่มมาโดยอัตโนมัติ โรงเรียน ม.ปลาย หลายร้อยแห่งทั่วประเทศมีภาษาให้เลือกเรียนมากกว่า 2 ภาษาเสียอีก
ปัญหาหลักคือ เรามีครูสอนภาษาไม่พอ และไม่มีคุณภาพมากกว่า เด็กจบ ม.ปลาย ที่เรียนภาษาอังกฤษมาสิบปี สื่อสารภาษาอังกฤษไม่ได้ หรือได้แบบ งูๆ ปลาๆ ไม่พอใช้งาน มีมากมายอย่างที่เห็น เพราะเราขาดครูที่มีคุณภาพ นี่คือปัญหาหลัก
ผมอยากจะถามต่อว่า ถ้าเลือกพรรคเพื่อไทยแล้วจะเนรมิตครูมาจากไหนล่ะครับ ผมอยากรู้จริงๆ
6. ยาเสพติดต้องหมดไป
*** เป็นนโยบายทุกรัฐบาลอยู่แล้วครับ ไม่มีอะไรใหม่ แล้วยาเสพติดมันหมดไปจริงไหม คนรุ่นพ่อที่ก่อตั้งพรรคชื่อเดิมยังทำไม่ได้เลย แล้วรุ่นลูกมีนโยบายเทพอะไรบ้างที่จะปราบปรามยาเสพติตได้ดีกว่าผมก็อยากรู้ ถ้าทำได้ก็เก่งกว่าพ่อและ ปธน.สหรัฐฯ แล้ว เพราะทุกวันนี้มูลค่าซื้อขายยาเสพติดในสหรัฐฯยังสูงกว่างบประมาณประเทศไทยทั้งประเทศเสียอีก
7. รถไฟความเร็วสูงเชื่อมจีน ไทย สิงคโปร์
*** เงินล่ะครับ เอาที่ไหน สิงคโปร์ไม่เดือดร้อนอยู่แล้ว เพราะเป็นปลายทางเกือบไม่ต้องลงทุนอะไร แต่มาเลย์จะเอาด้วยไหม เพราะต้องลงทุนมหาศาลและมาเลย์ก็ไม่ได้ประโยชน์อะไรกับเรื่องนี้ เพราะเส้นทางเรือจากจีนมามาเลย์คุ้มกว่า ถูกกว่า และใช้เวลาเกือบไม่ต่างกันมากนัก เพราะมาเลย์ไม่ได้อยู่ใต้ประเทศไทยที่เดียว ตอนนี้ประเทศเขาก็ไม่ใช่ว่าจะรวยจากน้ำมันเหมือนเดิม การเมืองก็ไม่นิ่ง ส่วนไทยได้ประโยชน์อะไรกับการเชื่อมรถไฟความเร็วสูงสายใต้ เอาแค่ทางคู่สายใต้ยังต้องรองบประมาณรายปีต่อทีละช่วงอยู่เลย
ผมอยากรู้ว่าไทยจะได้ประโยชน์อะไรกับการเชื่อมทางรถไฟความเร็วสูงไปสิงคโปร์ ผมมองว่าโครงการเดิมเชื่อมสามสนามบิน เชื่อมนิคมอุตสาหกรรมภาคตะวันออก และเชื่อมไปสายอีสานเข้าจีนความเร็วปานกลางไม่ใช่ความเร็วสูง ยังมีประโยชน์ต่อการค้าของประเทศไทยมากกว่าเสียอีก
8. รถไฟฟ้าตั๋วร่วม 20 บาทตลอดสาย
*** รบกวนพรุ่งนี้ช่วยไปคุยกับท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ และท่านรัฐมนตรีคมนาคมเลยครับ จะเป็นพระคุณอย่างสูง ไปบอกวิธีให้ท่านผู้ว่าฯ และท่านรัฐมนตรีด้วยว่ามีทางออกอย่างไร วิธีไหน ที่จะทำให้ตั๋วร่วม 20 บาทตลอดสาย
เอาแค่ตั๋วแมงมุมจ่ายได้ทุกสายยังคุยกันไม่รู้เรื่องมาหลายปี จนต้องแท้งตายไปแล้วเลย”
ที่น่าสนใจไม่แพ้กัน นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้แชร์ความเห็นของผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ที่อ้างว่าเป็นเจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด แสดงทัศนะต่อนโยบายพรรคเพื่อไทย จะขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาทต่อวัน
โดยความเห็นดังกล่าว ระบุว่า ผมเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเป็ด พนักงาน 10 คน มี 3 สาขา=มีพนักงาน 30 คน*600 =18000 ต่อวัน
เดือนละ 540,000 นั้นคือ ค่าแรงพนักงาน
เตี๋ยวเป็ดจากชามละ 50-80 คง เป็น 80-120
คนเดือดร้อนก็คือผู้บริโภค เช่น วินมอเตอร์ไซค์ นักเรียน นักศึกษา ชาวสวนชาวไร่ ชาวนา หรือไม่ผมก็ปิดกิจการเพราะรับภาระเรื่องค่าแรงไม่ไหว
แน่นอน, ประเด็นที่น่าสนใจก็คือ การเสนอนโยบายแบบ “อภิมหาประชานิยม” ของพรรคเพื่อไทย เน้นถูกใจฐานคะแนน แต่ไม่รับผิดชอบว่า จะทำได้หรือไม่ แค่ไหน และผลกระทบที่จะตามมา
เรื่องนี้ดูเหมือน ทักษิณ ชินวัตร และพรรคเพื่อไทย ถนัดอยู่แล้ว ที่เห็นได้ชัดคือ สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ผลักดันนโยบายจำนำข้าวทุกเม็ด ภายใต้สโลแกน “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” จนเกิดปรากฏการณ์ทุจริตคอร์รัปชันตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ทำให้ “ยิ่งลักษณ์” ต้องโทษ และต้องหลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ ส่วนรัฐมนตรี และข้าราชการประจำที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ก็ถูกศาลตัดสินจำคุกคนละหลายสิบปี นี่คือ ความจริง
ครั้งนี้มาใหม่ ในเวอร์ชัน “อุ๊งอิ๊ง” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ซึ่งคาดกันว่า จะเป็น “แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี” ของพรรคเพื่อไทย เมื่อดูจากนโยบายที่ค่อนข้างทำได้ยากถึงยากมาก และพฤติกรรมในอดีตของเจ้าของพรรคนี้ หลายคนจึงเชื่อว่า จะทำให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีกครั้ง
โดยเฉพาะการสร้างผลกระทบและความเสียหายให้กับประเทศ แล้วไม่มีใครรับผิดชอบ และนายกรัฐมนตรี หนีความผิดอย่างที่ผ่านมา
แต่ถึงกระนั้น ก็ขึ้นอยู่กับคนไทย จะสรุปบทเรียนได้มากน้อยแค่ไหน นั่นเอง