นายกฯ ชื่นชมเยาวชนเห็นคุณค่าความสำคัญของภาษาไทย ส่งผลงานประกวดแต่งบทเพลงและการแสดงพื้นบ้าน “ฉ่อย” ย้ำขอให้อนุรักษ์และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้าน เอกลักษณ์ของชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป
วันนี้ (6 ธ.ค.) นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยว่า เวลา 08.30 น. ณ ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบรางวัลการประกวดแต่งบทเพลงและการแสดงพื้นบ้าน “ฉ่อย” ภายใต้แนวคิด “ภาษาจรรโลงใจ” พร้อมทั้งมอบโล่รางวัลและใบประกาศเกียรติคุณและกล่าวให้โอวาท ซึ่ง นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี นำผู้ชนะรางวัลเข้าเยี่ยมคารวะนายกรัฐมนตรีเพื่อรับโล่รางวัล โดยมี นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เข้าร่วมในพิธี
ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวรายงานว่า สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี โดยสำนักงานเสริมสร้างเอกลักษณ์ของชาติได้ดำเนินโครงการรักษ์ภาษาไทย สานคุณค่าและความสำคัญแห่งความเป็นไทย เนื่องในวันภาษาไทยแห่งชาติ เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2565 โดยจัดให้มีกิจกรรมการประกวดแต่งบทเพลงและการแสดงพื้นบ้าน “ฉ่อย” ภายใต้แนวความคิด “ภาษาจรรโลงใจ” เพื่อกระตุ้นและปลุกจิตสำนึกของคนไทยทั้งชาติ ให้ตระหนักถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย ตลอดจนนำไปสู่การร่วมมือร่วมใจทำนุบำรุง ส่งเสริม และอนุรักษ์ภาษาไทย ซึ่งเป็นเอกลักษณ์และเป็นสมบัติทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของชาติไทยให้คงอยู่ตลอดไป อีกทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักเรียน นิสิตและนักศึกษาได้มีส่วนร่วมในการแสดงออกทางทักษะการใช้ภาษาไทยที่ถูกต้อง งดงาม โดยสร้างสรรค์ออกมาในเชิงศิลปะ รวมทั้งเป็นการอนุรักษ์และพัฒนาศิลปวัฒนธรรมเพลงพื้นบ้านอันเป็นเอกลักษณ์ของชาติไทยให้คงอยู่ต่อไป
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีกล่าวชื่นชมผู้ที่ได้รับรางวัลฯ พร้อมขอบคุณเยาวชนทุกคนที่ร่วมส่งผลงานเข้าประกวดการแต่งบทเพลงและการแสดงพื้นบ้าน “ฉ่อย” ภายใต้แนวความคิด “ภาษาจรรโลงใจ” ซึ่งแสดงให้เห็นถึงคุณค่าและความสำคัญของภาษาไทย การแสดงออก และถ่ายทอดคุณค่าทักษะการใช้ภาษาไทยมารังสรรค์ในด้านความบันเทิง โดยสอดแทรกคติแนวคิดในเชิงสร้างสรรค์ อีกทั้งยังเป็นการอนุรักษ์ศิลปะดนตรีพื้นบ้านของไทยในด้านการขับร้องเพลงฉ่อย และสืบสาน เอกลักษณ์ วัฒนธรรม ประเพณี และค่านิยมที่ดีงามของชาติไทยที่มีมาอย่างยาวนานไปสู่เยาวชนคนรุ่นหลังถือเป็นส่วนสำคัญของประเทศที่ช่วยขับเคลื่อนเอกลักษณ์และวัฒนธรรมของชาติให้สืบต่อไป นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี กล่าวมุ่งหวังให้เยาวชนไทยทุกคนมีความรัก ความสามัคคีปรองดองต่อประเทศชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ โดยทุกคนต้องรวมพลังเพื่อประเทศชาติในอนาคตเพื่อความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน และขอให้รักษาสิ่งที่ดีงามให้ยังคงไว้ขยายผลสู่คนรุ่นหลังต่อไปในอนาคต
สำหรับทีมที่ได้รับรางวัลการประกวดแต่งบทเพลงและการแสดงพื้นบ้าน “ฉ่อย” ภายใต้แนวคิด “ภาษาจรรโลงใจ” มีจำนวน 5 รางวัล ดังนี้ 1. รางวัลชนะเลิศ ได้แก่ ทีมปัญจรส บทเพลง “ปังปุริเย่ สุดเท่ภาษาไทย” จาก จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และวิทยาลัยแพทยศาสตร์พระมงกุฎเกล้า 2. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้แก่ ทีมรวมพลคนร้องฉ่อย บทเพลง “ภาษาไทย ภาษาชาติ” จาก มหาวิทยาลัยศิลปากร 3. รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้แก่ ทีมห้ากุมาร บทเพลง “ภาษาสุนทรีย์ กวีพาเพลิน” จาก มหาวิทยาลัยศิลปากร และ 4. รางวัลชมเชย จำนวน 2 รางวัล ได้แก่ ทีมวงดอกคูณ บทเพลง “ยิ้มไหว้ทักทายกัน” จาก โรงเรียนอู่ทองศึกษาวิทยาลัย และทีมศรีสมเด็จบทเพลง “สืบสาวภาษา” จาก มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา